แสดงกระทู้

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.


Topics - siritidaphon

หน้า: 1 ... 7 8 [9] 10 11 ... 41
121
ผลกระทบที่เกิดขึ้นจากเสียงดัง
ในโรงงานอุตสาหกรรม
โรงงานหรือสถานประกอบกิจการที่มีปัญหาด้านเสียงเกินค่ามาตรฐาน อาจสร้างผลกระทบทั้งด้านอาชีวอนามัยและความปลอดภัยในการทำงานต่อพนักงานในโรงงานเอง หรืออาจก่อให้เกิดมลพิษทางเสียงต่อชุมชนและสภาพแวดล้อมที่อยู่ด้านนอกโรงงาน หากเจ้าของแหล่งกำเนิดเสียงหรือผู้เกี่ยวข้องปล่อยปละละเลย ไม่จัดทำโครงการควบคุมเสียงหรือแก้ไขปัญหาดังกล่าวไม่สำเร็จ จะทำให้มีผลกระทบตามมา เช่น
•   เป็นผู้กระทำผิดกฎหมายด้านเสียง มีทั้งโทษปรับและจำคุก
•   ลูกจ้างอาจเกิดภาวะสูญเสียการได้ยินแบบชั่วคราวหรือแบบถาวร
•   ประสิทธิภาพการทำงานของพนักงานลดลงจากเสียงเกินค่ามาตรฐาน
•   ถูกร้องเรียนจากชุมชนหรือผู้ได้รับผลกระทบทางเสียงที่อยู่นอกโรงงาน
•   โรงงานหรือสถานประกอบกิจการอาจถูกสั่งปิดปรับปรุง จนกว่าจะแก้ไขแล้วเสร็จ

ทำไมต้องใช้บริการจาก
“NEWTECH INSULATION” ในการควบคุมเสียง?
ด้วยประสบการณ์กว่า 15 ปี ในการควบคุมเสียงอุตสาหกรรม เรามีความพร้อมทั้งด้านบุคลากรเฉพาะทางที่มีความรู้ด้านเสียงและความสั่นสะเทือน เครื่องมืออันทันสมัยที่ได้มาตรฐานตามที่กฎหมายกำหนด รวมถึงประสบการณ์ด้านการแก้ไขปัญหาเสียงอุตสาหกรรมที่มีทั้งในและต่างประเทศ ผู้ใช้บริการจึงมั่นใจได้ว่าปัญหาด้านเสียงในโรงงานหรือสถานประกอบกิจการจะได้รับการแก้ไขได้อย่างตรงจุด ด้วยค่าใช้จ่ายที่น้อยที่สุด เพราะเราเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการควบคุมเสียงในอุตสาหกรรม
– บริษัทฯ ขึ้นทะเบียนและได้รับใบอนุญาตเป็นนิติบุคคลผู้ให้บริการตรวจวัดและวิเคราะห์สภาวะการทำงานเกี่ยวกับระดับเสียง โดยกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน
– บุคลากรของบริษัทฯ ได้รับใบอนุญาตเป็นผู้ควบคุมมลพิษเสียงและความสั่นสะเทือน จากสภาวิชาชีพวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
– มีทีมงานที่มากประสบการณ์และความรู้ ได้แก่ วิศวกร นักสิ่งแวดล้อมอุตสาหกรรม เจ้าหน้าที่ความปลอดภัยในการทำงาน ช่างเทคนิค รวมไปถึงช่างประกอบและติดตั้งระบบควบคุมเสียง
– มีเครื่องมือที่ได้มาตรฐานไว้ให้บริการทั้งด้านฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์
– มีสินค้าสำหรับควบคุมเสียงและความสั่นสะเทือนให้เลือกหลากหลายรูปแบบ เช่น ผนังกันเสียง ห้องเก็บเสียง ม่านกันเสียง ตู้ครอบลดเสียง แจ็คเก็ตลดเสียง ไซเลนเซอร์ อคูสติคลูเวอร์ อุปกรณ์แยกความสั่นสะเทือน เป็นต้น
– มีการประเมินหรือทำตัวแบบจำลองระดับเสียง ก่อน-หลัง ปรับปรุงให้ลูกค้าใช้เป็นข้อมูลในการตัดสินใจ ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายและเวลาในการแก้ปัญหาด้านเสียง
– รับประกันระดับเสียงที่ลดลง อยู่ในเกณฑ์ที่กฎหมายกำหนด
– รับประกันคุณภาพสินค้าและฝีมือการติดตั้งทุกงาน

บริษัท นิวเทค อินซูเลชั่น จำกัด
ผู้เชี่ยวชาญด้านการควบคุมเสียงในโรงงานอุตสาหกรรม
จากประสบการณ์ในการแก้ไขปัญหาด้านเสียงมายาวนาน ไม่ว่าจะเป็นเสียงทางอาชีวอนามัยและความปลอดภัยในการทำงาน และเสียงทางสิ่งแวดล้อม
ทางบริษัทฯ ยินดีให้คำแนะนำที่ทำได้จริงสำหรับการแก้ปัญหาด้านมลภาวะทางเสียงที่เกิดขึ้น เพื่อให้ทั้งโรงงาน พนักงาน หรือชุมชนโดยรอบอยู่ร่วมกันได้
“เพราะเรา…เข้าใจเรื่องเสียง”


สนใจสั่งซื้อ
เบอร์โทร:  02-583-8035 , 02-583-8034, 098-995-4650
E-mail: contact@newtechinsulation.com
Line ID: @newtechinsulation
Facebook: newtechthai
Instagram: newtechinsulation
เว็บไซด์: https://www.noisecontrol365.com/


122
การทำความสะอาดช่องปากและฟัน สำหรับเด็กที่เข้ารับการจัดฟันเด็ก

การดูแลรักษาความสะอาดของสุขภาพช่องปากและฟัน ถือว่าเป็นเรื่องสำคัญมาก ไม่ว่าจะเป็นเพศไหนหรือช่วงอายุใด ยิ่งสุขภาพช่องปากและฟันในเด็กที่กำลังอยู่ในวัยเจริญเติบโตนั้น พ่อแม่ผู้ปกครองยิ่งต้องดูแลเอาใจใส่ให้มากเป็นพิเศษ เพราะในช่วงวัยเด็ก ยังมีฟันน้ำนม ซึ่งฟันน้ำนมก็มีความสำคัญไม่แพ้กันกับฟันแท้เลย พ่อแม่ผู้ปกครองอาจจะมองว่า ฟันน้ำนม ไม่มีความสำคัญเพราะยังไง ฟันน้ำนมก็ต้องหลุดอยู่แล้ว เพื่อให้ฟันแท้ขึ้นมาแทนที่


นั่นถือเป็นความคิดที่ผิด เพราะฟันน้ำนมมีความสำคัญมาก ส่งผลต่อการขึ้นของฟันแท้ เพราะฟันน้ำนมมีบทบาทสำคัญในลำดับขั้นพัฒนาการของเด็ก นอกจากจะเป็นตำแหน่งที่จะเกิดฟันแท้มาแทนที่แล้ว ยังสามารถช่วยในเรื่องลักษณะทางกายภาพให้มีโครงสร้างร่างกายเป็นปกติ มีฟันไว้ช่วยบดเคี้ยวอาหารที่ดีได้ หากฟันน้ำนมมีสุขภาพดี ไม่ผุกร่อนหรือติดเชื้อ ก็จะส่งเสริมพัฒนาการฟันแท้ที่จะงอกตามมาให้สมบูรณ์แข็งแรงตามไปด้วย


ดังนั้น พ่อแม่ผู้ปกครองควรที่จะปลูกฝังให้บุตรหลาของท่าน หันมาเอาใจใส่ในเรื่องของการดูแลสุขภาพช่องปากและฟัน ตั้งแต่อายุยังน้อย เพื่อที่จะได้เติบโตไปเป็นผู้ใหญ่ที่มีสุขภาพฟันที่แข็งแรง อย่างไรก็ตาม อย่างที่กล่าวไปตั้งแต่ต้น ว่า พ่อแม่ผู้ปกครองส่วนใหญ่อาจจะมองว่า ฟันน้ำนมไม่มีความสำคัญ จึงอาจจะปล่อยประละเลย ทำให้เด็กเกิดฟันผุและมีปัญหาฟันตามมาได้ จึงเป็นสาเหตุของการสูญเสียฟันตั้งแต่ในวัยเด็ก ซึ่งปัญหาดังกล่าวมักจะพบได้บ่อย และต้องลงเอยด้วยการรักษาด้วยการจัดฟันในเด็ก ซึ่งต้องบอกว่า การจัดฟันในเด็ก ก็สามารถแก้ไขปัญหาฟันได้อย่างมีประสิทธิภาพเลยทีเดียว แถมยังช่วยปรับโครงสร้างของใบหน้าเด็กได้ด้วย ทำให้เด็กมีใบหน้าที่เข้ารูปสวย น่ารักสมวัย และที่สำคัญการจัดฟันในเด็กนั้น ยังช่วยส่งเสริมให้เด็กได้เห็นถึงความสำคัญของการดูแลรักษษความสะอาดฟันด้วย


