แสดงกระทู้

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.


Messages - siritidaphon

หน้า: [1] 2 3 ... 59
1
การจัดฟันแบบใส ถือว่าเป็นการจัดฟันที่ได้รับความนิยมมากในปัจจุบัน เพราะนอกจากจะเป็นการส่งเสริมทำให้ผู้เข้ารับการจัดฟันมีสุขภาพช่องปากและฟันที่แข็งแรง ไม่ทำให้เกิดฟันผุ เพราะการเข้ารับการจัดฟันแบบใสนั้น ผู้เข้ารับการจัดฟันสามารถถอดเครื่องมือการจัดฟันออกได้ขณะทำความสะอาดช่องปาก จึงทำให้ไม่เกิดฟันผุ และมีฟันที่สะอาด เพราะการผุของฟัน จะเริ่มขึ้นที่ชั้นผิวเคลือบฟันก่อน โดยจะเห็นเป็นจุดดำเล็ก ๆ หรือเป็นเส้นดำตามร่องฟันด้านบดเคี้ยว  หรือเนื้อฟันมีสีขาวขุ่นผิดปกติ  ดังนั้น การทำความสะอาดฟันที่ดี สามารถชะลอการลุกลามของโรคฟันผุได้  แต่หากเราปล่อยไว้ไม่ดูแล ฟันผุลุกลามไปถึงขั้นเนื้อฟัน จะมีอาการเสียวฟันเมื่อบดเคี้ยวอาหาร หรือเมื่อกระทบของเย็น บางครั้งอาจมีอาการปวดได้ แต่หากเรายังปล่อยทิ้งไว้จนฟันผุลุกลามไปถึงขั้นโพรงประสาทฟัน



ซึ่งมีเส้นเลือดและเส้นประสาท จะทำให้อาการปวดรุนแรงมากขึ้น จนอาจต้องสูญเสียฟัน เนื่องจากผุลุกลามมาก ไม่สามารถเก็บรักษาฟันซี่นั้นไว้ได้  ซึ่งจะมีผลกระทบด้านการบดเคี้ยวจะมีประสิทธิภาพลดลง และต้องใช้ฟันเทียม ซึ่งมีค้าใช้จ่ายเพิ่มมากขึ้นโดยไม่จำเป็น ดังนั้น การเข้ารับการจัดฟันแบบใส ทำให้ผู้เข้ารับการจัดฟันได้ทำความสะอาดช่องปากอย่างเต็มที่ ต่างจากคนที่เข้ารับการจัดฟันแบบทั่วไปที่อาจจะทำความสะอาดได้ไม่ทั่วถึงนั่นเอง


นอกจากนี้ ผู้เข้ารับการจัดฟันแบบใส ยังมีเครื่องมือการจัดฟันที่มีประสิทธิภาพในการทำงาน ช่วยให้ฟันเคลื่อนตัวไปยังตำแหน่งที่ต้องการ ตามแผนการรักษาที่ทันตแพทย์ได้ทำการวางไว้ก่อนการรักษา และเครื่องมือยังออกแบบมาเป็นพิเศษ เพื่อให้สามารถเข้ากับช่องปากของผู้เข้ารับการจัดฟันแบบใสได้เป็นอย่างดี หลายคนที่สนใจจะเข้ารับการจัดฟันแบบใส คงมีคำถามว่า  การสวมใส่เครื่องือการจัดฟันแบบใสนั้น จะทำให้เกิดการระคายเคืองช่องปากหรือไม่ เพราะปัญหาที่ผู้เข้ารับการจัดฟันมักจะเจอนั่นก็คือ การที่เครื่องมือการจัดฟัน เกิดบาดกระพุ้งแก้ม ทำให้เกิดแผลภายในช่องปาก ทำให้มีอาการแสบและทำให้รับประทานอาหารได้ไม่เต็มที่ ต้องบอกก่อนว่า เครื่องมือการจัดฟันแบบใส กับเครื่องมือการจัดฟันแบบทั่วไปนั้น มีความแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง เพราะเครื่องมือการจัดฟันแบบใส ถูกออกแบบมาเฉพาะบุคคล ทำให้ผู้เข้ารับการจัดฟันแบบใส สามารถสวมใส่เครื่องมือการจัดฟันได้อย่างพอดี

 
โดยไม่เกิดการระคายเคือง สำหรับข้อนี้ผู้ที่กำลังจะตัดสินใจเข้ารับการจัดฟันแบบใส ไม่ต้องกังวลเลย เพราะเครื่องมือการจัดฟันแบบใส สามารถถอดออกได้อย่างง่ายดาย มีความกระชับ ทำให้เวลาที่สวมใส่เครื่องมือรู้สึกสบายแทบจะไม่รู้สึกเลยว่าเรากำลังเข้ารับการจัดฟันอยู่ และที่สำคัญเครื่องมือการจัดฟันแบบใส สามารถถอดออกได้ขณะรับประทานอาหาร ทำให้ผู้เข้ารับการจัดฟันสามารถรับประทานอาหารได้อย่างหลากหลาย โดยไม่ต้องกังวลเรื่องของเครื่องมือเลย เพราะฉะนั้น การเข้ารับการจัดฟัน สามารถตอบโจทย์การใช้ชีวิตประวันได้อย่างดีเลยทีเดียว


หากใครสนใจเข้ารับการจัดฟันแบบใส สามารถติดต่อ ขอรับคำแนะนำได้ที่คลินิกเพราะทางเรามีทันตแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญด้านการจัดฟันและมีประสบการณ์อย่างยาวนาน ทำให้มั่นใจได้ว่าคุณจะมีฟันที่เรียงตัวกันอย่างสวยงามได้อย่างแน่นอน และที่สำคัญทางเรายังมีเครื่องมือ อุปกรณ์ที่มีความสะอาด ปลอดภัยได้มาตรฐาน และยังได้รับรองสูงสุดจาก invisalign เพราะการเข้ารับการจัดฟันแบบใส จะต้องทำโดยทันตแพทย์ที่ผ่านการรับรองจาก invisalign เท่านั้น แน่นอนว่าถ้าเข้ารับการจัดฟันจากทางคลินิกคุณจะมีสุขภาพช่องปากและฟันที่ดี มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นอย่างแน่นอน


เวลาสวมใส่เครื่องมือการจัดฟันใส จะทำให้เกิดการระคายเคืองช่องปากหรือไม่ ? อ่านบทความเพิ่มเติมคลิ๊กที่นี่ https://www.idolsmiledental.com/

2
การดูแลรักษาความสะอาดของช่องปากและฟัน ถือว่าเป็นเรื่อสำคัญมาก เพราะ การรักษาสุขภาพปากและฟันที่ดีเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดที่เราจะทำเพื่อเหงือกและฟันของเรา นี่คือขั้นตอนง่ายๆ ที่จะช่วยลดความเสี่ยงต่อฟันผุ โรคเหงือก และปัญหาเกี่ยวกับฟันอื่นๆด้วย ดูแลรักษาฟันให้สะอาดอยู่เสมอด้วยการทำความช่องปากและฟันให้เป็นกิจวัตร เพื่อให้ฟันจะได้ไม่ต้องมีปัญหาการสูญเสียฟันในอนาคตได้ เพราะเมื่อไหร่ที่เราสูญเสียฟัน อาจจะทำให้เรามีปัญหาฟันตามมาอีกได้ แต่ถ้าหากว่าเรามีปัญหาเกี่ยวกับสุขภาพช่องปากและฟัน เราสามารถแก้ไขปัญหาได้ด้วยการเข้ารับการจัดฟันแบบใส


เพราะการเข้ารับการจัดฟันแบบใส สามารถแก้ไขปัญหาได้แทบทุกกรณีและยังมีผลการรักษาที่มีความแม่นยำมากด้วย เพราะด้วยการรักษาที่มีการเทคโนโลยีเข้ามาช่วยในการรักษา และการจัดฟันแบบใส ถือว่าเป็นการจัดฟันที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากอีกด้วย ทั้งวัยรุ่น ดารา และคนทั่วไป เพราะการจัดฟันแบบใส มีความแตกต่างจากการจัดฟันแบบอื่น ตรงที่เป็นการจัดฟันที่ออกแบบด้วยระบบคอมพิวเตอร์แบบ 3D สามารถทราบผลการรักษาล่วงหน้าได้ ผู้เข้ารับการรักษาสามารถดูการเคลื่อนตัวของฟันได้ด้วย เพื่อที่จะได้ออกแบบรอยยิ้มของตัวเองได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ การเข้ารับการจัดฟันแบบใส ยังช่วยทำให้ผู้เข้ารับการจัดฟัน สามารถใช้ชีวิตประจำวันได้อย่างเต็มที่ และเป็นปกติ เพราะการจัดฟันแบบใส ส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวันน้อยมาก  ดังนั้น ไม่ต้องกังวลเลยในเรื่องของผลกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวัน

 

สำหรับคนที่อยากจะเข้ารับการจัดฟันแบบใส หลายคนอาจจะมีคำถามมากมาย ไม่ว่าจะเป็นการเตรียมตัวก่อนเข้ารับการรักษา หรือแม้กระทั่งการปฏิบัติตัวในขณะการเข้ารับการจัดฟัน และที่สำคัญเมื่อเราเข้ารับการจัดฟันเสร็จแล้วจะต้องดุแบรักษาฟันอย่างไร เพื่อไม่ให้ฟันของเรากลับมามีปัญหาอีก แน่นอนว่ากภายหลังจากการเข้ารับการจัดฟัน ไม่ว่าจะเป็นการเข้ารับการจัดฟันในรูปแบบใด ผู้เข้ารับการจัดฟันก็จะต้องสวมใส่รีเทนเนอร์เพื่อคงสภาพฟันไม่ให้เคลื่อนกลับไปในตำแหน่งเดิม แต่การเข้ารับการจัดฟันแบบใส คนที่กำลังจะเข้ารับการจัดฟัน อาจจะสงสัยว่า เมื่อจัดฟันแบบใส เสร็จสิ้นแล้ว ผู้เข้ารับการจัดฟันจะต้องสวมใส่รีเทนเนอร์หรือไม่ 


วันนี้ทางคลินิกเราจะมาพูดถึง การเข้ารับการจัดฟันแบบใส เราต้องสวมใส่รีเทนเนอร์หรือไม่ สำหรับการจัดฟันแบบใส เมื่อเข้ารับการจัดฟันเสร็จเรียบร้อยแล้ว ผู้เข้ารับการจัดฟันจะต้องสวมใส่รีเทนเนอร์เหมือนกัน เนื่องจากเครื่องมือการจัดฟันแบบใสใช้หลักการเดียวกับการจัดฟันแบบสวมใส่เหล็กจัดฟัน นั่นก็คือการใช้แรงกดรอบๆรากฟัน เพื่อให้ฟันเคลื่อนไปตามทิศทางที่ต้องการหรือตำแหน่งที่ทันตแพทย์ได้วางแผนเอาไว้ ดังนั้น ผู้เข้ารับการจัดฟันแบบใสจะต้องสวมใส่รีเทนเนอร์เพื่อคงสภาพฟันเช่นเดียวกัน แต่อย่างไรก็ตาม ภายหลังจากเข้ารับการจัดฟันเสร็จเรียบร้อยแล้ว ผู้เข้ารับการจัดฟันจะต้องปฏิบัติตัวตามคำแนะนำของทันตแพทย์ เพื่อให้ผลการรักษาเป็นไปตามแผนที่ทันตแพทย์วางไว้และมีผลการรักษาที่มีประสิทธิภาพ

 

อย่างไรก็ตาม หากคุณสนใจเข้ารับการจัดฟันแบบใส ก็สามารถติดต่อขอรับคำแนะนำได้ที่คลินิก เพราะทางเรามีทันตแพทย์และเจ้าหน้าที่คอยให้คำปรึกษา และทันตแพทย์ของเรามีความเชี่ยวชาญในด้านการจัดฟันแบบใส มีประสบการณ์ทางด้านทันตกรรมอย่างยาวนาน จึงสามารถให้คำปรึกษาได้อย่างตรงจุด นอกจากนี้ คลินิกของเรายังได้รับการรับรองสูงสุดจาก  invisalign ให้สามารถให้บริการทางด้านการจัดฟันแบบใส ได้อย่างปลอดภัยตามหลักมาตรฐานสากล จึงทำให้ผู้เข้ารับการรักษาทุกคนมั่นใจได้ว่า คุณจะได้รับการรักษาที่มีความปลอดภัย มีความน่าเชื่อถือได้อย่างแน่นอน เพราะเราอยากให้ทุกคนมีฟันที่สวยงามเป็นธรรมชาติ เพื่อที่จะได้ ใช้ชีวิตประจำวันได้อย่างเต็มที่ และมีสุขภาพช่องปากและฟันที่ดี มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นได้อย่างแน่นอน


การจัดฟันใส เมื่อจัดแล้วต้องใส่รีเทนเนอร์เพื่อคงสภาพฟันไหม ? อ่านบทความเพิ่มเติมคลิ๊กที่นี่ https://www.idolsmiledental.com/

