ยามาฮ่ารุกตลาดรถมอเตอร์ไซค์ในเซ็กเม้นท์รถยนต์ครอบครัวกับการส่งรถยนต์ครอบครัวแบบใหม่ปัจจุบันที่อัดแน่นไปด้วยความโก้หรูระดับพรีเมี่ยม กับยามาฮ่า ฟินน์ “ฟินน์กว่า ก็โดนกว่า” รถยนต์ครอบครัวที่ได้รับการวางแบบใหม่ให้มีความพรีเมี่ยมตลอดทั้งคัน ที่มีพร้อมทั้งเครื่องจักรกลขนาด 115 ซีซี หัวฉีด พร้อมเกียร์ 4 สปีดแบบเกียร์วน อีกทั้งมีฟีพบร์เก๋ๆอีกมากมายจนได้รับการตอบกลับจากผู้ใช้รถมอเตอร์ไซค์เป็นอย่างยิ่ง อีกทั้งให้ความประหยัดอดออมน้ำมันจากการทดลองจากสื่อมวลชน ทั้งยังปัจจุบันกับโปรเจ็ค “ยามาฮ่า ฟินน์ ขี่ท่องเที่ยวทั่วไทย ใช้น้ำมันถังเดียว”ซึ่งปัจจุบันได้ผ่านการขับขี่ท่องเที่ยวทั่วจังหวัดนครสวรรค์มาแล้วรวมทั้งครั้งปัจจุบันที่เกิดกับการขับขี่ยามาฮ่า ฟินน์ ที่จังหวัดมหาสารคาม กับการขับขี่ท่องเที่ยวทั่วทั้งเมืองกับระยะทางสูงถึง 246 กิโลเมตรเติมน้ำมันไปเพียงแต่ 100 บาทพอดิบพอดี ไปสู่โปรเจ็ค ยามาฮ่า ฟินน์ ขี่ท่องเที่ยวทั่วไทย ใช้น้ำมันถังเดียว ที่ผ่านไปสู่ทริปการขับขี่ไปสู่จังหวัดลำดับที่สองที่จังหวัดมหาสารคาม ที่สื่อมวลชนสายมอเตอร์ไซค์ทำทริปขับรถท่องเที่ยวขึ้นในต้นแบบใช้งานจริงด้วยความเร็วเหมือนผู้ใช้งานจริงไปในทางต่างๆซึ่งในคราวนี้เว้นเสียแต่สื่อมวลชนแล้วยังได้ชักชวนผู้ใช้รถมอเตอร์ไซค์มาร่วมพิสูจน์ความสามารถของยามาฮ่าฟินน์ในคราวนี้ด้วย โดยการเดินทางเริ่มจากบริษัท อีฮหาดแดงยามาฮ่า จำกัด ผู้แทนจำหน่ายรถมอเตอร์ไซค์ยามาฮ่าในจังหวัดมหาสารคามในขณะ 15.00 น. ภายหลังจากตรวจเช็คมอเตอร์ไซค์ยามาฮ่า ฟินน์ เป็นที่เป็นระเบียบพร้อมเหล่าสมาชิกผู้ใช้รถเครื่องอีก 3 คนซึ่งเป็นชาวจังหวัดมหาสารคามมาถึงพร้อมแล้ว ก็ได้เวลาเดินทางสู่สถานที่สำหรับท่องเที่ยวซึ่งในวันแรกนั้นพวกเราวางไว้ถึง 2 ข้อด้อยกัน
รถมอเตอร์ไซค์ ขับทางไกล ประหยัดน้ํามันไปสู่การเดินทางจากร้านค้าอีฮหาดแดงยามาฮ่า ขบวนรถยามาฮ่า ฟินน์ ทั้งยัง 8 คันก็พร้อมเดินทางกับการเริ่มต้นที่แสนง่ายกับระบบสตาร์ทกระแสไฟฟ้า หรือที่เรียกตามประชาชนว่าสตาร์ทมือ หลังจากนั้นก็เข้าเกียร์ที่แสนจะนุ่มนวลด้วยระบบเกียร์วน 