สำหรับวันนี้ทางคลินิกของเราจะมาพูดถึงเรื่องของการดูแลรักษาความสะอาดฟันอย่างถูกวิธี สำหรับเด็กที่เข้ารับการจัดฟันในเด็ก ซึ่งต้องบอกว่า การดูแลรักษาความสะอาดช่องปากและฟัน ในช่วงของการจัดฟันเป็นเรื่องที่สำคัญมาก เพราะหลายคนที่เข้ารับการจัดฟัน ไม่ว่าจะเป็นการจัดฟันในรูปแบบใดหรือช่วงอายุใด คงมักเจอกับปัญหาในระหว่างการทำความสะอาดฟัน โดยอาจจะทำความสะอาดช่องปากและฟันได้ไม่ทั่วถึง หรือไม่สามารถแปรงฟันได้อย่างเต็มที่ เพราะมีข้อจำกัด นั่นก็คือ การมีเครื่องมือการจัดฟันติดตั้งอยู่ภายในช่องปากของเรา ซึ่งส่งผลทำให้ประสิทธิภาพในการทำความสะอาดช่องปากและฟันลดลง ซึ่งในการจัดฟันในเด็ก พ่อแม่ผู้ปกครอง ควรที่สอนให้ลูกแปรงฟันอย่างถูกวิธี และควรที่จะมีอุปกรณ์เสริมในการทำความสะอาดฟัน เพื่อที่จะได้ทำความสะอาดฟันได้อย่างเต็มที่และสะอาดทุกซอก ทุกมุม สำหรับวิธีการทำความสะอาดช่องปากและฟัน


สำหรับเด็กที่เข้ารับการจัดฟันในเด็ก ต้องบอกก่อนว่า การแปรงฟันให้สะอาด การใช้ไหมขัดฟัน เป็นสิ่งจำเป็นมากสำหรับการมีสุขภาพในช่องปากและฟันที่ดี  ไม่ว่าเด็กๆ จะเข้ารับการจัดฟันหรือไม่ก็ตาม แต่ในขณะที่เข้ารับการจัดฟัน อาจทำให้เด็กใช้ไหมขัดฟันได้ลำบาก เพราะอาจจะยังไม่รู้วิธีการใช้ ดังนั้น พ่อแม่ผู้ปกครองควรซื้อสายร้อยไหมขัดฟัน  ซึ่งทำจากพลาสติก ด้านหนึ่งเป็นห่วงสำหรับร้อยไหมขัดฟัน อีกด้านหนึ่งมีลักษณะเป็นปลายแหลม เพื่อช่วยนำไหมขัดฟันเข้าทำความสะอาด


โดยเฉพาะบริเวณใต้สะพานฟัน ฟันที่เชื่อมกัน หรืออาจจะใช้ Super floss ซึ่งเป็นอุปกรณ์ที่ประกอบด้วย ก้านพลาสติก ส่วนฟองน้ำ และส่วนไหมขัดฟันปกติ  ที่มีประสิทธิภาพ สามารถใช้ทำความสะอาดโดยใช้ส่วนก้านพลาสติกร้อยใต้สะพานฟัน ฟันที่เชื่อมกัน หรือซอกฟันที่ติดเครื่องมือจัดฟัน แล้วใช้ส่วนฟองน้ำทำความสะอาดใต้สะพานฟัน ส่วนไหมขัดฟันปกติใช้ทำความสะอาดซอกฟันอื่นๆ


อย่างไรก็ตาม เพื่อให้การรักษาได้ผลที่ดีที่สุด และเพื่อสุขภาพในช่องปากที่ดี ผู้ปกครองควรพาเด็กๆ ไปพบทันตแพทย์ เพื่อตรวจฟัน อุดฟัน ขูดหินปูน อย่างสม่ำเสมอ หากพ่อแม่ผู้ปกครองท่านใด สนใจพาบุตรหลานของท่านเข้ารับการจัดฟันในเด็ก สามารถติดต่อขอรับคำแนะนำจากทางคลินิกได้ เพราะทางเรามีทันตแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญในด้านการจัดฟันในเด็ก ที่จะให้คำปรึกษาและแนะนำขั้นตอนการจัดฟันในเด็ก เพื่อให้บุตรหลานของท่านมีฟันที่สวยงามและมีสุขภาพช่องปากและฟันที่แข็งแรง

123
การจัดฟันเด็ก ต้องเข้ารับการถอนฟันหรือไม่

เด็กๆหลายคน มีปัญหาในเรื่องของสุขภาพช่องปากและฟัน บางคนมีฟันที่มีความผิดปกติ เช่น ฟันซ้อนเก ซึ่งถ้าหากบุตรหลานของท่านมีฟันซ้อนเก ในระดับปานกลาง หรือมาก ทันตแพทย์อาจจะพิจารณาให้เด็กเข้ารับการถอนฟันเสียก่อน เพื่อให้ฟันได้เรียงตัวอย่างสวยงามและไม่มีปัญหาในเรื่องของการรับประทานอาหาร โดยเฉพาะในเรื่องของบดเคี้ยวอาหาร รวมไปถึงการทำความสะอาดช่องปากและฟัน ก็จะทำให้ไม่สามารถทำความสะอาดได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งการถอนฟันนั้น ก็มีข้อดีสำหรับผู้ที่มีปัญหา เพราะจะช่วยเพิ่มพื้นที่ในการเรียงฟันให้เรียบและสวยงาม นอกจากนี้ เมื่อฟันเราเรียงเรียบสวยงามแล้ว ยังทำให้เราทำความสะอาดฟันง่ายขึ้นด้วย อย่างไรก็ตาม การถอนฟันยังสามารถช่วยแก้ไขปัญหาฟันที่ยื่นล้ำหน้าให้เข้ามาด้านใน ทำให้ฟันที่ยื่นดูยุบลง ส่งผลให้รูปใบหน้าเปลี่ยนแปลง สวยขึ้นด้วย


และสำหรับเด็กที่อยากเข้ารับการจัดฟันในเด็ก เพื่อที่อยากจะมีฟันที่เรียงตัวอย่างสวยงาม เป็นธรรมชาติตั้งแต่เด็กๆ ก็ต้องปรึกษาทันตแพทย์เสียก่อน โดยพ่อแม่ผู้ปกครอง ควรให้ความสำคัญในข้อนี้ด้วย เพราะถ้าหากบุตรหลานของท่านมีปัญหาฟันตามที่กล่าวมา ก็ควรพาบุตรหลานของท่านเข้าพบทันตแพทย์จัดฟัน เพื่อหาทางแก้ไข ซึ่งเด็กๆหลายคนอาจจะมีความกังวลว่า ถ้าหากเข้ารับการจัดฟันในเด็กแล้ว จะต้องเข้ารับการถอนฟันหรือไม่ ซึ่งหลายคนอาจจะกลัวการถอนฟัน เพราะอาจจะทำให้รู้สึกเจ็บปวด ได้ ดังนั้น วันนี้ทางคลินิกเราจะมาพูดถึงเรื่องของการจัดฟันในเด็ก ว่าต้องเข้ารับการถอนฟันหรือไม่ เพื่อเป็นแนวทางให้ผู้ปกครองได้พูดทำความเข้าใจกับเด็กถึงในการรักษาด้วยการจัดฟันในเด็ก

สำหรับการจัดฟันในเด็กนั้น เด็กหลายคนอาจจะมีความกังวลในเรื่องของการถอนฟัน ซึ่งต้องบอกก่อนว่า ปัญหาฟันของแต่ละบุคคลนั้นมีความแตกต่างกัน ดังนั้น ก่อนเข้ารับการรักษา พ่อแม่ผู้ปกครองควรพาบุตรหลานเข้ารับการตรวจฟันกับทันตแพทย์จัดฟัน เพื่อที่จะได้วางแผนในการรักษาด้วยการจัดฟันในเด็ก สำหรับในเรื่องของการเข้ารับการถอนฟันก่อนเข้ารับการจัดฟันนั้น ทันตแพทย์จะทำการตรวจประเมินช่องปากและฟันในเบื้องต้น ถ้าหากบุตรหลานของท่านมีปัญหาในเรื่องของฟันซ้อนเก ก็อาจจะพิจารณาให้เข้ารับการถอนฟัน ก่อนเข้ารับการจัดฟันในเด็ก หรือบางคนอาจจะยิ้มแล้วฟันดูเต็มช่องปาก ซึ่งการเข้ารับการถอนฟันก็จะช่วยให้ยิ้มได้สวยขึ้นได้ หรือแม้กระทั่งเด็กที่มีปัญหาฟันฝัง เช่น ฟันเขี้ยว ซึ่งฟันฝังบางกรณีก็ยากที่จะดึงลงมาสู่ช่องปากได้ ยกตัวอย่างเช่น กรณีฟันฝังลึกๆ ฟันฝังที่รากโค้งงอ หรือฟันฝังที่รากยึดติดกับกระดูก กรณีนี้ทันตแพทย์ก็อาจพิจารณาให้ถอนฟันออก