3
ล่าสุดทาง Mitsubishi Motors Malaysia ได้แนะนำรถใหม่รถกระบะรุ่นพิเศษ ที่จะถูกผลิตออกมาในจำนวนจำกัดเพียง 120 คันเท่านั้น โดยจะใช้ชื่อเรียกว่า Mitsubishi Triton Knight ซึ่งเป็นรุ่นพิเศษที่ได้นำเอารุ่นย่อยท็อปสุดคือ Mitsubishi Triton รุ่น Adventure X มาตกแต่งเพิ่มเติมเข้าไปนั้นเอง


สำหรับรถกระบะใหม่ Mitsubishi Triton Knight รุ่นพิเศษนี้ มาพร้อมการตกแต่งด้านหน้าที่มากับกันชนหน้าตกแต่งใหม่สีเทา พร้อมปั้มคำว่า Mitsubishi การ์ดฝากระโปรงหน้า กันสาดข้างตัวรถ รวมไปถึงสติกเกอร์คาดสุดสะดุดตาด้านข้างตัวรถ ตัดกันอย่างชัดเจนกับตัวถังสีขาว White Diamond


ส่วนของภายในรุ่นพิเศษนี้ติดตั้งสครับแพลท พรมดำขอบแดงพร้อมปักคำว่า Knight นอกเหนือจากนี้ อุปกรณ์ต่างๆ เหมือนกันกับรุ่นท็อปสุดอย่างรุ่น Adventure X ไม่ว่าจะเป็นกล้องรอบคัน กล้องบันทึกหน้ารถ จอกลางแบบสัมผัส 7 นิ้ว รองรับการเชื่อมต่อ Apple CarPlay และ Android Auto

ด้านระบบความปลอดภัยก็เช่นกัน ทั้งเตือนกันชนด้านหน้าและเบรกอัตโนมัติ เตือนจุดอับสายตา เตือนจุดอับขณะถอยหลัง ไฟสูงอัตโนมัติ เป็นต้น ขุมกำลังยังคงเครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบ MIVEC ขนาด 2.4 ลิตร รีดกำลังสูงสุด 181 แรงม้า แรงบิด 430 นิวตันเมตร ส่งกำลังผ่านระบบเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด และระบบขับสี่ Super Select 4WD-II สนนราคาค่าตัว RM137,900 หรือราว 1.004 ล้านบาท

ออล นิว ไทรทัน: รถกระบะใหม่ Mitsubishi Triton Knight รุ่นพิเศษ เพียง 120 คัน ในมาเลเซีย อ่านบทความเพิ่มเติมคลิ๊กที่นี่ https://www.checkraka.com/car/mitsubishi/triton/

4
ที่บูธรถยนต์มิตซูบิชินอกจากไฮไลท์เด่นอย่างรถกระบะต้นแบบ Mitsubishi XRT Concept แล้ว ทางค่ายยังได้จัดแสดงรถกระบะ Mitsubishi Triton Single Cab 2.4 GL 4WD AT ตกแต่งใหม่รอบคันสไตล์ลุยสายแคมป์จอดที่ไหนนอนที่นั้นกันได้เลย



พื้นฐานของรถกระบะแต่งคันนี้มาจาก Mitsubishi Triton Single Cab 2.4 GL 4WD AT ที่มีราคาค่าตัว 714,000 บาท หรือรถกระบะแบบตอนเดียว ที่ติดตั้งมากับชุดกันชนหน้าเหล็กใหม่ทำสีเดียวกับตัวรถ พร้อมชุดไฟสปอตไลท์คู่ด้านหน้า รวมไปถึงไฟตัดหมอก และไฟ LED ครบครัน


นอกจากนี้ยังได้ติดตั้งกันกระแทกด้านข้างที่ยาวเป็นชิ้นเดียวไปกับชุดบันไดข้างทำสีเดียวกับตัวรถ รับกับชุดกันชนหลังใหม่เหล็กท่อนทรงกลมสีเดียวกับตัวรถเช่นกัน และยังมีการเปลี่ยนล้อและยางพร้อมลุยใหม่จาก LENSO ส่วนของด้านท้ายกระบะติดตั้งบาร์อเนกประสงค์รองรับการติดตั้งเต้นท์หลังคาด้านบนจาก TJM และปิดท้ายด้วยลวดลายกราฟฟิครอบคันสีดำสุดเท่



มิตซูบิชิเผยโฉมรถกระบะต้นแบบ Mitsubishi XRT Concept ครั้งแรกของโลก ที่จะมาเป็น Triton

ค่ายรถยนต์ตราเพชร มิตซูบิชิ ได้ทำการเปิดเผยรถต้นแบบคันจริง Mitsubishi XRT Concept ที่จะเป็นแนวทางการออกแบบให้กับรถกระบะโฉมใหม่ All-New Mitsubishi Triton ที่เตรียมจะเปิดตัวภายในปีนี้ ที่งาน Motor Show 2023 ณ อาคารชาเลนเจอร์ อิมแพ็ค เมืองทองธานี


Mitsubishi XRT Concept เป็นรถต้นแบบของรถกระบะไทรทัน โมเดลใหม่ ที่มาพร้อมดีไซน์ดุดันสะดุดตาตั้งแต่ด้านหน้าจรดท้าย เสริมอารมณ์แกร่งด้วยเส้นนำสายตาจากกระโปรงหน้าสู่ด้านข้างตัวถังในสไตล์แนวราบ พร้อมการตกแต่งเหนือซุ้มล้อหน้า-หลัง และติดตั้งยางลุยโคลน (mud-terrain) ที่ช่วยเพิ่มพลังขับเคลื่อนเต็มสปีด ปราดเปรียวพร้อมพุ่งทะยานในทุกเส้นทางสุดหฤโหดของการแข่งขันแรลลี่

ตัวถังของ Mitsubishi XRT Concept ห่อหุ้มด้วยลายพราง ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจมาจาก “ลาวา” หินภูเขาไฟที่อัดแน่นด้วยพลังงาน อันทรงพลัง พร้อมด้วยกราฟฟิกเส้นขนานแนวเฉียง 10 เส้น ในแบบฉบับของโลโก้ แรลลี่อาร์ท ที่สะท้อนถึงจิตวิญญาณที่ขับเคลื่อนไปข้างหน้าของมิตซูบิชิ มอเตอร์ส ได้อย่างโดดเด่น

ส่วนรายละเอียดของเครื่องยนต์นั้น ยังไม่มีการประกาศออกมาแต่อย่างใด แต่คาดว่าจะมีการเปลี่ยนเครื่องยนต์เป็นชุดใหม่ หลังจากที่ทางมิตซูบิชิได้ใช้งานเครื่องยนต์ดีเซล 2.4 ลิตร มาเป็นเวลานานแล้ว

โดย Mitsubishi XRT Concept คันนี้ จะเป็นแนวทางการออกแบบให้กับรถกระบะโฉมใหม่ All-New Mitsubishi Triton ที่ถึงเวลาต้องเปลี่ยนใหม่และเปิดตัวภายในปีนี้ ซึ่งต้องมาดูกันอีกทีว่าตัวจริงที่จำหน่ายนั้น หน้าตาจะเปลี่ยนไปจากนี้ขนาดไหน


all new mitsubishi triton 2024: ยลโฉมคันจริง Mitsubishi Triton Single Cab 2.4 GL 4WD AT แต่งลุยสายแคมป์ อ่านบทความเพิ่มเติมคลิ๊กที่นี่ https://www.checkraka.com/car/mitsubishi/triton/

5
ผลพวงจากปาร์ตี้จะเป็นอะไรได้ ถ้าไม่ใช่ อาการแฮงค์ เมาค้าง ที่ทำเอาปวดหัวสุดๆ มาดู 7 วิธีแก้แฮงค์ แก้เมาค้าง ที่ทำแล้วตาสว่าง พร้อมทำงานหลังปาร์ตี้หนักมาทั้งคืนกันดีกว่า! ใครที่หยุดยาวทีไรก็ปาร์ตี้หนัก ดื่มแอลกอฮอล์จัดเต็มทุกที แต่ทุกครั้งที่ตื่นมาก็ตามมาด้วยอาการแฮงค์ อาการเมาค้าง ที่ทำให้อยากนอนอยู่บนเตียงทั้งวัน ต้องไม่พลาด วิธีแก้แฮงค์ดีๆ ที่เราเอามาฝากกันเลย!

 

วิธีแก้แฮงค์ แก้เมาค้าง

 
1. ซดกาแฟดำ

หากเมื่อคืนจัดหนักด้วยแอลกอฮอล์ไปแล้ว เช้ามาอาจจะต้องจัดหนักด้วยกาแฟดำค่ะ จะเป็นอเมริกาโน่ร้อนๆ สักแก้ว หรือเอสเพรสโซ่เข้มๆ สักช็อต จัดไปบอกเลยว่ารู้เรื่อง! ตาสว่างพร้อมไปทำงานเลยค่ะ เพราะคาเฟอีนในกาแฟนั้นจะช่วยคลายอาการมึนหัว เวียนหัว ช่วยเพิ่มความดันในกระแสเลือดทำให้แอลกอฮอล์ออกจากกระแสเลือดได้เร็วขึ้นด้วย แต่สำหรับใครที่ไม่ใช่คอกาแฟอยู่แล้วอย่าจัดหนักเกินไปนะคะ เพราะไม่อย่างนั้นอาจจะทำให้มึนหัวหนักกว่าเดิมได้!

 
2. ดื่มน้ำเปล่ามากๆ

ถ้ายังมีสติหลังปาร์ตี้มาอย่างหนักแนะนำให้ดื่มน้ำเปล่ามากๆ ก่อนไปนอนนะคะ หรือถ้าดื่มหนักจนไม่รู้สึกตัว หลังตื่นนอนให้ดื่มน้ำเปล่าให้มากๆ ค่ะ เนื่องจากอาการแฮงค์เกิดจากการที่ร่างกายขาดน้ำ หลังจากขับแอลกอฮอล์และน้ำออกไปจากร่างกายในปริมาณมาก ฉะนั้นทางแก้ที่ง่ายๆ เลยก็คือ การดื่มน้ำให้มากๆ นี่ล่ะ!

 
3. กินอาหารประเภทโปรตีนและอาหารที่ย่อยง่าย

หากตื่นมาแล้วแฮงค์อย่างหนักในตอนเช้า อย่าเพิ่งกินอาหารมันๆ ทอดๆ นะคะ เพราะจะยิ่งทำให้มีอาการคลื่นไส้อาเจียนมากขึ้น แนะนำให้กินอาหารประเภทโปรตีน อย่างไข่ต้ม หรืออาหารที่ย่อยง่าย อย่างโจ๊ก ข้าวต้ม น้ำซุป ก๋วยเตี๋ยว จะช่วยบรรเทาอาการเมาค้างได้ดีค่ะ การได้ซดน้ำซุปร้อนๆ จะช่วยให้ร่างกายสดชื่นขึ้นและยังช่วยลดอาการขาดน้ำได้ด้วยค่ะ


4. ดื่มน้ำขิงอุ่นๆ

น้ำขิงนั้นขึ้นชื่อเรื่องมีสรรพคุณในการแก้อาการวิงเวียงศีรษะและอาการคลื่นไส้ได้ดีค่ะ ลองชงน้ำขิงหรือจะใช้แบบซองสำเร็จ ดื่มตอนแฮงค์ๆ ก็จะช่วยลดอาการเวียนหัวได้ นอกจากนี้น้ำขิงยังช่วยในเรื่องของระบบขับถ่าย ช่วยขับปัสสาวะ ซึ่งจะช่วยขับเอาแอลกอฮอล์ออกมาได้ดีขึ้นอีกด้วยค่า

 
 
5. ออกกำลังกายเบาๆ ขับแอลกอฮอล์

อย่าเพิ่งตกใจไปค่ะว่าแฮงค์ๆ อยู่จะไปออกกำลังกายไหวได้ยังไง ออกกำลังกายในที่นี้หมายถึงการออกกำลังกายเบาๆ อย่างการเดิน การวิ่งเหยาะๆ ให้เหงื่อออกบ้างค่ะ เพราะเหงื่อจะช่วยขับแอลกอฮอล์ออกมา และระหว่างออกกำลังกายแนะนำให้ดื่มเกลือแร่ที่ไม่มีน้ำตาลสักหน่อยเพื่อชดเชยการเสียเหงื่อและคืนความสดชื่นให้กับร่างกาย แล้วอาการแฮงค์ก็จะดีขึ้นค่ะ

 
6. จั่งซี้มันต้อง..ถอน !!

เค้าว่าอาการแฮงค์จะหายได้ถ้าถอนด้วยตัวการที่ทำให้แฮงค์นั่นล่ะ! ใครที่ตื่นมามึนๆ แนะนำให้ดื่มเบียร์เย็นๆ สักกระป๋องค่ะ กระป๋องเดียวเท่านั้นนะคะ!! สักพักอาการปวดหัวก็จะค่อยๆ ดีขึ้น แต่อย่าเผลอดื่มเข้าไปอีกหลายกระป๋องเด็ดขาดเลยนะค้าา

 
7. ใช้ช้อนลดบวม!