4 ระดับ จากเกียร์ว่างสู่เกียร์ 1 ที่เพียงแต่กดเท้าไปเพียงแค่เบาๆในด้านหน้าของก้านเกียร์ เกียร์1 ก็เข้าง่ายแล้วต่อจากนั้นก็ต่อด้วยเกียร์ 2 เกียร์ 3 เกียร์ 4 ที่ทุกเกียร์ล้วนแล้วแต่มีความละมุนละไม ทำความเร็วได้โดยตลอด ออกมาจากร้านค้าอีฮหาอแดง รถยามาฮ่า ฟินน์ทุกคันก็เติมน้ำมันลงเต็มถัง ต่อจากนั้นก็ขับรถกันต่อสู่วัดหนองหูลิงจากถนนลาดยางราบเรียบในขั้นแรก จนถึงเลี้ยวไปสู่ถนนหนทางที่มุ่งตรงสู่วัด ภาวะถนนหนทางก็แปรไป ภาวะพื้นถนนกลายเป็นฝุ่นผงรวมทั้งตะปุ่มตะป่ำเป็นหลุดบ่อ ซึ่งยามาฮ่า ฟินน์ ได้รับการออกแบบให้โครงรถยนต์เป็นแบบแบ็คโบน ที่วางแบบขึ้นให้มีความแข็งแรงมีเสถียรภาพสำหรับในการขับรถ ลดอาการสะเทือนของเครื่องจักรกลก้าวหน้า สวิงอาร์มดีไซน์ให้มีความแข็งแรงแต่ว่ามีน้ำหนักค่อย ทั้งยังการทดลองความสามารถในด้านการเลี้ยงตัวรวมถึงระบบกันสั่นสะเทือนหน้าและก็กันสั่นสะเทือนข้างหลังซึ่งสามารถรองรับแรงสะเทือนได้ดิบได้ดี ดูดซับแรงกระทบกระแทกของผิวถนนได้อย่างดียิ่ง ทำให้การขับขี่ไปเป็นอย่างเร็วจนกระทั่งมาถึงวัดหนองหูลิงซึ่งเป็นวัดที่มีความเก่าแก่แล้วก็เป็นที่เลื่อมใสของชาวมหาสารคาม ทั้งเป็นวัดที่วางแบบโบสถ์ทรงเรืออนันตนาคราชสีทองคำ มีความกว้าง 20 เมตร ยาว 40 เมตร ซึ่งตัวโบสถ์ได้ซ่อนเร้นปัญหาในทางธรรมไว้ให้พุทธได้เรียนรู้ พวกเราได้ชื่นชอบความสวยสดงดงามของสงฆ์หนองหูลิงได้ครู่หนึ่งใหญ่กระทั่งใกล้ถึงเวลาดวงตะวันจะตก ก็เดินทางต่อสู่ “สะพานไม้มึงดำ” สะพานไม้โบราณที่ผลิตขึ้นทอดผ่านพิงผ่านลำหนองมึงดำเพื่อเชื่อมต่อระหว่างวัดดาวดึงษ์เอ็งดำ บ้านเอ็งดำ กับวัดบุรพทิศวนาราม บ้านหัวขัว โดยสะพานไม้เอ็งดำที่มีระยะทางราว 1 กม. โดยในลำห้วยมีต้นบัวแดงอยู่เยอะมากๆ ภายหลังชื่นชอบความสวยแล้วก็เดินเล่นสะพานกระทั่งฟ้าเริ่มมืดและจากนั้นก็เดินทางกลับ ขณะนี้พวกเราได้มองเห็นหลักการทำงานของระบบไฟหน้าที่หลอดไฟฟ้าเป็นแบบฮาโลเจน ที่มีความสว่างไกลส่องสว่างได้แจ่มแจ้งลงบนผิวถนน อีกทั้งไฟเลี้ยวก็สว่างชัดยามจะเลี้ยวซ้ายขวา รวมทั้งไฟท้ายเมื่อเทียบกับรถยนต์ครอบครัวรุ่นอื่นๆแล้วยามาฮ่า