แต่อย่างไรก็ตาม การเข้ารับการถอนฟัน ก่อนเข้ารับการรักษาด้วยการจัดฟันในเด็กนั้น ก็ไม่จำเป็นต้องเข้ารับการถอนฟันทุกคน เพราะเด็กบางคนอาจจะมีปัญหาฟันซ้อนเกเพียงเล็กน้อย ซึ่งทันตแพทย์สามารถแก้ไข ดึงฟันให้กลับมาเรียงตัวอย่างสวยงามได้ โดยไม่ต้องเข้ารับการถอนฟัน หรือถ้าหากเด็กบางคนมีใบหน้าค่อนข้างยุบ การเข้ารับการจัดฟันโดยไม่เข้ารับการถอนฟันก็อาจเป็นทางเลือกหนึ่งที่ดีที่สุดก็ได้ ดังนั้น ก่อนเข้ารับการรักษาด้วยการจัดฟันในเด็ก พ่อแม่ผู้ปกครองควรที่จะปรึกษาทันตแพทย์ก่อนเข้ารับการรักษา หรืออาจจะศึกษาข้อมูลรายละเอียด รวมไปถึงขั้นตอนการเตรียมก่อนเข้ารับการจัดฟันในเด็ก เพื่อให้เด็กได้มีความพร้อมและให้ความร่วมมือกับทันตแพทย์ในการรักษาได้อย่างเต็มที่และไม่มีความกังวล

อย่างไรก็ตาม ทางคลินิกของเรา ก็มีทันตแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญในเรื่องของการจัดฟันในเด็ก หากพ่อแม่ผู้ปกครองท่านใดสนใจพาบุตรหลานของท่านเข้ารับการจัดฟันในเด็ก ก็สามารถติดต่อขอรับคำแนะนำได้ที่คลินิกเพื่อเป็นแนวทางในการตัดสินใจเข้ารับการรักษา  ทางเราอยากให้เด็กทุกคนมีฟันที่สวยงามเป็นธรรมชาติ มีรอยยิ้มที่สดใสสมวัย และมีสุขภาพช่องปากและฟันที่ดีในอนาคต

124
รถกระบะรับจ้าง รถรับจ้างเขตกรุงเทพฯและปริมณฑล รับประกันเรื่องราคา ไม่บวกเพิ่ม

วันนี้เรามาอัพเดทข้อมูลข่าวสารจากผู้ให้บริการ รถรับจ้างขนย้าย เช่นเดียวกันที่เรามองว่าน่าจะมีประโยชน์ต่อผู้ใช้บริการทุกท่านอย่างแน่นอน เรามาดูว่า รถรับจ้างขนของกรุงเทพ กันเลยนะคะ  ผู้นำด้านการบริการ รถรับจ้างเขตกรุงเทพฯและปริมณฑล เราให้การบริการ รับจ้างขนของ มาอย่างยาวนาน ตั้งแต่รุ่นสู่รุ่น งานบริการที่ครบ จบในที่เดียว เน้นงานที่ คุณภาพแต่ราคาไม่แพง รถรับจ้างของเราในแต่ละคัน ต่างเป็นรถรับจ้างที่สภาพดีใหม่

เพราะด้วยว่าการรับจ้างขนของ จะสำเร็จลุล่วงไปด้วยดี จะต้องมีความพร้อม ทั้งรถ และพนักงานขับ ดังนั้นเราจึงต้องเน้นสองสิ่งนี้ ให้ดีเยี่ยม และเกิดปัญหาน้อยที่สุด ซึ่ง รถรับจ้างในกรุงเทพและปริมณฑล ของเรา ต่างให้บริการ ที่หลากหลายประเภท เช่น รถกระบะรับจ้างเขตกรุงเทพ จะมีให้บริการ ทั้งกระบะตอนเดียว กระบะแคป แบบตู้ทึบ และแบบคอกสูง มีผ้าใบคลุมรถ6ล้อรับจ้างเขตกรุงเทพฯและปริมณฑล จะมีรถที่มีขนาดที่หลากหลายเช่นกัน คือขนาดเล็ก ยาว 5.5 เมตร ขนาด

กลาง ยาว 6.5 เมตร ขนาดใหญ่ยาว 7.2 เมตร ก็จะมีให้เลือกทั้ง แบบคอกสูงมีผ้าใบคลุม และแบบเป็นตู้ทึบ ส่วนใหญ่ลักษณะงานของรถ 2 ประเภทนี้ ก็จะเป็นงาน ขนย้ายบ้าน ขนย้ายสินค้าโรงงาน ในรูปของกล่อง บรรจุภัณฑ์ ขนย้ายหอพัก ขนย้ายคอนโด ขนย้ายวัตถุดิบทางการเกษตร ขนย้ายเครื่องจักร หรือแม้กระทั่ง สินค้าอุปกรณ์ก่อสร้าง หรือ งานไซด์งงานก่อสร้าง รถสิบล้อรับจ้างเขตกรุงเทพและปริมณฑล ก็จะมีทั้งแบบคอกสูงและตู้ทึบ งานที่ให้บริการก็มีหลากหลายเช่นกันไม่แตกต่างจากรถ 6 ล้อรับจ้างเลย ซึ่งสามารถขนย้ายสินค้าได้น้ำหนักสูงสุดถึง 15 ตัน บางครั้งอาจจะขนย้าย พวกปุ๋ย

เคมี วัสดุก่อสร้าง ปูน เหล็ก อาหารสัตว์ เป็นต้น รถเฮี๊ยบรับจ้างเขตกรุงเทพและปริมณฑล ส่วนใหญ่ก็จะเป็นขนย้ายสินค้าที่มีน้ำหนักมากๆ เช่น ขนย้ายเครื่องจักร ยกต้นไม้ ยกแบริเออร์ขนาดใหญ่ เป็นต้น รถเทลเลอร์รับจ้างเขตกรุงเทพ และปริมณฑล อันนี้ส่วนใหญ่จะเป็นงาน ที่ขนย้ายสินค้าขนาดที่ใหญ่มากและ มีความยาว จึงต้องใช้ทีมงานที่มีความชำนาญเป็นพิเศษในการช่วยขนย้าย ทุกงานที่กล่าวมานี้ เราให้บริการมาแล้วทั้งสิ้น ตลอดระยะเวลากว่า 10 ปี งาน

บริการรับจ้างขนของ ในเขตกรุงเทพและปริมณฑล ของเราลูกค้าต่างให้การยอมรับ และชื่นชอบที่เข้ามาใช้บริการรถรับจ้างของเรา เพราะ งานที่ขนย้ายกับเรา สินค้าของลูกค้าไม่เคยมีปัญหา หาย ชำรุด แตกพัง พร้อมกับพนักงานผู้ให้บริการ พูดจาสุภาพ ดีทุกคนจึงทำให้มีลูกค้าเข้ามาใช้บริการ รถรับจ้างกรุงเทพ ของเราอย่างมากมาย หากท่านต้องการใช้บริการ

รถรับจ้างขนของกรุงเทพ และปริมณฑลของเราท่านสามารถโทรเข้ามาติดต่อสอบถามกับเราได้ทุกวันและเวลา เราเปิดตลอด 24 ชั่วโมง

บริการที่ครบครัน จัดการจบในที่เดียว ราคาเป็นกันเอง

หากท่านต้องการ รถรับจ้างขนของเขตกรุงเทพและปริมณฑล ท่านสามารถโทรจอง หรือล็อคคิว รถรับจ้าง เที่ยวราคาถูกนี้ได้ ซึ่งท่านจะต้องจองล่วงหน้าไม่ต่ำกว่า 2-3 วันเพื่อให้เราจัดคิวรถรับจ้างขนของราคาถูกนี้ให้กับท่าน ที่สำคัญ ท่านต้องรีบจอง เพราะราคาเที่ยวรถนี้มีจำนวนจำกัดหรือไม่ท่านก็ ฝากข้อความ ระบุความต้องการที่จะใช้รถ รับจ้างเที่ยวนี้ จะย้ายจากไหนไปไหนขนย้ายสินค้าเป็นอะไร และ และวันที่ต้องการขนย้าย ส่งข้อมูลมาที่นี่

