ปัจจุบันการทำประกันสุขภาพ เป็นหนึ่งในการปิดประตูเสี่ยงด้านการเงิน เพราะเราไม่รู้ว่า ตัวเราจะป่วยเมื่อไร และหากว่าป่วยหนัก การเอาเงินเก็บมารักษา ก็อาจจะทำให้กระทบการเงินภายในบ้าน แต่
แผนประกันสุขภาพในปัจจุบันก็มีหลากหลายแผนให้เราเลือก ซึ่งเราจะต้องเลือกตามความต้องการและความพร้อมของตัวเราเอง ซึ่งมีแนวทางการให้เลือกแผนประกันสุขภาพ ฉบับมนุษย์เงินเดือนดังต่อไปนี้
1.ความคุ้มครองมีความเหมาะสมและครอบคลุมความเสี่ยงด้านสุขภาพของเรา ความเจ็บป่วยที่คุ้มครองในแผนประกันสุขภาพ โดยมากแล้วจะแบ่งเป็นการความคุ้มครองที่เข้ารับการรักษาพยาบาลในฐานผู้ป่วยใน การเข้ารับการรักษาในฐานะผู้ป่วยนอก การเข้าแผนกฉุกเฉิน หรือเกิดอุบัติเหตุ การเข้ารับการผ่าตัด การเข้าห้อง ICU ไปจนถึงการคุ้มครองค่าปรึกษาแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญ ค่าพยาบาลที่เฝ้าไข้ ไปจนถึงเงินชดเชยรายได้ หากว่าต้องนอนพักในโรงพยาบาล
สิ่งต่าง ๆ ที่กล่าวไปนี้เป็นความคุ้มครองที่เราจะต้องพิจารณาตามความเสี่ยงของเราเอง ทั้งเรื่องสุขภาพและการใช้ชีวิต ยิ่งคุ้มครองมาก วงเงินยิ่งเยอะ นั่นหมายความว่า เราจะต้องเสียเบี้ยประกันมากขึ้นตามไปด้วย
2.เงื่อนไขความคุ้มครอง เมื่อจะเลือกแผนประกันสุขภาพใด ๆ เราควรจะพิจารณาเงื่อนไขความคุ้มครองต่าง ๆ ให้ดีก่อนที่จะเลือกซื้อ เพราะการซื้อโดยไม่พิจารณาเรื่องเงื่อนไขความคุ้มครอง อาจจะทำให้กรมธรรม์ไม่คุ้มครอง หรือพลาดสิทธิประโยชน์ต่าง ๆ ไปก็เป็นได้ ไม่ว่าจะเป็นอายุความคุ้มครอง ข้อยกเว้น อาชีพที่ไม่รับประกัน การตรวจสุขภาพก่อนที่ทำประกัน และข้อจำกัดอื่น ๆ ที่ประกันจะไม่รับคุ้มครอง หรือไม่สามารถเคลมประกันสุขภาพได้
ด้วยเหตุนี้ นอกจากความคุ้มครองซึ่งเป็นสิทธิประโยชน์ที่เราต้องใส่ใจแล้ว เงื่อนไขความคุ้มครองที่เป็นตัวเล็ก ๆ ก็เป็นสิ่งที่เรามองข้ามไปไม่ได้เช่นเดียวกัน
3.บริษัทที่ขายประกันมีความมั่นคงมากเพียงใด อย่าซื้อแผนประกันสุขภาพเพียงเพราะว่าเบี้ยประกันมีราคาถูกเท่านั้น แต่เราให้มองไปถึงบริษัทที่ขายประกันสุขภาพให้เราด้วยว่ามีความมั่นคงมากน้อยเพียงใด เพราะหากว่าเราซื้อแผนประกันสุขภาพระยะยาวไปแล้ว บริษัทเกิดปิดกิจการ แล้วเวนคืนทุนประกันให้เรา แต่ถึงตอนนั้นเราไม่สามารถซื้อประกันสุขภาพดี ๆ ได้อีกด้วย เพราะอายุที่เพิ่มมากขึ้น ก็ทำให้เราเสียผลประโยชน์ไปได้เช่นเดียวกัน
4.เราจ่ายค่าเบี้ยประกันได้แค่ไหน แม้ว่าการทำประกันสุขภาพจะเป็นการปิดประตูเสี่ยงด้านการเงิน แต่เราก็ไม่ควรจะเลือกแผนประกันสุขภาพที่เบี้ยประกันสูงเกินที่เราจ่ายไหว เพราะอาจจะทำให้เรามีปัญหาเรื่องการเงินได้เช่นเดียวกัน โดยเบี้ยประกันต่อปี จะต้องไม่เกิน 10% ของรายได้ทั้งปีของเรา จึงจะเป็นเบี้ยประกันที่เหมาะสมกับฐานะทางการเงินของเรา
นี่คือ แนวทางง่าย ๆ ในเลือกแผนประกันสุขภาพที่เหมาะสมกับเรา ซึ่งเราสามารถเลือกได้ตามความเหมาะสมและความเสี่ยงด้านสุขภาพของเราเลย