ฟินน์มีไฟเลี้ยวที่ใหญ่มากยิ่งกว่าแจ่มแจ้งกว่าเห็นได้ชัดกว่าโดยเฉพาะอย่างยิ่งในระยะไกลๆทั้งยังแผงหน้าปัดก็เห็นได้ชัดเจนในช่วงกลางคืนให้การเห็นมิเตอร์ความเร็วเด่นชัด หรือแม้กระทั้งจำนวนบอกตำแหน่งเกียร์ที่กระจ่างแจ้งแต่ว่าไม่ก่อกวนสายตาเวลามองดูไปบนถนนหนทาง พวกเราขับรถยามาฮ่าฟินน์ กลับมาสู่เมืองมหาสารคามก่อนแวะทานอาหารมือเย็นแล้วก็กลับสู่บังกะโล ซึ่งในวันแรกนี้พวกเราใช้ระยะทางรวมกว่า 90 กม. นับว่าเป็นทริปเดินทางขับรถท่องเที่ยวที่ครึกครื้นอีกทริปสำหรับเพื่อการขับรถในวันแรกนี้
ไปสู่วันที่สองของการขับขี่ยามาฮ่า ฟินน์ ขี่ท่องเที่ยวทั่วไทย ใช้น้ำมันถังเดียว ที่จังหวัดมหาสารคาม ทริปทัวร์ริ่งออกสตาร์ทของวันนี้กับระบบกุญแจแบบมัลติฟังก์ชั่น ควบคุมการใช้แรงงานได้ในจุดเดียว ไม่ว่าจะเปิดสวิทช์สตาร์ทเครื่องยนต์ จะล็อครถยนต์หรือเปิดเบาะเรียกว่าสะดวกที่สุดในบรรดารถยนต์ครอบครัว ขบวนทัวร์ริ่งยามาฮ่าฟินน์ออกมาจากในเมืองมุ่งหน้าเข้าสู่ “กู่สันตรัตน์” ซึ่งเป็นศิลป์ยุคพระผู้เป็นเจ้าชัยวรมันที่ 7 เป็นโรงหมอในยุคสมัยโบราณ พวกเราขับรถยามาฮ่า ฟินน์ ทำความเร็วราว 80 กิโลเมตร/ชั่วโมง กับเครื่องยนต์กลไกหัวฉีดอัจฉริยะ 115 ซีซีที่มาพร้อมทั้งคอมพิวเตอร์อัจฉริยะ ECU แบบ FlexFuel Vehicle ซึ่งสามารถเติมน้ำมันเบนซินได้ทุกประเภทรวมทั้งแก๊สโซฮอล์E85 พวกเราเดินทางไปแบบฟินน์ฟินน์จนกระทั่งมาถึง “กู่สันตรัตน์” ภายหลังจากยกย่องความสวยศิลป์ยุคเขมรกันและเดินทางต่อสู่วัดพระบรมสารีริกธาตุทุ่งนามองน ซึ่งเป็นสถานที่สำคัญทางศาสนาพุทธของชาวมหาสารคาม เป็นพุทธมณฑลอีสาน พวกเราเข้ากราบสักการพร้อมเดินเวียนเทียนรอบองศ์พระบรมสารีริกธาตุเพื่อเป็นมงคล ก่อนรับประทานอาหารเที่ยงตรงที่ร้านค้าช้างทองกาแฟขี้ช้าง ที่ตั้งอยู่รอบๆปากทางเข้าวัด พร้อมลองกาแฟขี้ช้างซึ่งมีความหอมและก็มีรสชาติอร่อยไม่เปรี้ยวไม่ขมทั้งนุ่มคอ โดยกาแฟขี้ช้างนี้เป็นกาแฟอราบิก้าที่เอามาให้ช้างรับประทานก่อนจะเลือกเอาเม็ดกาแฟที่มีภาวะบริบูรณ์ในมูลช้างมาผ่านแนวทางการรวมทั้งบ่มอยู่ 2 ปีกลายที่จะเอามาผลิตเป็นกาแฟขาย