บริการรถกระบะรับจ้างราคาถูก

จุดรับบริการรถรับจ้างเขตกรุงเทพ และปริมณฑล ประจำแต่ละจุด
รถรับจ้างขนของ รถกระบะ 6ล้อ 10ล้อ เฮียบรับจ้างเขตเขตพระนคร
รถรับจ้างขนของ รถกระบะ 6ล้อ 10ล้อ เฮียบรับจ้างเขตเขตดุสิต
รถรับจ้างขนของ รถกระบะ 6ล้อ 10ล้อ เฮียบรับจ้างเขตเขตหนองจอก
รถรับจ้างขนของ รถกระบะ 6ล้อ 10ล้อ เฮียบรับจ้างเขตเขตบางรัก
รถรับจ้างขนของ รถกระบะ 6ล้อ 10ล้อ เฮียบรับจ้างเขตเขตบางเขน
รถรับจ้างขนของ รถกระบะ 6ล้อ 10ล้อ เฮียบรับจ้างเขตเขตบางกะปิ
รถรับจ้างขนของ รถกระบะ 6ล้อ 10ล้อ เฮียบรับจ้างเขตเขตปทุมวัน
รถรับจ้างขนของ รถกระบะ 6ล้อ 10ล้อ เฮียบรับจ้างเขตเขตป้อมปราบศัตรูพ่าย
รถรับจ้างขนของ รถกระบะ 6ล้อ 10ล้อ เฮียบรับจ้างเขตเขตพระโขนง
รถรับจ้างขนของ รถกระบะ 6ล้อ 10ล้อ เฮียบรับจ้างเขตเขตมีนบุรี
รถรับจ้างขนของ รถกระบะ 6ล้อ 10ล้อ เฮียบรับจ้างเขตเขตลาดกระบัง
รถรับจ้างขนของ รถกระบะ 6ล้อ 10ล้อ เฮียบรับจ้างเขตเขตยานนาวา
รถรับจ้างขนของ รถกระบะ 6ล้อ 10ล้อ เฮียบรับจ้างเขตเขตสัมพันธวงศ์
รถรับจ้างขนของ รถกระบะ 6ล้อ 10ล้อ เฮียบรับจ้างเขตเขตธนบุรี
รถรับจ้างขนของ รถกระบะ 6ล้อ 10ล้อ เฮียบรับจ้างเขตเขตพญาไทย
รถรับจ้างขนของ รถกระบะ 6ล้อ 10ล้อ เฮียบรับจ้างเขตเขตบางกอกใหญ่
รถรับจ้างขนของ รถกระบะ 6ล้อ 10ล้อ เฮียบรับจ้างเขตเขตห้วยขวาง
รถรับจ้างขนของ รถกระบะ 6ล้อ 10ล้อ เฮียบรับจ้างเขตเขตคลองสาน
รถรับจ้างขนของ รถกระบะ 6ล้อ 10ล้อ เฮียบรับจ้างเขตเขตตลิ่งชัน
รถรับจ้างขนของ รถกระบะ 6ล้อ 10ล้อ เฮียบรับจ้างเขตเขตบางกอกน้อย
รถรับจ้างขนของ รถกระบะ 6ล้อ 10ล้อ เฮียบรับจ้างเขตเขตบางขุนเทียน
รถรับจ้างขนของ รถกระบะ 6ล้อ 10ล้อ เฮียบรับจ้างเขตเขตภาษีเจริญ
รถรับจ้างขนของ รถกระบะ 6ล้อ 10ล้อ เฮียบรับจ้างเขตเขตหนองแขม
รถรับจ้างขนของ รถกระบะ 6ล้อ 10ล้อ เฮียบรับจ้างเขตเขตราษฎร์บูรณะ
รถรับจ้างขนของ รถกระบะ 6ล้อ 10ล้อ เฮียบรับจ้างเขตเขตบางพลัด
รถรับจ้างขนของ รถกระบะ 6ล้อ 10ล้อ เฮียบรับจ้างเขตเขตดินแดง
รถรับจ้างขนของ รถกระบะ 6ล้อ 10ล้อ เฮียบรับจ้างเขตเขตบึงกุ่ม
รถรับจ้างขนของ รถกระบะ 6ล้อ 10ล้อ เฮียบรับจ้างเขตเขตสาธร
รถรับจ้างขนของ รถกระบะ 6ล้อ 10ล้อ เฮียบรับจ้างเขตเขตบางซื่อ
รถรับจ้างขนของ รถกระบะ 6ล้อ 10ล้อ เฮียบรับจ้างเขตเขตจตุจักร
รถรับจ้างขนของ รถกระบะ 6ล้อ 10ล้อ เฮียบรับจ้างเขตเขตบางคอแหลม
รถรับจ้างขนของ รถกระบะ 6ล้อ 10ล้อ เฮียบรับจ้างเขตเขตประเวศ
รถรับจ้างขนของ รถกระบะ 6ล้อ 10ล้อ เฮียบรับจ้างเขตเขตคลองเตย
รถรับจ้างขนของ รถกระบะ 6ล้อ 10ล้อ เฮียบรับจ้างเขตเขตสวนหลวง
รถรับจ้างขนของ รถกระบะ 6ล้อ 10ล้อ เฮียบรับจ้างเขตเขตจอมทอง
รถรับจ้างขนของ รถกระบะ 6ล้อ 10ล้อ เฮียบรับจ้างเขตเขตดอนเมือง
รถรับจ้างขนของ รถกระบะ 6ล้อ 10ล้อ เฮียบรับจ้างเขตเขตราชเทวี
รถรับจ้างขนของ รถกระบะ 6ล้อ 10ล้อ เฮียบรับจ้างเขตเขตลาดพร้าว
รถรับจ้างขนของ รถกระบะ 6ล้อ 10ล้อ เฮียบรับจ้างเขตเขตวัฒนา
รถรับจ้างขนของ รถกระบะ 6ล้อ 10ล้อ เฮียบรับจ้างเขตเขตหลักสี่
รถรับจ้างขนของ รถกระบะ 6ล้อ 10ล้อ เฮียบรับจ้างเขตเขตสายไหม
รถรับจ้างขนของ รถกระบะ 6ล้อ 10ล้อ เฮียบรับจ้างเขตเขตคันนายาว
รถรับจ้างขนของ รถกระบะ 6ล้อ 10ล้อ เฮียบรับจ้างเขตเขตสะพานสูง
รถรับจ้างขนของ รถกระบะ 6ล้อ 10ล้อ เฮียบรับจ้างเขตเขตวังทองหลาง
รถรับจ้างขนของ รถกระบะ 6ล้อ 10ล้อ เฮียบรับจ้างเขตเขตคลองสามวา
รถรับจ้างขนของ รถกระบะ 6ล้อ 10ล้อ เฮียบรับจ้างเขตเขตทวีวัฒนา
รถรับจ้างขนของ รถกระบะ 6ล้อ 10ล้อ เฮียบรับจ้างเขตเขตบางนา
รถรับจ้างขนของ รถกระบะ 6ล้อ 10ล้อ เฮียบรับจ้างเขตเขตทุ่งครุ
รถรับจ้างขนของ รถกระบะ 6ล้อ 10ล้อ เฮียบรับจ้างเขตเขตบางบอน

125
รถกระบะรับจ้าง รถขนของย้ายบ้านสมุทรสาคร รับจ้างขนของราคาถูกไปต่างจังหวัด

รถกระบะรับจ้าง รถ6ล้อรับจ้าง ขนย้ายบ้านราคาถูก จังหวัดสมุทรสาคร
รับจ้างขนย้ายบ้านสมุทรสาคร ราคาถูก จ้างรถขนของไปต่างจังหวัด การขนย้ายบ้านเป็นประสบการณ์ที่น่าตื่นเต้น แต่ก็อาจมาพร้อมกับความท้าทายบ้าง โดยเฉพาะเมื่อคุณกำลังมองหาบริการที่มีคุณภาพและราคาที่เข้าถึงได้ง่าย หากคุณกำลังวางแผนที่จะย้ายบ้านในจังหวัดสมุทรสาคร รถขนของย้ายบ้านสมุทรสาคร ไม่ต้องกังวล! ในบทความนี้เตรียมตัวไว้สำหรับการขนย้ายบ้านในจังหวัดสมุทรสาคร โดยเราจะนำคุณผ่านขั้นตอนสำคัญและแนะนำเคล็ดลับที่มีประสิทธิภาพ เพื่อให้การย้ายบ้านของคุณเป็นไปอย่างราบรื่นและปราศจากความกังวล ตั้งแต่การค้นหาบริการ รับจ้างรถ6ล้อขนย้ายบ้าน จนถึงการค้นหาบริการขนส่งที่เชื่อถือได้ในจังหวัดสมุทรสาคร เราจะช่วยเสมือนเป็นแห่งการแนะนำในการเลือกบริการที่เหมาะสมกับคุณ