สิ่งที่ตามมาหลังจากอาการแฮงค์ก็คือตาบวมๆ หน้าล้าๆ นั่นเองค่ะ แนะนำให้นำช้อนกินข้าว 2 คัน ไปแช่ไว้ในช่องแช่แข็งของตู้เย็นสักพัก จากนั้นให้นำมาทาบบริเวณตาทั้งสองข้างประมาณ 5 นาที หรือจะทาบบริเวณใบหน้าด้วยก็ได้ ช้อนเย็นๆ จะช่วยทำให้ตื่นจากอาการแฮงค์ ลดอาการบวมใต้ตา และทำให้ใบหน้าสดชื่นขึ้น!


7 วิธีแก้แฮงค์ แก้เมาค้าง ทำแล้วตาสว่าง พร้อมทำงานหลังปาร์ตี้หนักมาทั้งคืน! อ่านบทความเพิ่มเติมคลิ๊กที่นี่ https://mmed.com/

6
ทุกครั้งที่มีประชุม อาการง่วงนอนก็มักจะมาทักทายทันที ยิ่งวันไหนต้องเข้าประชุมตอนบ่าย ร่างกายแทบจะต่อสู้กับความง่วงไม่ไหว วันนี้จึงชวนสาวๆ ที่ชีวิตการทำงานมักต้องเข้าประชุมบ่อยๆ มาแก้อาการง่วงนอนด้วย 10 วิธีที่ไม่ทำให้สัปหงกระหว่างประชุมจนต้องเสียงานสำคัญกันค่ะ จะต้องทำอย่างไรกันบ้างนั้น ไปติดตามอ่านพร้อมๆ กันเลย


1.จิบชากาแฟไร้น้ำตาล
แน่นอนว่าชากาแฟซึ่งเป็นเครื่องดื่มที่มีสารคาเฟอีนมีส่วนช่วยแก้อาการง่วงนอนได้ ดังนั้นหากรู้ว่าวันไหนต้องเข้าประชุม อย่าลืมเตรียมชาหรือกาแฟไร้น้ำตาลจิบก่อนเข้าประชุม หรือจะพกเข้าประชุมไปด้วยก็ยิ่งดี ได้ทั้งแก้อาการง่วงและไม่เสียสุขภาพจากน้ำตาลอีกด้วย


2.จิบน้ำเย็น
การจิบน้ำเย็นถือเป็นตัวเลือกสำหรับสาวๆ ที่ไม่สามารถดื่มเครื่องดื่มคาเฟอีนได้ ซึ่งน้ำเย็นมีส่วนช่วยเติมความสดชื่นให้กับร่างกายได้ตลอดเวลา และที่สำคัญน้ำเปล่ายังช่วยเพิ่มออกซิเจนในเลือด และช่วยให้เลือดไปเลี้ยงสมองได้อย่างมีประสิทธิภาพเลยทีเดียว


3.อมลูกอมรสเปรี้ยว
ลูกอมรสเปรี้ยวช่วยแก้อาการง่วงนอนได้เป็นอย่างดี อมไว้ตอนประชุมก็ดูไม่เป็นการเสียมารยาท ที่สำคัญวิธีนี้ช่วยปลุกร่างกายจากความง่วงได้แบบเนียนๆ


4.ทานอาหารที่ช่วยแก้ง่วง
อาหารที่ช่วยแก้อาการง่วงนอนได้ส่วนใหญ่จะเป็นอาหารประเภทขบเคี้ยว แนะนำให้สาวๆ เลือกทานอัลมอนด์ ผลไม้ หรือช็อกโกแลต เพราะช่วยให้ตื่นจากอาการง่วงได้ดี แถมยังเคี้ยวเพลินในระหว่างการประชุมอีกด้วย แต่วิธีนี้อาจจะไม่เหมาะสำหรับการประชุมที่เป็นทางการเท่าไรนัก


5.นั่งบนเก้าอี้ที่ไม่มีพนักพิง
การนั่งประชุมบนเก้าอี้ที่ไม่มีพนักพิง ช่วยเพิ่มความกระตือรือร้นให้กับร่างกาย เพราะร่างกายจำเป็นต้องระมัดระวังการนั่งอยู่เสมอ หากเผลอหลับไปอาจทำให้หงายหลังในช่วงประชุมได้


6.ลุกออกไปยืดเส้นยืดสาย
ในกรณีที่มีอาการง่วงมากๆ จนสมองไม่รับรู้หรือจับประเด็นการประชุมได้แล้วนั้น ควรขออนุญาตในที่ประชุมออกไปยืดเส้นยืดสายข้างนอกสัก 2-3 นาที เพื่อให้ร่างกายตื่นตัว


7.เลือกที่นั่งแถวหน้า
การเลือกที่นั่งประชุมแถวหน้า ถือเป็นการบังคับให้ตัวเองไม่ง่วงแบบหักดิบเลยทีเดียว เพราะต้องประจันหน้ากับวิทยากรตรงหน้านั่นเอง


8.โฟกัสกับการประชุม
หากเป็นการประชุมที่ไม่สามารถลุกขึ้นออกไปข้างนอกได้ สาวๆ จำเป็นต้องโฟกัสกับการประชุมอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ พยายามคิดตามเนื้อหาที่ประชุมอย่างจริงจัง เพราะการโฟกัสกับสิ่งใดสิ่งหนึ่ง จะช่วยแก้อาการง่วงนอนได้


9.ขีดเขียนสาระการประชุม
การขีดเขียนสาระการประชุม นอกจากจะช่วยให้เก็บรายละเอียดในการประชุมแล้ว ยังช่วยแก้อาการง่วงนอนได้อีกด้วย


10.ช่วยกันเสนอความคิดเห็น
การมีส่วนร่วมในการประชุมหรือเสนอความคิดเห็นกับผู้ร่วมประชุม ช่วยแก้อาการง่วงนอนได้ดี แถมยังช่วยให้การทำงานมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นจากการร่วมแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกัน

เห็นไหมล่ะคะว่าวิธีแก้อาการง่วงนอนในขณะประชุมไม่ใช่เรื่องยากอะไรเลย เพียงแต่สาวๆ อาจจะต้องเลือกใช้วิธีที่เหมาะสำหรับตัวเองและการประชุมในแต่ละครั้งให้มากที่สุดแค่นั้นเอง อย่าลืมว่าถ้าแก้อาการสัปหงกในช่วงประชุมได้ จะช่วยให้คุณไม่พลาดประเด็นสำคัญในที่ประชุมเลยแม้แต่น้อย



วิธีแก้ง่วงช่วงประชุม ทำตามนี้ไม่เผลอสัปหงกจนเสียงานชัวร์ อ่านบทความเพิ่มเติมคลิ๊กที่นี่ https://mmed.com/

7
ต้องจ่ายเท่าไหร่กับการขนย้ายของกับ รถกระบะรับจ้างสำหรับใครที่ไม่เคยใช้บริการ รถกระบะรับจ้าง ที่รับจ้างขนของทั่วไป อย่าง ย้ายคอนโด ย้ายห้องพัก ย้ายบ้าน หรือ ขนย้ายเฟอร์นิเจอร์ ต่างๆแล้วแต่สินค้าของคุณ เราเคยฉุดคิดเรื่องนี้มั้ยว่า รถกระบะขนของ รถ 4 ล้อใหญ่รับจ้าง ไม่ว่าจะเขตกรุงเทพ ปริมณฑล หรือ ต่างจังหวัด

เราจะต้องเตรียมเงินกับการใช้บริการ รถรับจ้างที่เท่าไหร่ แน่นอนว่าไม่มีใครรู้เรื่องนี้นอกจากผู้ให้บริการ รถกระบะรับจ้างขนของ เอง แต่วันนี้ เราจะมาดูกันว่า ถ้าเราไม่ได้ถามราคารถรับจ้างกับผู้ให้บริการ เราก็สามารถที่จะคำนวณหรือคาดคะเนได้คร่าวๆ ได้ ซึ่งจะต้องมีเกณฑ์ในการพิจารณาอย่างไรบ้างนั้นมาดูการบริการรถกระบะรับจ้าง


เกณฑ์ในการคำนวณ รถกระบะรับจ้างขนของ เขาคิดที่อะไร

1.ระยะทางในการขนย้าย ใกล้ หรือ ไกล หมายถึง ถ้าใกล้มากจะแพงกว่าไกลเมื่อนำมาคำนวณในการเทียบ ราคาค่าขนย้าย ต่อ ระยะวิ่ง (กม.) เช่น   รถกระบะรับจ้าง ระยะทาง 10 ก.ม. ราคา 1000 บาท ตกกิโลเมตรละ 100 บาท  และ  รถกระบะรับจ้าง ระยะทาง 100 ก.ม. ราคา 3000 บาท ตกกิโลเมตรละ 30 บาท เป็นต้น

2.รวมคนยกด้วยหรือไม่ เพราะการเสนอราคาทางผู้ให้บริการจะมีการสอบถามว่า ต้องการให้เสนอราคาเป็นแบบไหน เช่น เสนอพร้อมคนยกของด้วย กี่คน เช่น ถ้าเอาคนยกด้วยจะคิดที่คนละ 300-500 บาทขึ้นอยู่กับความยากง่ายของการยกของและน้ำหนักสินค้า  หรือ เสนอเฉพาะรถขนของอย่างเดียว ลูกค้ายกเอง แบบนี้จะถูกกว่า

3.สินค้าทำประกันด้วยหรือไม่ เพราะการทำประกันสินค้าของลูกค้า ต้องอยู่ในกฏระเบียบที่บริษัทประกันรับด้วยเช่นกัน เช่น สินค้าเกษตร เครื่องจักรใหม่ เป็นต้น ซึ่งทางผู้ให้บริการจะเพิ่มค่าบริการตามการจ่ายจริงกับประกันสิค้าที่ลูกค้าต้องการ

4.สามารถรับ-ส่งสินค้าได้ทันที หรือต้องรอข้ามวัน ก็จะมีงานในลักษณะดังกล่าวไม่กี่ประเภทที่เมื่อสินค้าไปถึงหน้างาน หรือรถกระบะรับจ้างวิ่งไปถึงหน้างาน ต้องรอขึ้นของหรือลงของตามคิว หรือบางทีรอเป็น 1-2วัน งานในลักษณะดังกล่าวผู้ให้บริการ รถรับจ้างขนของ จะคำนวณราคาค่าค้างคืนกับลูกค้าโดยจะมีการตกลงราคากันก่อนว่าจ้างนั่นเอง

5.ขนาดของรถรับจ้างที่เรียกใช้บริการ เพราะรถรับจ้างมีหลายขนาด การที่เรียกใช้รถรับจ้างขนของที่ใหญ่ขึ้น ก็จะส่งผลต่อราคาบริการ เช่น รถกระบะรับจ้าง ระยะทาง 10 ก.ม. ราคา 1000 บาท แต่ถ้าเป็น รถ 4 ล้อใหญ่รับจ้าง ระยะทาง 10 ก.ม. ราคา 2000 บาท เป็นต้น

ดังนั้น ถ้าหากเราคิดที่จะใช้บริการ รถรับจ้างนั้น จะต้องลองอ่านบทความนี้ดูว่า เราต้องการขนย้ายอะไร จะ ย้ายบ้าน ย้ายคอนโด ขนย้ายหอพัก ขนย้ายเครื่องใช้ไฟฟ้า ขนส่งมอเตอร์ไซค์ หรือ รับจ้างขนของทั่วไปนั้น เราจะใช้รถขนของแบบไหน ราคาของเราจะเป็นเท่าไหร่ แต่ส่วนมากแล้ว ถ้าระยะไกลๆ ค่าขนส่งก็จะอยู่ที่ 12 บาท/กิโลเมตร เป็นมาตรฐาน

ขอราคา รถกระบะรับจ้าง การเตรียมเงินในการจ่าย รถรับจ้างขนของในแต่ละที่การชำระค่าบริการจะไม่เหมือนกัน ขึ้นอยู่กับนโยบายของแต่ละที่ที่เขาให้บริการและตั้งกฎเกณฑ์ไว้ ซึ่งโดยตามหลักเกณฑ์ที่เป็นมาตรฐานที่เราพบเห็นในปัจจุบันนี้ จะเป็นลักษณะดังนี้ชำระค่ามัดจำ 30% ก่อนวิ่งงานและ ชำระส่วนที่เหลือเมื่อลงของเสร็จ ถือว่าเป็นวิธีที่ผู้ให้บริการรถรับจ้างส่วนมากทำกัน เพื่อเป็นการยืนยันการ confirm งานในแต่ละที่ เช่น รถกระบะรับจ้างย้ายบ้าน ระยะทาง 100 ก.ม. ราคา3000 บาท