โดยกาแฟขี้ช้างราคาละ 400 บาทต่อแก้ว นอกเหนือจากนั้นในร้านค้ายังขายของกินหลายชนิดเพื่อเป็นที่พักผ่อนหย่อนใจของแขก ต่อไปทริปทัวร์ริ่งยามาฮ่าฟินน์ก็เดินทางสู่พิพิธภัณฑสถานบ้านอีสาน ตั้งอยู่สถานีศึกษาค้นคว้าวลัยรุกขเวช มหาวิทยาลัยมหาสารคาม โดยด้านในพิพิธภัณฑสถานบ้านอีสานนั้นจำลองแบบบ้านของชาวอีสานในแบบต่างๆเพื่อราษฎรทั่วๆไปได้ศึกษาเล่าเรียนของชาวอีสาน ซึ่งยามาฮ่าฟินน์ ให้ความฟินน์กว่าผู้ใดเมื่อเป็นรถยนต์ครอบครัวรุ่นแรกที่มีช่องใส่ของข้างหน้าไม่ว่าจะใส่ขวดน้ำ หรือโทรศัพท์เคลื่อนที่ก็สบาย ส่วนใต้เบาะนั่งนั้นมีที่เก็บของใต้เบาะขนาดใหญ่ 9.7 ลิตร สวมหมวกกันน็อคครึ่งใบได้ ระบบเบรกเป็นแบบดิสก์เบรกหน้ารวมทั้งดรัมเบรกข้างหลัง ดังนี้ยามาฮ่า ฟินน์ มีวงล้อทั้งยังล้อแม็กซ์ แล้วก็วงล้อซี่ลวด ให้ผู้ใช้เลือกได้ตามใจอยากได้ ปริมาณยางที่พอเพียงต่อการใช้แรงงานรวมทั้งการขับขี่ท่องเที่ยวโดยยางหน้ามีขนาด 70/90-17 รวมทั้งยางข้างหลังขนาด 80/90-17
แล้วต่อจากนั้นทริปยามาฮ่า ฟินน์ ขี่ท่องเที่ยวทั่วไทย ใช้น้ำมันถังเดียว เดินทางกลับไปสู่ในเมืองมหาสารคามเพื่อร่วมงาน “ยามาฮ่า คัพ เรซ”ที่จัดขึ้นที่ห้างเสริมไทยคอมเพล็กซ์ ซึ่งจัดแจงแข่งความเร็วเพื่อชาวมหาสารคามได้ดูกัน ยิ่งกว่านั้นในงานยังได้ชวนทริปยามาฮ่า ฟินน์ ขี่ท่องเที่ยวทั่วไทย ใช้น้ำมันถังเดียว เข้าทดสอบสนามสำหรับเพื่อการแข่งขันเสมือนนักแข่งขันที่ลงแข่งขันในรายการนี้ ทั้งยังทางยามาฮ่ายังได้จัดเกมการประลอง Yamaha Finn Mechanic โดยนำยามาฮ่าฟินน์มาให้นักแข่งขันคนใหม่ได้ลงขับรถแข่งอีกด้วย...ดังนี้ทริปการเดินทางท่องเที่ยวกับยามาฮ่า ฟินน์ ขี่ท่องเที่ยวทั่วไทย ใช้น้ำมันถังเดียว ในคราวนี้ใช้ระยะทางทั้งผอง 246 กิโล พวกเรากระทำเติมน้ำมันกลับลงไปให้เต็มถังปรากฏว่า พวกเราใช้เงินเติมน้ำมันไปเพียงแค่ 100 บาท หรือเติมน้ำมันกลับลงไป 3.37 ลิตร ซึ่งเมื่อเอามาคำนวณหาอัตราความอดออมน้ำมันแล้วอยู่ที่ 72.99 กิโลเมตร/ลิตร นับว่าเป็นเป็นอัตราการใช้น้ำมันที่มัธยัสถ์มากมายกับทริปการขับขี่ท่องเที่ยวในจังหวัดมหาสารคามในคราวนี้