1. ขั้นตอนการขนย้ายบ้านราคาถูก
ก่อนที่คุณจะเข้าสู่กระบวนการขนย้ายบ้านด้วย รถกระบะรับจ้างจังหวัดสมุทรสาคร หรือ รถ6ล้อรับจ้างจังหวัดสมุทรสาคร การวางแผนอย่างละเอียดเป็นสิ่งสำคัญที่สุด นี่คือวิธีที่คุณสามารถเตรียมความพร้อมเพื่อความสำเร็จได้:
เลือกบริการขนย้ายบ้านที่เชื่อถือได้
การเลือกบริการ ขนย้ายบ้านราคาถูก นั้นเป็นขั้นแรก ค้นหาบริษัทที่มีชื่อเสียงดี รีวิวจากลูกค้าที่ดี และมีบริการหลากหลายที่เหมาะกับความต้องการของคุณ เลือก รับจ้างขนย้ายบ้าน รถรับจ้างขนของจังหวัดสมุทรสาคร ที่มีประสบการณ์ในจังหวัดสมุทรสาคร เพื่อความคุ้นเคยกับสถานที่ สภาพการจราจร และอุปสรรคที่เป็นไปได้
สร้างรายการตรวจสอบของการย้ายบ้านไปต่างจังหวัด
รายการตรวจสอบการย้ายบ้านเป็นเพื่อนคู่ของคุณในกระบวนการนี้ รายการที่ระบุงานทั้งหมดที่คุณต้องทำก่อน ระหว่าง และหลังการย้าย เช่น แจ้งบริการสาธารณูปโภค การจัดเก็บของไว้อย่างมีประสิทธิภาพ และการจัดเก็บเอกสารสำคัญ

รถรับจ้างขนย้าย 24 ชั่วโมง
ลดของเหลือและบริจาคอย่างฉลาด
การย้ายบ้านเป็นโอกาสที่ดีในการลดของเหลือ ตรวจสอบทรัพย์สินของคุณและตัดสินใจว่าจะเก็บ บริจาค หรือทิ้งทิ้งอย่างไร การบริจาคของที่ใช้งานได้สู่องค์กรกุศลไม่เพียงช่วยลดการสร้างขยะ แต่ยังช่วยเหลือผู้ที่ต้องการ
การแพ็คของอย่างมีประสิทธิภาพ
เริ่มกระบวนการแพ็คล่วงหน้าเพื่อหลีกเลี่ยงความเคร่งครัดในช่วงสุดท้าย ใช้กล่องที่แข็งแรงและใส่ป้ายชื่อตามห้องต่างๆ แพ็คของที่แตกต่างอย่างรอบคอบ และพิจารณาใช้ฟองน้ำอัดกันกระแทกหรือกระดาษห่อเพื่อความปลอดภัยเพิ่มเติม

2. ค่าบริการขนย้ายบ้านราคาถูก
การเลือก บริการขนส่งในสมุทรสาคร รถขนของย้ายบ้านสมุทรสาคร ไปต่างจังหวัด ที่เหมาะสมเป็นคำตอบสำคัญสำหรับการย้ายบ้านที่เป็นประสบการณ์ที่น่าตื่นเต้น ดังนั้น เลือกบริการที่มีค่าใช้จ่ายที่คุ้มค่าและไม่เป็นภาระหนักในกระเป๋าของคุณ
คุณสมบัติของรถ6ล้อที่เหมาะสม
สำหรับการย้ายบ้านขนาดใหญ่ รถขนของย้ายบ้านในสมุทรสาคร ที่มีล้อ 6 ล้อจะมีพื้นที่ส่วนใหญ่และความเสถียร รถเหล่านี้ถูกออกแบบมาเพื่อขนย้ายของหนัก ทำให้เหมาะสมสำหรับเฟอร์นิเจอร์และของที่ใหญ่โต
คุณภาพของคนขับรถ
เลือกบริการที่มีคนขับรถที่มีคุณสมบัติที่เหมาะสม เชี่ยวชาญในการขับขี่บนถนนในสมุทรสาคร เพื่อให้แน่ใจว่าทรัพย์สินของคุณจะถึงปลายทางโดยปลอดภัย
ตัวเลือกเวลาที่สะดวก
เลือกบริการขนส่งที่มีตัวเลือกเวลาที่คุณสะดวก บริการที่สามารถเข้ากับวันและเวลาที่คุณต้องการจะช่วยลดความกังวลไม่จำเป็น


3. บริษัทขนส่ง ขนย้ายบ้านราคาถูก
ระหว่างกระบวนการขนย้ายบ้าน ความปลอดภัยเป็นสิ่งสำคัญตลอดเวลา ปกป้องทรัพย์สินและคุณเองด้วยการประกันและมาตรการความปลอดภัยที่เหมาะสม
การครอบคลุมประกันครอบคลุมทางเบี้ยยังไง
อุบัติเหตุอาจเกิดขึ้น ดังนั้นการลงทุนในการครอบคลุมประกันสำหรับทรัพย์สินของคุณระหว่างการขนย้ายเป็นการเรียบร้อย การคุ้มครองทางการเงินและความสงบในกรณีเกิดเหตุไม่คาดคิด
มาตรการความปลอดภัยและอุปกรณ์
เลือกบริการขนย้ายบ้าน รถขนของย้ายบ้านสมุทรสาคร ที่ใส่ใจความปลอดภัย เช่นการมีอุปกรณ์ที่จำเป็นในการจัดการของหนัก และการรักษาความปลอดภัยในระหว่างการขนย้าย

4. สู่ทางประหยัดในการขนย้ายบ้าน
ในขณะที่การย้ายบ้านอาจมีค่าใช้จ่าย ยังมีวิธีการเพื่อเป็นทางเลือกที่คุ้มค่าโดยไม่เสียคุณภาพ
เปรียบเทียบใบเสนอราคา
เก็บข้อมูลใบเสนอราคาจากบริการขนย้ายบ้านหลายแห่งในจังหวัดสมุทรสาคร เปรียบเทียบราคาและบริการเพื่อหาข้อเสนอที่ดีที่สุดที่ตรงกับงบประมาณของคุณ
เลือกเวลาที่ไม่ได้รับความสนใจ

พิจารณาเลือกย้ายบ้านในช่วงเวลาที่ไม่ได้รับความสนใจหรือวันธรรมดา เนื่องจากความต้องการในการขนย้ายบ้านมักจะน้อยลง ซึ่งอาจเป็นโอกาสที่จะได้รับอัตราค่าบริการที่สำหรับงบประมาณจาก รถกระบะรับจ้างจังหวัดสมุทรสาคร หรือ รถ6ล้อรับจ้างจังหวัดสมุทรสาคร ไปต่างจังหวัด

สรุป รถรับจ้างขนย้ายบ้านสมุทรสาคร ราคาถูก
การ รับจ้างขนของย้ายบ้านในจังหวัดสมุทรสาคร เป็นการเปิดตัวเรื่องใหม่ ด้วยการวางแผนอย่างละเอียด การเลือก รับจ้างรถ6ล้อขนย้ายบ้าน ที่เหมาะสม และการให้ความสำคัญกับความปลอดภัย ประสบการณ์ของคุณจะเป็นไปอย่างราบรื่นและปราศจากความกังวล อย่าลืมเริ่มการเตรียมตัวในเวลาตรงเวลา จัดการทรัพย์สินอย่างมีประสิทธิภาพ และเลือกบริการขนส่งที่มีค่าใช้จ่ายเหมาะสมและไม่เป็นภาระ ด้วยคำแนะนำที่มีคุณค่าเหล่านี้ คุณจะพร้อมที่จะเข้าสู่บ้านใหม่ด้วย รถรับจ้างขนของจังหวัดสมุทรสาคร ในจังหวัดสมุทรสาครอย่างมีความสุขและสบายใจ ขอให้การย้ายของคุณเป็นทางเลือกที่ดีและสุขใจ

126
ตรวจอาการเบื้องต้นด้วยตนเอง: มะเร็งลูกตาในเด็ก (Retinoblastoma)

มะเร็งลูกตาในเด็ก หมายถึงมะเร็งของเนื้อเยื่อจอตา (retina) เป็นมะเร็งที่พบได้น้อย พบได้ประมาณร้อยละ 2 ของมะเร็งที่พบในเด็ก (อายุต่ำกว่า 15 ปี)

มักพบก่อนอายุ 4 ปี อาจพบในผู้ใหญ่ได้ แต่น้อยมาก

ส่วนใหญ่เป็นเพียงข้างเดียว ประมาณร้อยละ 20-30 เป็นพร้อมกัน 2 ข้าง

สาเหตุ

เกิดจากความผิดปกติของยีนที่เกี่ยวข้องกับการเจริญของตาในช่วงที่เป็นทารกในครรภ์มารดา ทำให้เซลล์ประสาทของจอตาเจริญผิดปกติกลายเป็นเนื้องอกชนิดร้าย ซึ่งลุกลามไปยังส่วนอื่นของตาและอวัยวะนอกเบ้าตาได้