สุดยอดรถกระบะรับจ้างขนของ

จะมัดจำที่ 1000 บาท เป็นต้นชำระค่าบริการ รถกระบะขนของ ทั้งหมดก่อนวิ่งงาน แบบนี้จะมีน้อยมาก ส่วนใหญ่จะเป็นลูกค้าประจำที่มีการเรียกใช้บริการกันอยู่เสมอๆ โดยชำระทั้งหมดเพื่อจะได้ไม่ต้องโอนหลายครั้งเก็บเงินปลายทางหรือจ่ายตามรอบวางบิล ส่วนใหญ่จะเป็นงานบริษัทที่มีการทำสัญญาว่าจ้างกันไว้ โดยจะเป็นเงินเครดิตขึ้นอยู่กับการตกลงกันทั้ง 2 ฝ่ายรถรับจ้างถ้าต้องการ รถกระบะรับจ้าง ราคาถูก กว่าเรทปกติ ต้องทำยังไงการที่เราจะประหยัดต้นทุนของรถรับจ้างได้

สิ่งที่เราต้องได้คือ รถรับจ้างที่ราคาถูก นั่นเอง ก็จะมีวิธีอยู่ว่า ถ้าเราแจ้งจองคิวไว้แต่เนิ่นๆ เหมือนจองตั๋วเครื่องบินยิ่งจองเร็วราคาก็จะยิ่งถูก หรือ เรามีการนัดแผนขนย้ายล่วงหน้า ทำให้ผู้ให้บริการ รถกระบะรับจ้างขนของ จัดคิวรถที่จะมีทางผ่านหรือเส้นทางที่เขาจะวิ่งไปรับงานขนย้ายแถวนั้นอยู่แล้ว ก็จะทำให้เราสามารถต่อรองราคารถรับจ้างขนของ 4 ล้อ ได้ในราคาที่ประหยัดและถูกนั่นเองเมื่ออ่านถึงตรงนี้ เรามั่นใจว่าท่านได้ รถรับจ้างราคาถูกแน่นอนจากบทความเกี่ยวกับรถกระบะรับจ้าง

ขนของดังกล่าวนี้ เรามั่นใจว่า เมื่อท่านได้อ่านบทความจนจบนี้ ท่านจะมีความเข้าใจเกี่ยวกับระเบียบกฏเกณฑ์ของการว่าจ้างรถรับจ้างได้เป็นอย่างดีอย่างแน่นอน และคงไม่มีใครมาหลอดลวงท่านได้ อย่างน้อยเราก็มีภูมิคุ้มกันที่ดีที่เราจะรู้กลโกงหากมีผู้ไม่ประสงค์ดีต่อเรา ทำให้การ ขนย้ายบ้าน ย้ายที่พัก ย้ายหอ ย้ายคอนโด ขนย้ายต้นไม้ ขนย้ายอพาร์ทเม้น

ขนย้ายตู้ เตียง ที่นอน เฟอร์นิเจอร์ มอเตอร์ไซค์ อื่นๆ จะเป็นเรื่องที่ง่ายสำหรับเราไปเลย หรือบางทีนึกไม่ออกสอบถาม ได้ที่นี่เขามีการให้บริการที่ดีและให้คำแนะนำเกี่ยวกับรถรับจ้างทุกชนิด ทั้ง ราคาค่าบริการ รถขนของแต่ละขนาด ราคาที่ไม่แพง บริการที่รวดเร็ว สอบถามได้เลย รถรับจ้าง รถกระบะขนของ รถสี่ล้อใหญ่รับจ้าง กับการบริการที่ดีและสุดยอดการรับจ้างขนของที่นี่ ขอราคารถกระบะรับจ้าง




ต้องเตรียมเงินเท่าไหร่ กับการจ้าง รถกระบะรับจ้าง? อ่านบทความเพิ่มเติมคลิ๊กที่นี่ https://www.rodrubjang-pickup.com/

8
มาเพิ่มประสิทธิภาพธุรกิจจาก รถรับจ้าง ที่วางใจได้
ความสำคัญของการเลือกรถบรรทุกส่งของที่เหมาะสม ในสภาพแวดล้อมทางธุรกิจที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วในปัจจุบัน ลอจิสติกส์และการขนส่งที่มีประสิทธิภาพมีบทบาทสำคัญในความสำเร็จขององค์กรต่างๆ รถรับจ้างขนของ ส่งสินค้าเป็นทรัพย์สินที่สำคัญสำหรับธุรกิจและส่วนบุคคล ทำให้มั่นใจได้ว่าการขนส่งสินค้าให้กับลูกค้าเป็นไปอย่างทันท่วงทีและเชื่อถือได้ อย่างไรก็ตาม รถส่งสินค้าไม่ได้ถูกสร้างขึ้นมาอย่างเท่าเทียมกันทั้งหมด การเลือกรถขนส่งที่เหมาะสมสามารถส่งผลต่อประสิทธิภาพทางธุรกิจ ผลผลิต และความพึงพอใจของลูกค้าได้อย่างมาก ในบทความนี้ เราจะสำรวจความสำคัญของการเลือกรถขนส่งที่เหมาะสมและผลกระทบต่อการดำเนินธุรกิจ

รถรับจ้างที่ตอบสนองความต้องการทางธุรกิจ:
ทุกธุรกิจมีความต้องการด้านการขนส่งที่แตกต่างกัน การเลือกรถขนส่งที่เหมาะสมนั้นเกี่ยวข้องกับการประเมินความต้องการเฉพาะ เช่น ความจุของน้ำหนักบรรทุก พื้นที่บรรทุกสินค้า และขนาดของยานพาหนะ เมื่อพิจารณาปัจจัยเหล่านี้อย่างรอบคอบ ธุรกิจสามารถมั่นใจได้ว่ารถขนส่งที่เลือกนั้นสอดคล้องกับความต้องการในการดำเนินงาน ทำให้สามารถใช้ทรัพยากรได้อย่างเหมาะสมและเกิดประสิทธิภาพสูงสุด

ความน่าเชื่อถือและความทนทาน:
ความน่าเชื่อถือคือปัจจัยสำคัญเมื่อพูดถึงรถบรรทุกขนส่ง การหยุดทำงานเนื่องจากการเสียหรือการซ่อมแซมบ่อยครั้งอาจทำให้การดำเนินธุรกิจหยุดชะงัก นำไปสู่การจัดส่งที่พลาด และส่งผลให้ลูกค้าไม่พอใจ การเลือก รถรับจ้างขนของ หรือ รถกระบะรับจ้าง ขนส่งที่เชื่อถือได้และทนทานช่วยให้มั่นใจได้ว่ารถสามารถทนทานต่อความต้องการใช้งานประจำวัน ลดความเสี่ยงของการเสียที่ไม่คาดคิดและปรับปรุงประสิทธิภาพโดยรวม

ประสิทธิภาพการใช้เชื้อเพลิงและการประหยัดต้นทุน:
ค่าเชื้อเพลิงเป็นส่วนสำคัญของค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานสำหรับธุรกิจที่ต้องพึ่งพา รถรับจ้างบรรทุกส่งของ การเลือกใช้รถบรรทุกขนส่งที่ประหยัดเชื้อเพลิงสามารถนำไปสู่การประหยัดต้นทุนได้อย่างมากในระยะยาว คุณลักษณะต่างๆ เช่น เทคโนโลยีเครื่องยนต์ขั้นสูง การออกแบบตามหลักอากาศพลศาสตร์ และตัวเลือกไฮบริดหรือไฟฟ้าช่วยให้ประหยัดน้ำมันได้ดีขึ้น ลดการใช้เชื้อเพลิงและค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้อง เมื่อเลือกรถบรรทุกขนส่งที่ประหยัดเชื้อเพลิง ธุรกิจต่างๆ สามารถเพิ่มผลกำไรได้ในขณะที่ลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมให้น้อยที่สุด

การบำรุงรักษาและการบริการของ รถรับจ้าง วิ่งในเมืองและต่างจังหวัด:
การบำรุงรักษาเป็นประจำเป็นสิ่งสำคัญเพื่อให้รถบรรทุกขนส่งอยู่ในสภาพการทำงานที่เหมาะสมที่สุด การเลือกรถขนส่งที่ให้ความสะดวกในการบำรุงรักษาและความสามารถในการให้บริการสามารถปรับปรุงกระบวนการบำรุงรักษา ลดเวลาหยุดทำงาน และลดค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้อง คุณสมบัติต่างๆ เช่น ห้องเครื่องยนต์ที่เข้าถึงได้ง่าย ระบบการวินิจฉัยที่ใช้งานง่าย และชิ้นส่วนอะไหล่ที่พร้อมใช้งานช่วยให้การบำรุงรักษามีประสิทธิภาพ ทำให้รถส่งของอยู่บนท้องถนน และรับประกันการดำเนินธุรกิจที่ราบรื่น

คุณลักษณะด้านความปลอดภัยของ รถรับจ้างขนของ :
การดูแลความปลอดภัยของผู้ขับขี่ สินค้า และผู้ใช้ถนนคนอื่นๆ ควรมีความสำคัญสูงสุดสำหรับธุรกิจ รถบรรทุกส่งสินค้า เช่น รถรับจ้างย้ายหอ ขนของทั่วไป รถกระบะรับจ้าง ที่ติดตั้งคุณลักษณะด้านความปลอดภัยขั้นสูง เช่น ระบบเบรกป้องกันล้อล็อก (ABS) ระบบควบคุมการทรงตัว ระบบตรวจจับจุดบอด และกล้องมองหลัง ช่วยให้สภาพแวดล้อมในการขนส่งปลอดภัยยิ่งขึ้น ด้วยการเลือกรถบรรทุกส่งของที่มีคุณสมบัติด้านความปลอดภัยที่ครอบคลุม ธุรกิจต่างๆ สามารถลดความเสี่ยง ป้องกันอุบัติเหตุ และปกป้องทรัพย์สินอันมีค่าของตนได้


การปรับตัวและการปรับแต่ง:
ความต้องการและข้อกำหนดทางธุรกิจสามารถเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา การเลือกรถขนส่งที่สามารถปรับเปลี่ยนและปรับแต่งได้ช่วยให้ธุรกิจมีความยืดหยุ่นในการตอบสนองความต้องการที่เปลี่ยนแปลงไป คุณสมบัติต่างๆ เช่น ระบบสินค้าแบบโมดูลาร์ ชั้นวางแบบปรับได้ และการตกแต่งภายในที่ปรับเปลี่ยนได้ ช่วยให้ธุรกิจต่างๆ สามารถปรับพื้นที่และเค้าโครงของรถขนส่งได้อย่างเหมาะสมตามประเภทผลิตภัณฑ์เฉพาะและความต้องการของลูกค้า ซึ่งช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและผลผลิต

การเลือกรถรับจ้างที่ถูกต้อง จะเพิ่มประสิทธิภาพได้ดีต่อธุรกิจเรา
การเลือกรถขนส่งที่เหมาะสมคือการตัดสินใจที่สำคัญสำหรับธุรกิจที่ต้องการเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินงานด้านโลจิสติกส์และการขนส่ง เมื่อพิจารณาจากปัจจัยต่างๆ เช่น การปฏิบัติตามข้อกำหนดทางธุรกิจ ความน่าเชื่อถือ การประหยัดน้ำมัน ความสะดวกในการบำรุงรักษา คุณลักษณะด้านความปลอดภัย และความสามารถในการปรับตัว ธุรกิจต่างๆ สามารถสร้างทางเลือกที่มีข้อมูลที่สอดคล้องกับความต้องการ ทั้ง รถรับจ้างขนของ รถขนของย้ายบ้าน รถรับจ้างย้ายหอ รถกระบะรับจ้าง รถรับจ้างทั่วไป เป็นต้น เฉพาะของตน การลงทุนในรถขนส่งที่เชื่อถือได้และมีประสิทธิภาพไม่เพียงแต่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพทางธุรกิจเท่านั้น แต่ยังช่วยเพิ่มความพึงพอใจของลูกค้า สร้างชื่อเสียงให้กับแบรนด์ และขับเคลื่อนความสำเร็จในระยะยาวอีกด้วย



การเพิ่มประสิทธิภาพทางธุรกิจด้วย รถรับจ้าง รถกระบะรับจ้าง ส่งของที่วางใจได้ อ่านบทความเพิ่มเติมคลิ๊กที่นี่ https://www.rodrubjang-pickup.com/

9
อากาศร้อน ๆ จะเปิดแอร์ทั้งวันให้ฉ่ำกาย สบายใจ ก็เกรงค่าไฟจะเพิ่มสูงขึ้นตามอุณหภูมิความร้อน อีกทั้งยังเปลืองพลังงานอีกด้วย จึงอยากช่วยคุณให้เย็นกาย เย็นใจ คลายความร้อนจากทั้งอากาศและบิลค่าไฟ ด้วยการแนะนำวิธีใช้แอร์อย่างไร ให้ประหยัดค่าไฟในช่วงที่อากาศร้อน ๆ

1. ล้างแอร์เป็นประจำ
         
หากใช้แอร์เป็นประจำ ก็ควรล้างแอร์เป็นประจำ จะช่วยประหยัดค่าไฟได้ ซึ่งเวลาที่เหมาะสมคือ ทุก 6 เดือน หรือสามารถดูตามความเหมาะสมในการใช้งานแอร์ได้เลย เช่น หากเปิดแอร์แล้วไม่เย็น เบื้องต้นให้ถอดแผ่นกรองอากาศออกมาล้างทุก 2 – 3 เดือน เพราะแอร์ที่ใช้งานบ่อย ๆ จะทำให้มีฝุ่นหรือสิ่งสกปรกสะสมอยู่ หากไม่ทำความสะอาด แอร์จะทำงานหนัก และกินไฟมากกว่าเดิม