ประมาณ 1/3 ของเด็กที่เป็นโรคนี้เกิดจากความผิดปกติที่ถ่ายทอดทางกรรมพันธุ์ หากมีพ่อหรือแม่คนใดคนหนึ่งเป็นโรคนี้ซึ่งเกิดจากความผิดปกติทางกรรมพันธุ์ บุตรที่เกิดมามีโอกาสรับกรรมพันธุ์ของโรคนี้ถึงร้อยละ 50 ซึ่งมีโอกาสเป็นมะเร็งลูกตาได้ถึงร้อยละ 90 ในกรณีนี้เด็กมักจะเป็นมะเร็งที่ลูกตาทั้ง 2 ข้าง และสามารถถ่ายทอดให้ลูกหลานต่อไปได้

ประมาณ 2/3 ของเด็กที่เป็นโรคนี้เกิดจากการกลายพันธุ์ของยีนของเด็กตั้งแต่เป็นทารกในครรภ์ โดยที่พ่อและแม่ไม่มีความผิดปกติทางกรรมพันธุ์ ในกรณีนี้เด็กมักจะเป็นมะเร็งที่ลูกตาเพียงข้างเดียว และไม่ถ่ายทอดให้ลูกหลานต่อไป

อาการ

ที่สำคัญพ่อแม่จะสังเกตว่าเมื่อใช้ไฟ (หรือไฟแฟลชถ่ายภาพ) ส่องตรงตาดำของเด็ก จะเห็นเป็นสีขาววาวคล้ายตาแมว

เด็กอาจมีอาการตามัวหรือมองไม่เห็น และอาจมีอาการตาเหล่ ตาแดง เปลือกตาบวม

เมื่อเป็นมากขึ้นตาจะเริ่มปูดโปนออกมานอกเบ้าตา

อาการตาแมว


ภาวะแทรกซ้อน

หากไม่ได้รับการรักษา เด็กมักจะตาบอด และอายุสั้น

มะเร็งลูกตาอาจลุกลามไปยังส่วนอื่นของดวงตา และออกนอกเบ้าตา

ในกรณีที่เป็นเพียงข้างเดียวอาจลุกลามไปที่ตาอีกข้างได้

มะเร็งอาจแพร่ไปตามเส้นประสาทตาเข้าไปในสมอง รวมทั้งอาจแพร่กระจายไปยังอวัยวะอื่น เช่น กระดูก ปอด เป็นต้น

นอกจากนี้ยังพบว่าผู้ป่วยที่เกิดจากความผิดปกติที่ถ่ายทอดทางกรรมพันธุ์ อาจมีความเสี่ยงต่อการเกิดมะเร็งชนิดอื่นในเวลาต่อมา เช่น มะเร็งต่อมไพเนียล (pineoblastoma) มะเร็งกระดูก (osteosarcoma) มะเร็งกล้ามเนื้อ (sarcoma) มะเร็งผิวหนัง (melanoma) เป็นต้น จึงควรให้แพทย์คอยเฝ้าติดตามอย่างต่อเนื่อง


การวินิจฉัย

แพทย์จะวินิจฉัยโดยการใช้เครื่องมือตรวจจอตา ทำการตรวจด้วยอัลตราซาวนด์ ถ่ายภาพด้วยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า หรือเอกซเรย์คอมพิวเตอร์

บางรายแพทย์อาจเจาะหลังนำน้ำไขสันหลังไปตรวจหาเซลล์มะเร็ง หรือทำการตรวจไขกระดูกว่ามีมะเร็งแพร่กระจายไปที่ไขกระดูกหรือยัง


การรักษาโดยแพทย์

การรักษาขึ้นกับขนาดและตำแหน่งของมะเร็ง การแพรก่ระจายของมะเร็ง และสภาพร่างกายของผู้ป่วย

แพทย์จะให้เคมีบำบัดในรายที่เป็นระยะแรกเริ่ม เพื่อให้ก้อนมะเร็งฝ่อเล็กลง แล้วใช้วิธีอื่นรักษาต่อ เช่น รังสีบำบัด (radiation therapy) การบำบัดด้วยความเย็น (cryotherapy) การบำบัดด้วยความร้อน (thermotherapy) หรือเลเซอร์ (laser therapy) ซึ่งช่วยให้ไม่ต้องผ่าตัดเอาลูกตาออก

ในรายที่มะเร็งมีการแพร่กระจายออกนอกเบ้าตา แพทย์จะให้การรักษาด้วยเคมีบำบัดและรังสีบำบัด

ในรายที่โรคเป็นมากจนไม่อาจรักษาด้วยวิธีอื่น แพทย์จะทำการผ่าตัดเอาลูกตาออก และใส่ดวงตาเทียมเข้าไปแทนที่ในเบ้าตา (เพื่อความสวยงามแต่ใช้การไม่ได้)

ผลการรักษา หากได้รับการรักษาตั้งแต่ระยะแรกเริ่ม มีโอกาสหายขาดได้ถึงร้อยละ 90 แต่บางรายหลังการรักษาจนโรคหายแล้ว อาจเกิดมะเร็งชนิดนี้กำเริบได้ใหม่ หรือเด็กที่เป็นมะเร็งลูกตา 2 ข้างหรือเกิดจากการถ่ายทอดทางกรรมพันธุ์ อาจเกิดมะเร็งชนิดอื่นตามมาในภายหลัง แพทย์จำเป็นต้องติดตามดูอาการเป็นระยะ


การดูแลตนเอง

หากสงสัย เช่น สังเกตเห็นตาดำของเด็กมีสีขาววาวคล้ายตาแมว (เห็นชัดเมื่อใช้ไฟส่อง) เด็กมีอาการตามัว มองเห็นไม่ชัด ตาเหล่ ตาแดง หรือตาโปน ควรปรึกษาแพทย์

เมื่อตรวจพบว่าเป็นมะเร็งลูกตาในเด็ก ควรดูแลตนเอง ดังนี้

    รักษา กินยา และปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์
    ติดตามรักษากับแพทย์ตามนัด
    หลีกเลี่ยงการซื้อยามากินเอง
    กินอาหารให้ครบ 5 หมู่ เน้นผัก ผลไม้ ธัญพืช โปรตีนที่มีไขมันน้อย (เช่น ปลา ไข่ขาว เต้าหู้ ผลิตภัณฑ์จากถั่วเหลือง)
    นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ และหาทางผ่อนคลายความเครียด
    ออกกำลังกายและทำกิจกรรมต่าง ๆ รวมทั้งงานอดิเรกที่ชอบ และงานจิตอาสา เท่าที่ร่างกายจะอำนวย
    ทำสมาธิ เจริญสติ หรือสวดมนต์ภาวนาตามหลักศาสนาที่นับถือ
    ถ้ามีโอกาสควรหาทางเข้าร่วมกิจกรรมของกลุ่มเพื่อนช่วยเพื่อน หรือกลุ่มมิตรภาพบำบัด
    ผู้ป่วยและญาติควรหาทางเสริมสร้างกำลังใจให้ผู้ป่วย ยอมรับความจริง และใช้ชีวิตในปัจจุบันให้ดีและมีคุณค่าที่สุด
    ถ้าหากมีเรื่องวิตกกังวลเกี่ยวกับโรคและวิธีบำบัดรักษา รวมทั้งการแสวงหาทางเลือกอื่น (เช่น การใช้สมุนไพร ยาหม้อ ยาลูกกลอน การนวด ประคบ การฝังเข็ม การล้างพิษ หรือวิธีอื่น ๆ) ควรขอคำปรึกษาจากแพทย์ และทีมสุขภาพที่ดูแลประจำและรู้จักมักคุ้นกันดี


ควรกลับไปพบแพทย์ก่อนนัด ถ้ามีลักษณะข้อใดข้อหนึ่ง ดังต่อไปนี้

    มีอาการตามัว ตาแดง ปวดตามาก ปวดศีรษะมาก อาเจียนมาก ชัก แขนขาชาหรืออ่อนแรง หายใจหอบ อ่อนเพลีย เหนื่อยง่าย หรือหน้าตาซีดเซียว
    สงสัยมีมะเร็งลูกตากำเริบใหม่
    ขาดยา ยาหาย หรือกินยาไม่ได้
    ในรายที่แพทย์ให้ยากลับไปกินต่อที่บ้าน กินยาแล้วสงสัยเกิดผลข้างเคียงจากยา เช่น มีลมพิษ ผื่นคัน ตุ่มพุพอง ตาบวม ปากบวม ปวดท้อง ท้องเดิน คลื่นไส้ อาเจียน จุดแดงจ้ำเขียว หรือมีอาการผิดปกติอื่น ๆ


การป้องกัน

ยังไม่มีวิธีป้องกันที่ได้ผล เนื่องจากยังไม่ทราบปัจจัยเสี่ยงต่อการเกิดโรคนี้ และส่วนหนึ่งเกิดจากความผิดปกติทางกรรมพันธุ์

ข้อแนะนำ

1. เด็กที่มีญาติสายตรงเป็นมะเร็งชนิดนี้ ควรให้แพทย์ตรวจดูตาอย่างสม่ำเสมอตั้งแต่หลังคลอด

2. ถ้าพ่อแม่ผู้ปกครองสังเกตเห็นตาของเด็กมีความผิดปกติ ควรรีบไปปรึกษาแพทย์ และดูแลรักษาตามคำแนะนำของแพทย์ หากจำเป็นต้องผ่าตัดเอาลูกตาออก พ่อแม่ควรสอบถามแพทย์ให้เกิดความเข้าใจและยอมรับ ไม่ควรปฏิเสธการรักษาโดยวิธีนี้ ซึ่งจะทำให้เด็กได้รับอันตรายและอายุสั้นได้

3. ปัจจุบันมีวิธีบำบัดรักษาโรคมะเร็งใหม่ ๆ ที่อาจช่วยให้โรคหายขาดหรือทุเลา หรือช่วยให้มีคุณภาพชีวิตดีขึ้น ผู้ป่วยจึงควรติดต่อรักษากับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญโรคมะเร็ง มีความมานะอดทนต่อผลข้างเคียงของการรักษาที่อาจมีได้ อย่าเปลี่ยนแพทย์ เปลี่ยนโรงพยาบาลโดยไม่จำเป็น หากสนใจจะแสวงหาทางเลือกอื่น (เช่น การใช้สมุนไพร หรือวิธีอื่น ๆ) ควรขอคำปรึกษาจากแพทย์ และทีมสุขภาพที่ดูแลประจำและรู้จักมักคุ้นกันดี


127
Doctor At Home: กินสารพิษหรือยาพิษ (Ingestion of poisons)

สารพิษหรือยาพิษ ที่เข้าสู่ร่างกายโดยการกินที่พบบ่อย ๆ ได้แก่

1. ยา เช่น ยาที่ใช้ภายนอก (ทิงเจอร์ไอโอดีน ด่างทับทิม) ยาแก้ปวด (แอสไพริน พาราเซตามอล) ยานอนหลับ ยาถ่าย ยารักษาโรคหัวใจ เป็นต้น

ยาพวกนี้ถ้ากินเข้าไปจำนวนมากอาจเป็นพิษได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเด็กเล็ก

2. วัตถุเคมีที่ใช้ในบ้าน เช่น ผงซักฟอก น้ำยาขัดพื้น แลกเกอร์ ทินเนอร์ น้ำมันก๊าด ดีดีที เป็นต้น

3. สารเคมีที่ใช้ในทางเกษตรกรรม เช่น ยาฆ่าแมลง ยาปราบวัชพืช เป็นต้น

4. ยาพิษที่ใช้เบื่อสัตว์ เช่น ยาเบื่อหนูหรือสุนัข

5. สัตว์หรือพืชพิษ อ่านเพิ่มเติมใน พิษปลาปักเป้า พิษแมงดาถ้วย, พิษปลาทะเล, พิษหอยทะเล, พิษคางคก และพิษเห็ด


สาเหตุ

เด็กบางคนอาจกินสารพิษเพราะความไม่รู้ภาษาหรือรู้เท่าไม่ถึงการณ์ เช่น ดื่มน้ำมันก๊าด หรือกินยาเม็ดที่มีสีสันสวย ๆ หรือกินยาน้ำที่ออกรสหวาน เป็นต้น

ผู้ใหญ่อาจกินสารพิษเพราะความเผอเรอ รู้เท่าไม่ถึงการณ์ หรือจงใจที่จะฆ่าตัวตายได้


อาการ

อาการขึ้นกับชนิดและปริมาณของสารพิษ และระยะเวลาที่กิน

ในที่นี้จะกล่าวถึงสารเคมีที่อาจพบได้บ่อยเพียงบางชนิดเท่านั้น เช่น

ยานอนหลับกลุ่มบาร์บิทูเรต ถ้ากินเกินขนาดมาก ๆ จะทำให้ซึม ไม่ค่อยรู้ตัว หายใจตื้นและช้า เหงื่อออก ตัวเย็น ตัวเขียว รูม่านตาโตและไม่หดเมื่อถูกแสง หมดสติ และตายในที่สุด

แอสไพริน ถ้ากินขนาดมาก ๆ ทำให้เกิดภาวะเลือดเป็นกรด (acidosis) จะมีอาการหายใจหอบลึก หน้าแดง ไข้สูง ปวดท้อง อาเจียน มีภาวะขาดน้ำ มีเลือดออกตามที่ต่าง ๆ ชัก และหมดสติถึงตายได้

พาราเซตามอล ถ้ากินในขนาดมากกว่า 140 มก./กก. จะทำให้ตับถูกทำลายภายใน 24-48 ชั่วโมง เกิดภาวะตับแข็งหรือตับวายเฉียบพลันได้

ไอโอดีน (เช่น ทิงเจอร์ไอโอดีนที่ใช้ใส่แผล) ทำให้ปากคอและหลอดอาหารไหม้และเจ็บ อาเจียนออกมาเป็นสีเหลืองหรือสีน้ำเงิน กระหายน้ำ ท้องเดิน (อาจถ่ายเป็นเลือด) อ่อนเพลีย วิงเวียน เป็นลม และชัก

ด่างทับทิม ถ้ากินเกล็ดหรือน้ำด่างทับทิมเข้มข้นจะทำให้กัดเนื้อเยื่อในปาก กล่องเสียงบวม ชีพจรเต้นช้าและช็อก

เมนทอลหรือยูคาลิปตัส ทำให้อาเจียน ท้องเดิน หายใจตื้น ปัสสาวะเป็นเลือด ชัก และหมดสติ

กรดบอริก (boric acid) ทำให้มีไข้ขึ้น อาเจียน ท้องเดิน ถ่ายเป็นมูกเลือด หน้าแดง ซึม ชัก ตัวเหลือง ตัวเขียว ไตถูกทำลาย ความดันโลหิตต่ำ หมดสติ ถึงตายได้

ผงซักฟอก อาจทำให้คลื่นไส้ อาเจียน ท้องเดิน ถ้ามีส่วนผสมของด่าง ก็อาจทำให้เกิดการระคายเคืองต่อเยื่อบุทางเดินอาหาร

น้ำมันก๊าด เบนซิน ทินเนอร์ ทำให้อาเจียน ปอดบวมน้ำ (pulmonary edema) วิงเวียน ชีพจรเบาและเต้นไม่สม่ำเสมอ ชัก ถ้าสำลักเข้าไปในปอดอาจทำให้ปอดอักเสบ

อาการเป็นพิษเรื้อรัง จะมีอาการปวดศีรษะ ซึม ตามัว มือเย็นและชา อ่อนเพลีย ความจำเสื่อมใจสั่น ความคิดสับสน ซีด เจ็บในปาก

สารพวกฟีนอล (phenol) เช่น กรดคาร์บอลิก (carbolic acid) เครซอล (cresol มีชื่อการค้า เช่น Lysol) เฮกซาคลอโรฟีน (hexachlorophene) เป็นต้น พวกนี้เป็นกรดอาจทำให้เกิดการระคายเคืองต่อทางเดินอาหาร กระหายน้ำ คลื่นไส้ อาเจียน ปัสสาวะออกน้อย กล้ามเนื้อชักเกร็ง ช็อก และการหายใจล้มเหลว

ฟอสฟอรัส (inorganic phosphorus) ซึ่งมีอยู่ในหัวไม้ขีดไฟ ทำให้เจ็บในปากและลำคอ อาเจียน ท้องเดิน ปวดศีรษะ เยื่อหุ้มปอดอักเสบ อ่อนเปลี้ย เพลียแรง ดีซ่าน ปัสสาวะออกน้อย มีจุดแดงขึ้นตามผิวหนังและช็อก

ดีดีที จะทำให้มีอาการอ่อนเพลีย ปวดตามแขนขา กระสับกระส่าย กล้ามเนื้อกระตุก ชัก และหมดสติ

ยาฆ่าแมลงประเภทออร์แกโนฟอสเฟต (organophosphate) เช่น พาราไทออน (parathion) มาลาไทออน (malathion) คาร์บาเมต (carbamate) เป็นต้น

มักมีอาการภายใน 2-3 ชั่วโมงหลังกิน ด้วยอาการปวดศีรษะ เหงื่อออก น้ำลายฟูมปาก น้ำตาไหล อาเจียน ท้องเดิน กล้ามเนื้อเต้นกระตุก ชัก หอบ ตาลาย รูม่านตาหดเล็ก และอาจตายภายในเวลารวดเร็ว

พาราควอต (paraquat) ซึ่งมียาปราบวัชพืช ทำให้เกิดอาการชัก ปอดบวมน้ำ ตับวาย ไตวาย หัวใจวาย ภายในไม่กี่ชั่วโมงถึงหลายวัน ในที่สุดจะมีอาการระบบหายใจล้มเหลว เนื่องจากเกิดเยื่อพังผืดในปอด