2. เปิดห้องเพื่อระบายอากาศ ก่อนเปิดแอร์
         
เปิดประตู หน้าต่าง ให้อากาศหมุนเวียนเข้าไปในห้องที่กำลังจะเปิดแอร์ ช่วยระบายความร้อนที่สะสมอยู่ในห้องก่อน เมื่อเปิดแอร์ ก็จะทำให้อุณหภูมิในห้องเย็นได้เร็วขึ้น แอร์จะได้ไม่ทำงานหนักเกินไป ไม่เปลืองค่าไฟอีกด้วย


3. ปิดห้องให้สนิท เมื่อเปิดแอร์
         
เมื่อเปิดประตู หน้าต่างเพื่อระบายความร้อนภายในห้องแล้ว ก่อนเปิดแอร์ ควรตรวจสอบให้เรียบร้อยว่าประตู หน้าต่างปิดสนิทครบทุกบาน รวมถึงปิดม่านไม่ให้แสงแดดส่องเข้ามาภายในห้องได้ เพราะหากความร้อนจากภายนอกเล็ดลอดเข้ามาภายในห้อง และยังต้องรักษาอุณหภูมิในห้องให้คงความเย็นไว้ได้ตลอดแล้ว แอร์จะต้องทำงานหนักขึ้น อีกทั้ง ไม่แนะนำให้ใช้แอร์ในพื้นที่เปิดโล่ง หรือห้องที่ไม่มีประตูกั้น เช่น ห้องโถง ทางเดิน ทางขึ้นบันได เพราะแอร์จะไม่ค่อยเย็น แถมเปลืองพลังงาน เปลืองค่าไฟไปอีก หากจำเป็นจริง ๆ แนะนำให้ติดตั้งฉากกั้น หรือม่านที่สามารถเปิด-ปิดได้ จะได้ช่วยให้แอร์ทำงานหนักน้อยลง


4. เปิดแอร์ 27 องศาเซลเซียส คู่กับเปิดพัดลม
         
การเปิดแอร์ในอุณหภูมิที่สูงขึ้น ก็จะทำให้แอร์กินไฟน้อยลงตามไปด้วย เพราะส่วนคอยล์ร้อนหรือคอมเพรซเซอร์ของแอร์จะทำงานน้อยลง เมื่อตั้งอุณหภูมิสูงขึ้น โดยคอมเพรสเซอร์จะทำงานไม่นานก็ตัดการทำงาน เพราะอุณหภูมิลงไปถึงจุดที่ตั้งไว้แล้ว การเปิดแอร์ที่อุณหภูมิ 27 องศาเซลเซียส ก็เพียงพอที่จะทำให้รู้สึกสบายตัว และเมื่อเปิดพัดลมเป่ามาที่ตัว จะยิ่งทำให้รู้สึกเย็นสบายขึ้นไปอีก เพราะการเปิดพัดลม ช่วยเพิ่มการเคลื่อนที่ของอากาศภายในห้องได้ อุณหภูมิในห้องจะลดลงประมาณ 2 องศาเซลเซียส สามารถประหยัดค่าไฟได้มากกว่าเปิดแอร์ในอุณหภูมิที่ต่ำ เช่น 23 – 24 องศาเซลเซียส


5. หลีกเลี่ยงการใช้งานเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ให้ความร้อน และเพิ่มความชื้นในห้องแอร์
         
การทำงานของแอร์ จะใช้พลังงาน 30% ในการทำให้ห้องเย็นลง และใช้พลังงานอีก 70% กำจัดความชื้นในห้อง ทำให้อากาศแห้งลง หากในห้องมีการใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าที่ให้ความร้อน เช่น รีดผ้าในห้องแอร์ และทำให้ภายในห้องมีความชื้น เช่น ตากผ้าในห้องแอร์ เลี้ยงปลา ปลูกต้นไม้ในห้องแอร์ แอร์จะทำงานหนักขึ้น และแน่นอนแอร์ก็จะกินไฟมากขึ้นตามไปด้วย ดังนั้น ควรหลีกเลี่ยง และปรับเปลี่ยนพื้นที่การใช้งานใหม่ จะได้ช่วยประหยัดพลังงาน และลดค่าไฟลงอีกด้วย


6. ตั้งเวลาปิดแอร์ ก่อนเลิกใช้งาน 60 นาที
         
เมื่อเราปิดแอร์ ความเย็นจะยังอยู่ภายในห้องนั้นประมาณ 30 - 60 นาที และหากเปิดพัดลมเบา ๆ ไปด้วย จะช่วยกระจายความเย็นระหว่างที่แอร์ปิดไปแล้วได้อยู่ ดังนั้น หากตั้งเวลาปิดแอร์ล่วงหน้าเอาไว้ เช่น ปิดแอร์ก่อนตื่นนอน 60 นาที จะช่วยประหยัดค่าไฟได้อีกวิธี


7. เปลี่ยนแอร์เก่า เป็นแอร์ใหม่
         
หากใช้แอร์เครื่องเดิมมาเป็นเวลานาน ประมาณ 10 - 15 ปีขึ้นไป แล้วคิดว่าแอร์ที่ใช้ยังดูดี ทำงานได้ ให้ความเย็นอยู่ จึงยังไม่เปลี่ยนเครื่องใหม่ แต่ระบบภายในของแอร์ก็เสื่อมไปตามการใช้งานอยู่ดี ซึ่งอาจทำให้เปลืองค่าไฟได้ เพราะแอร์เก่าต้องใช้พลังงานในการทำความเย็นมากกว่าปกติ แนะนำให้เลือกซื้อแอร์เครื่องใหม่จะดีกว่า ซึ่งปัจจุบันมีการพัฒนาระบบของแอร์ให้ประหยัดพลังงาน และประหยัดไฟมากขึ้น เช่น แอร์ระบบ inverter


8. เลือกค่า BTU แอร์ ให้เหมาะกับขนาดห้อง
         
บางคนอาจมีความเข้าใจผิดว่า ยิ่งค่า BTU สูง ยิ่งดี ยิ่งทำให้ห้องเย็น แต่หากสูงเกินความจำเป็น จะทำให้คอมเพรสเซอร์ตัดบ่อย และหากต่ำเกินไป จะทำให้แอร์ทำงานหนักและกินไฟขึ้น จึงควรเลือกค่า BTU ให้เหมาะสมกับขนาดห้อง ควรเป็นรุ่นที่มีฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5 โดยสามารถพิจารณาเลือกได้ ดังนี้

ขนาดห้อง (เพดานสูง 2.5 ม.) : 9 - 15 ตร.ม.
ขนาดเครื่องปรับอากาศที่เหมาะสม : 9,000 BTU

ขนาดห้อง (เพดานสูง 2.5 ม.) : 16 - 20 ตร.ม.
ขนาดเครื่องปรับอากาศที่เหมาะสม : 12,000 BTU

ขนาดห้อง (เพดานสูง 2.5 ม.) : 21 - 30 ตร.ม.
ขนาดเครื่องปรับอากาศที่เหมาะสม : 18,000 BTU

ขนาดห้อง (เพดานสูง 2.5 ม.) : 31 - 40 ตร.ม.
ขนาดเครื่องปรับอากาศที่เหมาะสม : 24,000 BTU


9. ติดตั้งคอมเพรสเซอร์ในบริเวณที่เหมาะสม
         
เนื่องจากคอมเพรสเซอร์แอร์ เป็นตัวระบายความร้อน ตำแหน่งที่เหมาะสมในการติดตั้ง จึงควรเป็นพื้นที่อากาศถ่ายเท เป็นที่ร่ม ไม่โดนแดดโดนฝนโดยตรง ไม่ควรติดตั้งบริเวณดาดฟ้า และพื้นปูน แนะนำให้ติดตั้งยกสูงเหนือพื้น อากาศจากคอมเพรสเซอร์จะได้ถ่ายเทได้ดี คอมเพรสเซอร์จะได้ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ และไม่เปลืองไฟ



บริหารจัดการอาคาร: แนะนำ 9 วิธีใช้เครื่องปรับอากาศ ให้ประหยัดค่าไฟ อ่านบทความเพิ่มเติมคลิ๊กที่นี่ https://snss.co.th/dt_post/technical-services/

10
วางแผนการทำความสะอาดบ้าน

1. กำหนดเวลา คุณมีเวลาในการทำความสะอาดบ้านครั้งนี้เท่าไหร่ เช่น 45 นาที

2. เรียงลำดับห้องไหนทำความสะอาดก่อน-หลัง ไอเดียในการเรียงลำดับ เช่น ทำความสะอาดจากห้องที่ใช้งานบ่อยที่สุด, ห้องที่ต้องใช้ด่วนที่สุด, จากห้องชั้นบนลงมาชั้นล่าง, จากห้องทางซ้ายไล่ไปห้องทางขวา หรือจากห้องที่สกปรกที่สุด เป็นต้น

3. กำหนดว่าจะใช้เวลาเท่าไหร่ในการทำความสะอาดแต่ละห้อง อาจใช้เวลามาก-น้อยต่างกันในแต่ละห้อง โดยดูจากความสกปรก ความเรียบร้อย รวมไปถึงขนาดของห้อง เช่น คุณมีเวลาทั้งหมด 45 นาที แบ่งเป็น ห้องนอน 8 นาที, ห้องน้ำ 14 นาที, ห้องนั่งเล่น 9 นาที และห้องครัว 14 นาที

4. วางแผนว่าแต่ละห้องที่ทำความสะอาด ต้องทำอะไรบ้าง อาจทำเช็คลิสต์รายการทำความสะอาดไว้ เพื่อความเป็นระบบ กระชับเวลาได้มากขึ้น เช่น เก็บหรือจัดระเบียบของที่รก, เช็ดหน้าต่าง, กวาดพื้น, ดูดฝุ่น, ถูบ้าน, ล้างอ่าง, ล้างโถสุขภัณฑ์ เป็นต้น


เตรียมอุปกรณ์ทำความสะอาดบ้านให้พร้อม

- ไม้กวาด
- ไม้ขนไก่
- ผ้า
- เครื่องดูดฝุ่น
- ไม้ถูพื้นและถังน้ำ
- น้ำยาทำความสะอาดต่าง ๆ หรือสเปรย์ทำความสะอาดต่าง ๆ
- แปรงขัด
- ถุงขยะ
- ตะกร้า เอาไว้เก็บของที่วางเกะกะ รอการจัดเก็บเข้าที่
- นาฬิกาจับเวลา หรือสมาร์ทโฟนก็ได้ เอาไว้จับเวลาทำความสะอาดให้เสร็จเรียบร้อยภายในเวลาที่วางแผนไว้

บริการทำความสะอาด: เตรียมตัวทำความสะอาด แบบง่ายๆไม่ต้องใช้เวลานาน อ่านบทความเพิ่มเติมคลิ๊กที่นี่ https://snss.co.th/dt_post/soft-services/

11
ไวรัสตับอักเสบเป็นโรคที่พบในคนไทยค่อนข้างมาก เป็นภาวะที่ตับอักเสบจากการติดเชื้อไวรัสตับอักเสบที่มีหลายชนิด ได้แก่ ไวรัสตับอักเสบ A B C D และ E หากเป็นแล้วตับจะไม่สามารถทำงานได้ตามปกติ เมื่อทิ้งไว้จนเรื้อรังมีโอกาสที่จะเป็นตับแข็งและร้ายแรงถึงขั้นเป็นโรคมะเร็งตับได้ ดังนั้นการฉีดวัคซีนป้องกันไวรัสตับอักเสบจึงเป็นเรื่องสำคัญที่ไม่ควรละเลย เพราะช่วยป้องกันไวรัสตับอักเสบก่อนลุกลามและรุนแรง


รู้จักไวรัสตับอักเสบ A

ไวรัสตับอักเสบชนิด A เกิดจากการติดเชื้อไวรัสตับอักเสบชนิด A (Hepatitis A Virus) สามารถติดต่อได้จากการรับประทานอาหาร น้ำดื่ม หรือสัมผัสสิ่งปนเปื้อนเชื้อไวรัส เมื่อเชื้อไวรัสผ่านผนังลำไส้เข้าสู่เส้นเลือดไปยังตับ ทำให้เกิดตับอักเสบเฉียบพลัน มีอาการอ่อนเพลีย ครั่นเนื้อครั่นตัว ไข้ เบื่ออาหาร และดีซ่าน อาการเกิดหลังได้รับเชื้อราว 2 – 4 สัปดาห์ ผู้ป่วยส่วนใหญ่ได้รับการรักษาแบบประคับประคองตามอาการ สามารถหายได้เอง และสร้างภูมิต้านทานได้ แต่ผู้ป่วยบางรายอาจมีอาการรุนแรงจนเกิดภาวะตับวายเฉียบพลันและเสียชีวิตได้ในที่สุด


ผู้ที่ควรรับวัคซีนไวรัสตับอักเสบ A

    เด็กอายุมากกว่า 1 ปี
    ผู้ป่วยโรคตับอักเสบเรื้อรัง
    ผู้ที่ใกล้ชิดกับผู้ป่วยไวรัสตับอักเสบ A หรือมีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อไวรัสตับอักเสบ A
    ผู้ที่มีพฤติกรรมรักร่วมเพศ (กลุ่มเพศชาย)
    ผู้ที่ใช้สารเสพติด
    พ่อครัวหรือแม่ครัวที่ต้องปรุงอาหารเป็นประจำ
    ผู้ที่เดินทางไปต่างประเทศที่มีความเสี่ยงด้านสุขอนามัยต่ำหรือเป็นสถานที่ที่มีการระบาดของเชื้อไวรัสตับอักเสบ A ควรได้รับการฉีดวัคซีนก่อนเดินทางประมาณ 1 เดือน

ผู้ที่สามารถรับวัคซีนไวรัสตับอักเสบ A

    ผู้ที่มีอายุตั้งแต่ 1 ปีขึ้นไป
    ผู้ที่ไม่มีภูมิคุ้มกัน


วัคซีนไวรัสตับอักเสบ A ฉีดกี่ครั้ง

    การฉีดวัคซีนไวรัสตับอักเสบ A จะฉีด 2 ครั้ง โดยฉีดห่างกัน 6 – 12 เดือน   

ป้องกันไวรัสตับอักเสบ A, B ด้วยวัคซีนก่อนร้ายแรง รู้จักไวรัสตับอักเสบ B

ไวรัสตับอักเสบชนิด B เกิดจากการติดเชื้อไวรัสตับอักเสบชนิด B (Hepatitis B Virus) เป็นเชื้อไวรัสที่เป็นสาเหตุของโรคตับเรื้อรังและมะเร็งตับที่สำคัญทั่วโลก โดยเฉพาะในทวีปเอเชียและแอฟริการวมทั้งประเทศไทย โดยสามารถติดต่อผ่านทางการคลอด การสัมผัสเลือดหรือแผลเปิดของผู้ติดเชื้อ การมีเพศสัมพันธ์กับผู้ติดเชื้อ และการใช้อุปกรณ์ที่มีโอกาสสัมผัสเชื้อร่วมกัน เช่น เข็มฉีดยาหรือแปรงสีฟัน หากได้รับเชื้อแล้วจะเกิดภาวะตับอักเสบเฉียบพลัน ผู้ป่วยบางรายอาจหายเองและสร้างภูมิคุ้มกัน ผู้ป่วยบางรายร่างกายไม่สามารถกำจัดเชื้อไวรัสได้อาจกลายเป็นตับอักเสบเรื้อรัง ตับแข็ง ตับวาย มะเร็งตับ และเสียชีวิต


ผู้ที่ควรรับวัคซีนไวรัสตับอักเสบ B

    ทารกแรกเกิดทุกราย เด็ก และวัยรุ่นที่ไม่ได้รับวัคซีนเมื่อแรกเกิด
    ผู้ป่วยโรคตับเรื้อรัง
    ผู้ที่ใกล้ชิดกับผู้ป่วยไวรัสตับอักเสบ B
    ผู้มีพฤติกรรมรักร่วมเพศ
    ผู้ป่วยโรคไตเรื้อรังที่ทำการฟอกไต
    ผู้ป่วยที่ได้รับเลือดบ่อย ๆ
    ผู้ที่ใช้สารเสพติดชนิดฉีดเข้าเส้น
    ผู้ที่ต้องเดินทางไปยังพื้นที่ที่มีการระบาดของโรค

ผู้ที่สามารถรับวัคซีนไวรัสตับอักเสบ B

    เริ่มฉีดได้ตั้งแต่แรกเกิด
    ผู้ที่ไม่มีภูมิคุ้มกัน

วัคซีนไวรัสตับอักเสบ B ฉีดกี่ครั้ง

    ฉีดวัคซีนไวรัสตับอักเสบ B ทั้งหมด 3  ครั้ง
    ครั้งที่ 2 ห่างจากครั้งแรก 1 – 2 เดือน
    ครั้งที่ 3 ห่างจากครั้งแรก 6 เดือน


เพราะการฉีดวัคซีนช่วยป้องกันไวรัสตับอักเสบได้อย่างเห็นผล โดยเฉพาะไวรัสตับอักเสบเอและไวรัสตับอักเสบบีที่อาจร้ายแรงถึงชีวิตหากป่วยเรื้อรัง จึงควรใส่ใจและเข้ารับการฉีดวัคซีนให้ครบถ้วนตามที่แพทย์กำหนด

ป้องกันไวรัสตับอักเสบ A, B ด้วยวัคซีนก่อนร้ายแรง อ่านบทความเพิ่มเติมคลิ๊กที่นี่ https://doctorathome.com/disease-conditions/177

12
ต้อเนื้อ พบมากในประเทศเขตร้อน ที่ค่อนข้างแห้งแล้งและมีฝุ่นลมจัด จึงเป็นโรคที่พบได้บ่อยมากในบ้านเราในแทบทุกภาคของประเทศ แต่จะพบเป็นกันมากในภาคอีสาน

พบมากในผู้ที่มีอายุระหว่าง 30-55 ปี ไม่พบในเด็กที่อายุต่ำกว่า 14 ปี ผู้ชายและผู้หญิงมีโอกาสเป็นเท่า ๆ กัน

สาเหตุ

ต้อเนื้อเป็นเยื่อบุตาที่เกิดการเสื่อมและหนาตัวขึ้น ซึ่งสาเหตุที่แท้จริงยังไม่ทราบแน่ชัด พบว่าการถูกแสงแดด (อัลตราไวโอเลต) เป็นประจำเป็นปัจจัยที่สำคัญของการเกิดโรคนี้ นอกจากนี้การถูกลม ฝุ่น ควัน ความร้อน สารเคมี และมลพิษทางอากาศเป็นประจำก็อาจทำให้เกิดโรคนี้ได้ ดังนั้นต้อเนื้อจึงพบบ่อยในคนทำงานกลางแจ้ง ซึ่งถูกแดด ลม ฝุ่น เป็นประจำ (เช่น ชาวไร่ ชาวนา ชาวสวน ชาวประมง คนงานก่อสร้าง นักกีฬากลางแจ้ง เป็นต้น) ส่วนน้อยอาจพบในผู้ที่มีอาชีพที่ต้องสัมผัสกับสิ่งระคายเคืองตาอื่น ๆ เช่น คนงานในโรงงาน (ถูกสารเคมี) คนทำครัว (ถูกควัน ไอร้อน) เป็นต้น

นอกจากนี้ ยังพบว่าผู้ป่วยบางรายจะมีประวัติว่ามีพ่อแม่พี่น้องเป็นโรคนี้ด้วย จึงเชื่อว่าปัจจัยทางกรรมพันธุ์อาจมีส่วนเกี่ยวข้องกับการเกิดต้อเนื้อ


อาการ

จะเห็นแผ่นเนื้อเยื่อสามเหลี่ยมสีเหลือง ๆ ที่บริเวณตาขาวชิดตาดำ ส่วนมากจะเกิดที่ด้านหัวตา (ด้านในของตาส่วนที่อยู่ใกล้กับจมูก) ส่วนน้อยอาจพบที่หางตา ทั้งนี้เพราะส่วนของหัวตามีโอกาสกระทบกับสาเหตุต่าง ๆ ที่ทำให้เกิดต้อเนื้อมากกว่าส่วนหางตา ประกอบกับมีหลอดเลือดมาเลี้ยงในบริเวณหัวตามาก

บางครั้งหลังจากถูกลมถูกแสงมาก ๆ หรือนอนดึก อาจเห็นหลอดเลือดขยายมีลักษณะแดงเรื่อ ๆ

โดยทั่วไป ผู้ป่วยจะไม่รู้สึกมีอาการผิดปกติแต่อย่างใด นอกจากบางครั้งมีการอักเสบจะมีอาการเคืองตา น้ำตาไหล ตาแดง หรือมีอาการปวดเล็กน้อย

ในบางรายเมื่อเป็นนานเป็นแรมเดือนแรมปี ต้อเนื้ออาจยื่นเข้าไปถึงกลางตาดำทำให้บังสายตา ตามัว มองไม่ถนัด หรือเห็นภาพซ้อนได้

บางรายอาจมีต้อเนื้อที่หัวตาและหางตาพร้อมกัน

ผู้ป่วยอาจเป็นต้อเนื้อที่ตาเพียงข้างเดียวหรือ 2 ข้างก็ได้


ภาวะแทรกซ้อน

ส่วนมากไม่มีภาวะแทรกซ้อนแต่อย่างใด นอกจากอาการเคืองตา ตาแดง

ในรายที่ต้อเนื้องอกยื่นเข้าไปที่กระจกตา อาจทำให้กระจกตาเปลี่ยนรูป เกิดสายตาเอียงแทรกซ้อนได้ ทำให้มองไม่ชัด

  หากปล่อยไว้นานเป็นแรมปี ต้อเนื้อจะค่อย ๆ งอกลุกลามขึ้นช้า ๆ จนยื่นเข้าไปปิดตาดำจนมิด ก็อาจบังสายตาทำให้มองไม่ถนัดได้

ที่พบได้น้อยมากก็คือ การเกิดแผลเป็นที่กระจกตา เนื่องจากปล่อยให้มีการอักเสบของกระจกตาเรื้อรัง ซึ่งอาจต้องแก้ไขด้วยการผ่าตัดเปลี่ยนกระจกตา


การวินิจฉัย

แพทย์จะวินิจฉัยจากอาการ และการตรวจพบแผ่นเนื้อเยื่อสามเหลี่ยมสีเหลือง ๆ ที่บริเวณหัวตา (บางรายอาจมีที่หางตาร่วมด้วย)

บางรายแพทย์อาจทำการตรวจวัดสายตา ตรวจดูลักษณะของกระจกตา (ดูว่าทำให้สายตาเอียงหรือไม่) รวมทั้งอาจทำการถ่ายภาพของตาที่เป็นต้อเนื้อเก็บไว้เพื่อใช้เปรียบเทียบดูการเปลี่ยนแปลงของโรคในวันข้างหน้า


การรักษาโดยแพทย์

แพทย์จะให้การดูแลรักษา ดังนี้

1. ถ้าไม่มีอาการอักเสบและต้อเนื้อยังไม่ยื่นเข้ากระจกตา ก็ไม่ต้องให้การรักษาใด ๆ แนะนำให้ผู้ป่วยหลีกเลี่ยงแสงแดด ลม ฝุ่น ควัน ไอร้อน และสิ่งระคายเคืองตาต่าง ๆ ถ้าต้องออกกลางแดด ควรสวมแว่นตาดำที่สามารถกันแสงอัลตราไวโอเลต และหมั่นหยอดน้ำตาเทียม เพื่อป้องกันมิให้ต้อเนื้อลุกลาม

2. ถ้ามีการอักเสบ เคืองตา ให้ใช้ยาหยอดตาลดการอักเสบเป็นครั้งคราว ถ้าไม่ได้ผลหรืออักเสบมาก แพทย์อาจให้ใช้ยาหยอดตาสเตียรอยด์ ซึ่งจะใช้เท่าที่จำเป็น เมื่อดีขึ้นก็หยุดใช้ ถ้าใช้ติดต่อกันนาน ๆ อาจทำให้เป็นต้อหินเรื้อรังได้

3. ในรายที่ต้อเนื้อยื่นเลยขอบตาดำเข้าไปสัก 3-4 มม. หรือมีสายตาเอียงเกิดขึ้น แพทย์จะทำการผ่าตัดลอกออก ซึ่งมีอยู่หลายวิธีที่แพทย์เลือกใช้ให้เหมาะกับผู้ป่วยแต่ละราย เช่น การลอกต้อเนื้อแบบธรรมดา (simple excision), การลอกต้อเนื้อและใช้เยื่อบุตาของผู้ป่วยเองแปะ (conjunctival  auto-grafting), การลอกต้อเนื้อและใช้เยื่อถุงน้ำคร่ำแปะ (amniotic membrane transplantation)

เนื่องจากผู้ป่วยที่ผ่าตัดลอกต้อเนื้อออกแล้วมีโอกาสเป็นต้อเนื้อกำเริบคืนกลับมาได้อีก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในผู้ป่วยที่แพทย์ผ่าตัดการลอกต้อเนื้อแบบธรรมดา เพื่อป้องกันการคืนตัวของต้อเนื้อ แพทย์อาจพิจารณาให้การรักษาเพิ่มเติมในผู้ป่วยบางรายเพื่อป้องกันการคืนตัวของต้อเนื้อ ด้วยการฉายรังสีบีตา (external beta radiation therapy) และ/หรือใช้ยาบางชนิด (เช่น Mitomycin-C) หยอดหลังผ่าตัด

และหลังการรักษาผู้ป่วยควรหลีกเลี่ยงการถูกลม แดด ฝุ่น ควัน และไอร้อน เพื่อป้องกันต้อเนื้อกำเริบขึ้นใหม่ 

ในรายที่มีต้อเนื้อกำเริบหลังผ่าตัด แพทย์จะทำการผ่าตัดลอกต้อซ้ำอีก ซึ่งมักจะหายขาดได้


การดูแลตนเอง

หากสงสัยเป็นต้อเนื้อ  ควรปรึกษาแพทย์

เมื่อตรวจพบว่าเป็นต้อเนื้อ ควรดูแลตนเอง ดังนี้

    รักษา ใช้ยา และปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์ 
    ติดตามรักษากับแพทย์ตามนัด
    พยายามหลีกเลี่ยงการถูกแดด ลม ฝุ่น ควัน ไอร้อน และสิ่งระคายเคืองตาอื่น ๆ
    สวมแว่นตากันแดด กันลม กันฝุ่น เวลาออกไปในที่กลางแจ้งที่มีแดดจ้า ลม หรือฝุ่น


ควรกลับไปพบแพทย์ก่อนนัด ถ้ามีลักษณะข้อใดข้อหนึ่ง ดังต่อไปนี้

    ดูแลรักษาแล้ว ยังมีอาการเคืองตา ตาแดง หรือตาอักเสบ
    มีอาการมองเห็นไม่ชัด หรือสงสัยสายตาเอียง
    ต้อเนื้อลุกลามเข้าไปในตาดำ 
    ขาดยา หรือยาหาย
    ในรายที่แพทย์ให้ยากลับไปกินต่อที่บ้าน ใช้ยาแล้วสงสัยเกิดผลข้างเคียงจากยา เช่น คันตา ตาแดง ตาบวม หรือมีอาการผิดปกติอื่น ๆ


การป้องกัน

    พยายามหลีกเลี่ยงการถูกแดด ลม ฝุ่น ควัน ไอร้อน และสิ่งระคายเคืองตาอื่น ๆ
    เวลาออกไปทำงานในที่กลางแจ้ง หากมีแสงแดดจ้า ควรสวมแว่นตาดำที่สามารถกันแสงอัลตราไวโอเลต หากมีลมหรือฝุ่น ควรสวมแว่นที่สามารถใช้กันแดด กันลม และกันฝุ่นได้
    หมั่นใช้น้ำตาเทียมหยอดตาหลังจากออกไปในที่กลางแจ้ง หรือสัมผัสสิ่งระคายเคือง หรือเวลารู้สึกเคืองตา แสบตา ตาแห้ง

ข้อแนะนำ

1. บางรายอาจมีตุ่มนูนสีขาวเหลืองรูปสามเหลี่ยมหรือหลายเหลี่ยมเล็ก ๆ เกิดขึ้นตรงขอบตาดำด้านหัวตาหรือหางตา (ตรงกับบริเวณที่เป็นต้อเนื้อ) ซึ่งมักเป็นที่ตา 2 ข้าง เรียกว่า ต้อลม (pinguecula) มีสาเหตุเช่นเดียวกับต้อเนื้อ ส่วนใหญ่มักจะไม่ลุกลามเข้าตาดำ และไม่ต้องให้การรักษาแต่อย่างใด นอกจากบางครั้งอาจมีอาการอักเสบเคืองตา ก็ให้ใช้ยาหยอดตาแก้อักเสบเช่นเดียวกับต้อเนื้อ

ส่วนการผ่าตัดลอกออกนั้น แพทย์มักจะไม่แนะนำให้ทำ เพราะอาจทำให้เกิดรอยแผลเป็นไม่สวยงาม และมักกลับกำเริบขึ้นใหม่อีก

2. ทั้งต้อเนื้อและต้อลมเป็นโรคที่ไม่มีอันตรายแต่อย่างใด และไม่มียาที่ใช้กัดต้อเนื้อให้หลุดได้ (ไม่ว่าจะเป็นยาแผนปัจจุบัน หรือแผนโบราณก็ตาม) และที่สำคัญผู้ป่วยต้องหลีกเลี่ยงการซื้อยาหยอดตาที่มีตัวยาสเตียรอยด์ผสมมาใช้เอง เนื่องเพราะหากใช้ติดต่อกันนาน ๆ อาจกลายเป็นต้อหินตาบอดได้


อาการของโรคต้อเนื้อ/ต้อลิ้นหมา (Pterygium) อ่านบทความเพิ่มเติมคลิ๊กที่นี่ https://doctorathome.com/disease-conditions

13
อินฟินิกซ์ Infinix NOTE40 Pro (8GB/256GB)
70W All-Round FastCharge2.0 + 20W Wireless MagCharge*
3D-Curved 120Hz AMOLED Display | In-Display Fingerprint
108MP OIS Super-Zoom Cam
Helio G99 Ultimate + Up to 24GB Extended RAM
Dual Speakers with Sound by JBL
Drop and Scratch Resistant Corning® Gorilla® Glass^

รายละเอียดเบื้องต้น
   ยี่ห้อ-รุ่น            อินฟินิกซ์ Infinix NOTE40 Pro (8GB/256GB)
   ราคากลาง           8,999 บาท
   จำนวนซิม           2 ซิม (Nano Sim)
   แบบดีไซน์           จอสัมผัส
   สี                 Gold(Titan Gold), Green(Vintage Green)

   ความถี่-เครือข่าย
2G
3G
4G

   ขนาด-น้ำหนัก              ยาว 164.35 x กว้าง 74.6 x หนา 7.75 มม., น้ำหนัก 190 กรัม
   ความจุข้อมูลภายใน (ROM)    256 GB
   ความจุข้อมูลภายนอกสูงสุด      -
   แบตเตอรี่ และระบบชาร์จ      ความจุแบตเตอรี่ 5,000 mAh

จอแสดงผล
   ชนิดจอ            จอสัมผัส (AMOLED)
   ความละเอียด        6.78 นิ้ว, 1,080 x 2,436 px

   รายละเอียดอื่น
SIZE 6.78’’ 3D-Curved AMOLED
SCREEN-TO-BODY RATIO 93.80%
RESOLUTION FHD+ 1080*2436
TYPE LTPS
MATERIAL AMOLED
PEAK BRIGHTNESS 550nit Type, 1300nit Peak
REFRESH RATE 60Hz/120Hz
TOUCH SAMPLING RATE Up to 360Hz
OTHER FEATURES DCI-P3 WIDE COLOUR GAMUT

กล้องถ่ายรูป
   ขนาด-ความละเอียด          กล้องหลัง (108 Mpx), กล้องหน้า (32 Mpx)
   ความละเอียดของภาพภ่ายสูงสุด
   คุณสมบัติ                   -

ระบบปฏิบัติการ
   หน่วยประมวลผล (CPU)           MediaTek Helio G99 Ultimate Octa-core (2x2.2 GHz Cortex-A76 & 6x2.0 GHz Cortex-A55)
   หน่วยประมวลผลกราฟิก (GPU)      Mali-G57 MC2
   หน่วยความจำ (RAM)             8.0 GB
   ระบบเชื่อมต่อภายนอก             USB(TYPE-C), Bluetooth, NFC, Wi-Fi(802.11 (a/b/g/n/ac) 2.4/5GHz)
   ระบบรับส่งข้อความ                 -
   การเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ต            3G, WiFi, 4G
   ระบบ GPS                       -

โทรศัพท์มือถือใหม่ 2024: อินฟินิกซ์ Infinix NOTE40 Pro (8GB/256GB) อ่านบทความเพิ่มเติมคลิ๊กที่นี่ https://www.checkraka.com/mobilephone/

14
เพอร์เฟค เพลส ราชพฤกษ์-รัตนาธิเบศร์ (Perfect Place Ratchaphruek-Rattanathibet)
ราคา : 10,000,000 - 20,000,000 บาท (ณ. วันเปิดตัว)

จุดเด่น
เพอร์เฟค เพลส ราชพฤกษ์-รัตนาธิเบศร์ บ้านเดี่ยวสุดหรู สไตล์ Modern Luxury จาก Property Perfect เป็นทั้ง Public & Private Area บนพื้นที่ใช้สอยขนาดใหญ่ ครบทุกฟังก์ชันเพื่อรองรับความเป็นส่วนตัวของทุกสมาชิกในบ้าน ตั้งอยู่ใจกลางความเจริญบนถนนราชพฤกษ์ มีสิ่งอำนวยความสะดวกที่ครบครัน

รายละเอียดโครงการ
ชื่อโครงการ : เพอร์เฟค เพลส ราชพฤกษ์-รัตนาธิเบศร์ (Perfect Place Ratchaphruek-Rattanathibet)
ดูบ้านราคาใกล้เคียง  ดู พร็อพเพอร์ตี้เพอร์เฟค ทุกโครงการ 
เจ้าของโครงการ : พร็อพเพอร์ตี้เพอร์เฟค
แบรนด์ย่อย : เพอร์เฟค เพลส
ราคา : 10,000,000 - 20,000,000 บาท (ณ. วันเปิดตัว)
 
ประเภทบ้าน : บ้านเดี่ยว
ลักษณะทำเล : บ้านใกล้เมือง
พื้นที่โครงการ : 44 ไร่
จำนวนบ้าน : 170 หลัง
แบบบ้านทั้งหมด : 1 แบบ
เนื้อที่บ้าน : โปรดสอบถามข้อมูลกับทางโครงการ
พื้นที่ใช้สอย : ตั้งแต่ 221.0 ถึง 340.0 ตร.ม.
จำนวนชั้น : 2 ชั้น
หน้ากว้าง : โปรดสอบถามข้อมูลกับทางโครงการ
จำนวนห้องนอน : โปรดสอบถามข้อมูลกับทางโครงการ
จำนวนที่จอดรถ : 3 คัน
สาธารณูปโภค : สวนสาธารณะ, คลับเฮาส์, สระว่ายน้ำ, ฟิตเนส, รปภ., CCTV, อื่นๆ (ห้องออกกำลังกาย ล้อบบี้เลานจ์, Pet Zone), Jogging Track
ขนส่งสาธารณะ : ใกล้ถนนสายหลัก (ถนนราชพฤกษ์, ถนนรัตนาธิเบศร์), รถไฟฟ้า ใกล้รถไฟฟ้า, รถไฟฟ้าสายสีม่วง MRT (สถานีบางรักน้อยท่าอิฐ)

สถานที่สำคัญใกล้เคียง :
1. Central Westville
2. Lotus North ราชพฤกษ์
3. Robinson Lifestyle ราชพฤกษ์
4. Chic Republic ราชพฤกษ์
5. Denla British School (DBS)
6. Singapore International School Of Bangkok (SISB)
7. Ruamrudee International School (RIS)

 
โซน : นนทบุรี, บางบัวทอง, บางใหญ่, ปากเกร็ด
ที่ตั้ง : ถนนราชพฤกษ์ ตำบลท่าอิฐ อำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี 11120

โครงการบ้านใหม่ 2024: เพอร์เฟค เพลส ราชพฤกษ์-รัตนาธิเบศร์ (Perfect Place Ratchaphruek-Rattanathibet) อ่านบทความเพิ่มเติมคลิ๊กที่นี่ https://www.checkraka.com/house/news/

15
รู้แล้วยัง จังหวัดนครศรีธรรมราช ของเรามีทีมงาน รถกระบะรับจ้างจังหวัดนครศรีธรรมราช ที่ดีมีมาตรฐาน ราคาไม่แพง
เพื่อนๆที่สนใจลองโทรเข้ามาคุยกับเขาดู ทีมงานรถรับจ้างขนส่ง เจ้านี้ให้บริการรถกระบะรับจ้างที่คุณภาพจริงๆ ราคาถูกอีกด้วยค่ะ ไม่ว่าจะต้องการ ขนของย้ายบ้าน ขนย้ายหอพัก ขนย้ายสินค้าอุปโภคบริโภค ขนย้ายสินค้าทั่วไป ขนย้ายสินค้าวัตถุดิบทางการเกษตร วิ่งงานออกต่างจังหวัด

ลองเข้ามาใช้บริการรถรับจ้างเจ้านี้ดู เขามีให้บริการ รถกระบะรับจ้าง ด้วยกัน 2 แบบ ซึ่งจะได้แก่ รถกระบะรับจ้างแบบตู้ทึบ เหมาะมากๆค่ะกับสภาพภูมิอากาศบ้านเราเพราะว่าจะป้องกันฝนได้เป็นอย่างดี ป้องกันฝุ่นไม่ให้เกาะสินค้าของเรา และไม่ต้องกังวลเรื่องของจะตกหล่นเสียหายระหว่างทาง กระบะตู้ทึบนี้ทำจากสแตนเลส อย่างดีมีมาตรฐาน ทุกงานขนย้ายคุณจึงไม่ต้องกังวลอีกต่อไปไม่ว่าคุณจะขนย้ายสินค้าที่คุณรัก ที่คุณห่วงขนย้ายเฟอร์นิเจอร์ ขนย้ายบ้านขนย้ายของทั่วไปก็เรียนเชิญใช้บริการเจ้านี้ดูนะคะ

ส่วนอีกแบบนึงก็จะเป็น รถกระบะรับจ้างแบบคอกสูง ซึ่งจะเป็นโครงเหล็ก แล้วใช้ผ้าใบเป็นการคลุมปิด มิดชิดอีกทีนึง ซึ่งการขนย้ายแบบนี้ก็จะป้องกันฝนได้ 100% เช่นเดียวกัน แต่เหมาะสำหรับสินค้าที่มีขนาดที่แตกต่างกันไป บางครั้งอาจจะมีขนาดที่เลยสูงไปกว่าหลังคาแต่ไม่เกินที่กฎหมายกำหนด เช่นงานขนย้ายบ้านงานขนย้ายสินค้าทั่วไป สินค้าเฟอร์นิเจอร์ ขนย้ายวัตถุดิบทางการเกษตร เป็นต้น ซึ่งก็จะใช้ผ้าใบเป็นการคลุมปิดมิดชิด ป้องกันฝนป้องกันฝุ่นได้เช่นเดียวกัน

ศูนย์รวมรถกระบะรับจ้าง
รถกระบะรับจ้างที่นครศรีธรรมราช ของเรานั้น ให้บริการรับจ้างขนย้ายของมาอย่างยาวนานกว่า 15 ปี สามารถวิ่งงานรับจ้างขนของ ทั้งในเขตจังหวัดและวิ่งออกต่างจังหวัดไปทั่วประเทศไทย ไม่ว่าลูกค้าต้องการที่จะขนย้ายของไปที่ไหนก็สามารถติดต่อสอบถามบริการได้เลยทันที หากสนใจใช้บริการ รถขนของรับจ้างนครศรีธรรมราช

สามารถติดต่อเข้ามาสอบถามได้ง่ายมากค่ะเพียงแค่ท่านเล่น facebook เล่นไลน์ เล่นทวิตเตอร์ หรืออาจจะกดเข้ามาฝากข้อความไว้ที่เว็บไซต์ก็ได้เช่นเดียวกันติดต่อง่ายๆสะดวกมากค่ะ แต่หากต้องการโทร ก็สามารถติดต่อที่สายด่วนได้เลยทันที เพราะท่านจะสามารถตรวจเช็คราคาค่าขนย้าย หรือต่อรองราคาค่าขนย้ายก็สามารถทำได้ไม่ต้องเกรงใจได้

รถกระบะรับจ้างขนของจังหวัดนครศรีธรรมราช บริการดีมีมาตรฐาน ให้บริการตลอด 24 ชั่วโมงในราคาถูก
หากเราต้องย้ายที่อยู่ ย้ายบ้าน ย้ายที่ทำงาน ทุกปัญหาในการขนย้ายของท่านจะหมดไป

โดยไม่ต้องกังวลใจอีกต่อไปเมื่อลองมาใช้บริการขนส่งผู้นำด้านงานบริการ รถกระบะรับจ้างขนของทั่วไป เรามีมาตรฐาน เพื่อให้ท่านสบายใจได้ว่าในการขนย้ายสินค้ากับเรานั้นไม่ใช่เฉพาะมีเพียงแค่รถรับจ้างอย่างเดียว แต่เรายังมีให้บริการพนักงานยกสินค้าไว้บริการลูกค้าทุกคนที่เข้ามาใช้บริการกับเราซึ่งเป็น ค่าบริการคนยกแบบฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย เพราะบางครั้งจากประสบการณ์การทำงานของเราลูกค้ามีความกังวลมากในการขนย้ายนั่นก็คือ การยกของจากชั้นสูงๆ ลงมาข้างล่างเนื่องจากลูกค้าอาจจะมีคนเพียงแค่คนเดียวซึ่งไม่สามารถที่จะยกได้หรือยกของได้ด้วยตัวเอง จะจ้างคนยกจากข้างนอก จ้างคนขับรถวินมอเตอร์ไซค์ ก็มีความกังวลว่าสินค้าอาจจะแตกเสียหายหรือของหายก็เป็นไปได้

ซึ่งไม่คุ้มแน่ๆกับการขนยกสินค้าจากข้างนอกเพราะท่านก็ต้องมาปวดหัวกับเวลาลงของ ก็ต้องจ้างคนลงของอีกครั้ง แต่สำหรับทีมงาน รถกระบะขนของ ของเราจะมีพนักงานช่วยยกสินค้าทั้งขึ้นและลงจบในที่เดียว และที่สำคัญเด็กยกของเราทุกคน มีความชำนาญในการขนย้ายสินค้ามากเป็นพิเศษจัดเรียงสินค้าได้เป็นอย่างดีเป็นระเบียบไม่ทำให้ของและสินค้าของท่านขูดเป็นรอยหรือแตกเสียหายอย่างแน่นอน

ท่านลองเข้ามาใช้บริการรถ กระบะรับจ้างขนย้ายของจังหวัดนครศรีธรรมราช กับลองดูท่านจะรู้เลยว่าท่านตัดสินใจ ถูกแล้ว ที่ไว้วางใจ รถรับจ้างของเรา เรามีจุดให้บริการรถกระบะรับจ้างในเขตจังหวัดนครศรีธรรมราชประจำในแต่ละจุดซึ่งมากมายซึ่งเราต้องการให้มีความครอบคลุมในด้านงานบริการทุกเขตพื้นที่ในตัวจังหวัดและต่างอำเภอเราจึงมีจุดจอดรถไว้คอยบริการท่านอย่างมากมายและมีรถหลายคันไว้คอยบริการท่านซึ่งได้แก่

รับจ้างขนของไปต่างจังหวัด
อำเภอเมืองนครศรีธรรมราช
อำเภอขนอม
อำเภอจุฬาภรณ์
อำเภอเฉลิมพระเกียรติ(นครศรีธรรมราช)
อำเภอฉวาง
อำเภอช้างกลาง
อำเภอชะอวด
อำเภอเชียรใหญ่
อำเภอถ้ำพรรณรา
อำเภอท่าศาลา
อำเภอทุ่งใหญ่
อำเภอทุ่งสง
อำเภอนบพิตำ
อำเภอนาบอน
อำเภอบางขัน
อำเภอปากพนัง
อำเภอพรหมคีรี
อำเภอพระพรหม
อำเภอพิปูน
อำเภอร่อนพิบูลย์
อำเภอลานสกา
อำเภอสิชล
อำเภอหัวไทร

อย่าลืมนะครับหากท่านแวะมาที่จังหวัดนครศรีธรรมราชหรือเป็นคนในพื้นที่หากต้องการที่จะ ขนย้ายของ ขนย้ายบ้านรับจ้างขนของทั่วไป เราต้องการที่จะเข้าไปบริการท่าน อย่างเต็มความสามารถ ลองไว้ใจให้ใช้บริการรถรับจ้างกับเราลองดูรับรองว่าท่านจะประทับใจเราอย่างแน่นอน
สนใจเลือกใช้บริการ รถรับจ้างจังหวัดนครศรีธรรมราช ของเรา
จะย้ายของครั้งใดโทรหาเรานะครับเราพร้อมยินดีให้บริการท่านจริงๆ และต้องขอขอบคุณทุกท่านที่ไว้วางใจเข้ามารับใช้ ตลอด 15 ปีที่ผ่านมา เราต้องขอขอบคุณท่านเป็นอย่างสูง และเราจะดำเนินธุรกิจที่มีมาตรฐานคุณภาพดีราคาไม่แพงเช่นนี้เรื่อยไป เราสัญญาขอบคุณนะครับ



รถรับจ้างขนของชลบุรี รถรับจ้างจังหวัดนครศรีธรรมราช รับจ้างขนของดี กันเอง ปลอดภัย ต้องเจ้านี้ อ่านบทความเพิ่มเติมคลิ๊กที่นี่ https://www.rodrubjang-youservice.com/category/26

หน้า: [1] 2 3 ... 59














































รวมเว็บลงประกาศฟรี ล่าสุด
รวมเว็บประกาศฟรี
โพสต์ขายของฟรี
ลงโฆษณาสินค้าฟรี
โฆษณาฟรี
ประกาศฟรี
เว็บฟรีไม่จำกัด
ทำ SEO ติด Google
ลงประกาศขาย
เว็บฟรียอดนิยม
โพสโฆษณา
ประกาศขายของ
ประกาศหางาน
บริการ แนะนำเว็บ
ลงประกาศ
รวมเว็บประกาศฟรี
รวมเว็บซื้อขาย ใช้งานง่าย
ลงประกาศฟรี ทุกจังหวัด
ต้องการขาย
ปล่อยเช่า บ้าน คอนโด ที่ดิน
ขายบ้าน คอนโด ที่ดิน
ประกาศฟรี ไม่มี หมดอายุ
เว็บประกาศฟรี ติดอันดับ
ฝากร้านฟรี โพ ส ฟรี
ลงประกาศฟรี กรุงเทพ
ลงประกาศฟรี ทั่วไทย
ลงประกาศโฆษณาฟรี
ลงประกาศฟรี 2023
รวมเว็บลงประกาศฟรี

รวม SMFขายสินค้า
ประกาศฟรีออนไลน์
ลงประกาศ สินค้า
เว็บบอร์ด โพสต์ฟรี
ลงประกาศ ซื้อ-ขาย ฟรี
ชุมชนคนไอทีขายสินค้า
ลงประกาศฟรีใหม่ๆ 2023
โปรโมทธุรกิจฟรี
โปรโมทสินค้าฟรี
แจกฟรี รายชื่อเว็บลงประกาศฟรี
โปรโมท Social
โปรโมท youtube
แจกฟรี รายชื่อเว็บ
แจกฟรีโพสเว็บบอร์ดsmf
เว็บบอร์ดsmfโพสฟรี
รายชื่อเว็บบอร์ดขายสินค้าฟรี
ลงประกาศฟรี เว็บบอร์ด
เว็บบอร์ดขายสินค้าฟรี
ฟรี เว็บบอร์ด แรงๆ
โพสขายสินค้าตรงกลุ่มเป้าหมาย
โฆษณาเลื่อนประกาศได้
ขายของออนไลน์
แนะนำ 6 วิธีขายของออนไลน์
อยากขายของออนไลน์
เริ่มต้นขายของออนไลน์
ขายของออนไลน์ เริ่มยังไง
ชี้ช่องขายของออนไลน์
การขายของออนไลน์
สร้างเว็บฟรีประกาศ

smf โพสฟรี
smf ขายของออนไลน์อะไรดี
smf โพสฟรี
อยากขายของออนไลน์ smf
ขายของออนไลน์ยังไงให้มีคนซื้อ
smf เริ่มต้นขายของออนไลน์
ไอ เดีย การขายของออนไลน์
เว็บขายของออนไลน์
เริ่ม ขายของออนไลน์ โพสฟรี
smf ขายของออนไลน์ที่ไหนดี
เทคนิคการโพสต์ขายของ
smf โพสต์ขายของให้ยอดขายปัง
โพสต์ขายของให้ยอดขายปังโพสฟรี
smf ขายของในกลุ่มซื้อขายสินค้า
โพสขายของยังไงให้มีคนซื้อ
smf โพสขายของแบบไหนดี
โพสฟรีแคปชั่นโพสขายของยังไงให้ปัง
smf แคปชั่นแม่ค้าออนไลน์
แคปชั่นแม่ค้าออนไลน์ โพสฟรี
ขายของให้ออร์เดอร์เข้ารัว ๆ
smf โพสต์เรียกลูกค้า
โพสต์เรียกลูกค้าโพสฟรี
smf ขายของออนไลน์ให้ปัง
smf โพสต์ขายของ
smf เขียนโพสขายของโดนๆ
แคปชั่นเปิดร้าน โพสฟรี
smf วิธีโพสขายของให้น่าสนใจ
วิธีเพิ่มยอดขาย โพสฟรี
smf เทคนิคเพิ่มยอดขาย

เพิ่มยอดขายให้เข้าเป้า
เว็บบอร์ดฟรี
โปรโมทฟรี
มีลูกค้าเพิ่ม - YouTube
ผลักดันยอดขายโปรโมทฟรี
โปรโมทผลักดันยอดขาย
โปรโมทแผนการเพิ่มยอดขายให้ได้ผล
โปรโมทวิธีการวางแผนการเพิ่มยอดขาย
ยอดขายไม่ดีควรทำอย่างไร
ยอดขายตกเกิดจากอะไร
ทำไมต้องเพิ่มยอดขาย
ขายฟรี
ยอดการขาย คืออะไร
กลยุทธ์เพิ่มยอดขาย
โพสฟรีการกระตุ้นยอดขาย
โปรโมทกระตุ้นยอดขาย
โปรโมทฟรีออนไลน์กระตุ้นยอดขาย
ประกาศฟรีเพิ่มยอดขาย
ลงประกาศเพิ่มยอดขาย
ฝากร้านฟรีเพิ่มยอดขาย
ลงประกาศฟรีใหม่ ๆ เพิ่มยอดขาย
เว็บประกาศฟรีเพิ่มยอดขาย
Post ฟรี
ประกาศขายของฟรี
ประกาศฟรี
โพส SEO
ลงโฆษณาฟรี
โปรโมทเพจร้านค้า