ถ้าขนาดเข้มข้น อาจกัดเยื่อบุหลอดอาหาร ทำให้ริมฝีปากและลำคอไหม้พองและเป็นแผล อาจทำให้หลอดอาหารเป็นแผลทะลุ

ผู้ป่วยจะเสียชีวิตจากภาวะช็อกจากหัวใจ (cardiogenic shock) และอวัยวะหลายระบบล้มเหลวภายใน 1-4 วัน

สตริกนิน (strychnine) ซึ่งมักทำเป็นยาเบื่อสุนัข ทำให้เกิดอาการชัก หลังแอ่น หายใจลำบาก น้ำลายฟูมปาก และขาดออกซิเจน

ไซยาไนด์ (cyanides) ซึ่งอาจมีอยู่ในยาเบื่อหนู จะทำให้ตัวเขียว หายใจลำบาก ความดันเลือดตก ถึงตายได้รวดเร็ว

สารปรอท ทำให้มีอาการน้ำลายฟูมปาก กระหายน้ำ ปวดแสบปวดร้อนในปากและลำคอ เยื่อบุในช่องปากบวมและเปลี่ยนสี ปวดท้อง อาเจียน ท้องเดิน ถ่ายเป็นเลือด ไม่มีปัสสาวะออก เเละช็อก

ถ้าเป็นพิษเรื้อรัง จะมีอาการอ่อนเพลีย เดินเซ มือสั่น ซึมเศร้า เป็นตะคริว

สารหนู (arsenic) อาการมักเกิดขึ้นภายใน 1 ชั่วโมงหลังกิน (บางรายอาจนานถึง 12 ชั่วโมง) มีอาการปวดท้อง กลืนลำบาก อาเจียนติด ๆ กัน ท้องเดิน เป็นตะคริว ต่อมาจะรู้สึกกระหายน้ำอย่างรุนแรง และช็อก

เมทิลแอลกอฮอล์ (methyl alcohol) ซึ่งเป็นแอลกอฮอล์ที่ใช้จุดไฟ (เป็นคนละชนิดกับเอทิลแอลกอฮอล์ซึ่งทำเป็นเหล้า เบียร์) เมื่อกินเข้าไปอาจทำให้มีอาการปวดศีรษะ ปวดท้อง จุกแน่น คลื่นไส้ อาเจียน และตาบอด (เพราะประสาทตาถูกทำลาย) ผู้ป่วยอาจมีอาการตัวเขียว ชัก และหมดสติ

กรดหรือด่างอย่างแรง ทำให้ผิวหนังและเยื่อบุของทางเดินอาหารถูกกัดไหม้และอักเสบ มีอาการเจ็บในปากและลำคอ กระหายน้ำ คลื่นไส้ อาเจียน อาเจียนเป็นเลือด กลืนลำบาก หายใจลำบาก ช็อก

บางรายอาจมีการแตกทะลุของหลอดอาหารและกระเพาะ ทำให้กลายเป็นเยื่อบุช่องท้องอักเสบ หรือหลอดอาหารเกิดการตีบตันจากการอักเสบได้

ภาวะแทรกซ้อน

ขึ้นกับชนิดของสารพิษ สารพิษร้ายแรงอาจมีผลต่อระบบประสาทและสมอง (ทำให้ชัก หมดสติ อัมพาต) ระบบเลือด (เลือดออก โลหิตจางจากไขกระดูกฝ่อ มะเร็งเม็ดเลือดขาว) ทางเดินหายใจ (ปอดอักเสบ) ตับ (ตับอักเสบ ตับแข็ง) ทางเดินอาหาร (ปวดท้อง ท้องเดิน อาเจียน) หรืออื่น ๆ บางชนิดอาจระคายเคือง (กัด) ต่อผิวหนังและเยื่อบุของทางเดินอาหาร เช่น สารที่เป็นกรดหรือด่างอย่างแรง


การวินิจฉัย

แพทย์จะวินิจฉัยจากอาการ สิ่งตรวจพบ และประวัติการสัมผัสสารพิษ


การรักษาโดยแพทย์

เมื่อผู้ป่วยมาที่โรงพยาบาล แพทย์จะให้การดูแลรักษา ดังนี้

1. รีบทำให้ผู้ป่วยอาเจียน และให้กินผงถ่านกัมมันต์เช่นเดียวกับที่แนะนำไว้ในเรื่องการปฐมพยาบาล (อ่านเพิ่มเติมที่ "การปฐมพยาบาล สำหรับผู้ป่วยที่กินสารพิษ สัตว์พิษ หรือพืชพิษ" ในหัวข้อ การดูแลตนเอง ด้านล่าง)

2. ทำการล้างกระเพาะอาหารด้วยน้ำเกลือนอร์มัลหรือน้ำ ห้ามทำในรายที่หมดสติ ชัก หรือกินกรด ด่าง น้ำมันก๊าด เบนซิน หรือทินเนอร์

3. ให้การรักษาตามอาการ เช่น

    ถ้ามีภาวะขาดน้ำ ช็อกหรือหมดสติ ให้น้ำเกลือ
    ถ้าหายใจลำบากหรือตัวเขียว ให้ออกซิเจนและอาจต้องเจาะคอช่วยหายใจ ในรายที่กินพาราควอต ไม่ควรให้ออกซิเจน นอกเสียจากผู้ป่วยมีภาวะขาดออกซิเจนรุนแรง เพราะออกซิเจนส่งเสริมให้เกิดภาวะเป็นพิษจากพาราควอต
    ถ้ามีภาวะปอดบวมน้ำ (ผู้ป่วยมีอาการหอบและฟังปอดมีเสียงกรอบแกรบ) ให้ฉีดฟูโรซีไมด์ 1-2 หลอด เข้าหลอดเลือดดำ
    ถ้าชัก ฉีดไดอะซีเเพม 5-10 มก. เข้าหลอดเลือดดำ
    ถ้ามีภาวะเลือดเป็นกรด ฉีดโซเดียมไบคาร์บอเนต
    ถ้ามีภาวะไตวาย อาจต้องทำการฟอกล้างของเสียหรือล้างไต (dialysis)
    ถ้ามีการติดเชื้อ เช่น ปอดอักเสบ ให้ยาปฏิชีวนะ


4. ให้การรักษาตามสาเหตุที่พบ เช่น

    ถ้าเกิดจากยาฆ่าแมลงประเภทออร์เเกโนฟอสเฟต (ผู้ป่วยจะมีรูม่านตาหดเล็กทั้ง 2 ข้าง) แพทย์จะฉีดอะโทรพีนเข้ากล้ามเนื้อหรือเข้าหลอดเลือดดำทุก 5-10 นาที จนกระทั่งรูม่านตาขยาย และมีอาการคอแห้ง หลังจากนั้นให้ยาต้านพิษ ได้แก่ พราลิดอกไซม์ (pralidoxime) ฉีดเข้าหลอดเลือดดำช้า ๆ ถ้าอาการหายใจยังไม่ดีขึ้นให้ฉีดซ้ำได้ในอีก 30 นาทีต่อมา (สำหรับผู้ป่วยที่กินคาร์บาเมตไม่จำเป็นต้องให้พราลิดอกไซม์)
    ถ้าเกิดจากสารหนู ให้ยาต้านพิษได้แก่ ไดเมอร์เเคปรอล (dimercaprol) ฉีดเข้ากล้ามเนื้อ
    ถ้าเกิดจากดีดีที นอกจากสวนล้างกระเพาะด้วยน้ำอุ่นแล้ว ควรให้กินยาระบาย ได้แก่ โซเดียมซัลเฟต (sodium sulfate) ขนาด 30 กรัมในน้ำ 200 มล. และให้กินฟีโนบาร์บิทาลเพื่อสงบประสาท
    ถ้าเกิดจากการกินพาราเซตามอลเกินขนาด ให้อะเซทิลซิสเตอีนกินหรือฉีดเข้าหลอดเลือดดำ

การรักษาขั้นพื้นฐาน (ที่สถานพยาบาล) สำหรับผู้ป่วยที่กินสัตว์หรือพืชพิษ

1. ถ้าผู้ป่วยกินสัตว์หรือพืชพิษมาไม่เกิน 1 ชั่วโมง และยังไม่อาเจียน รีบทำให้ผู้ป่วยอาเจียนด้วยการให้ไอพีเเคกน้ำเชื่อมหรือใช้นิ้วล้วงคอ

2. ให้ผู้ป่วยกินผงถ่านกัมมันต์ (activated charcoal) ขนาด 1 กรัม/กก. โดยผสมน้ำ 1 แก้ว โดยให้ผู้ป่วยดื่มเอง ถ้าอาเจียนหรือดื่มเองไม่ได้ ให้ป้อนผ่านท่อสวนกระเพาะ (stomach tube) ถ้าผู้ป่วยหมดสติ ควรใส่ท่อช่วยหายใจก่อนเพื่อป้องกันการสำลัก

ควรให้เร็วที่สุดเมื่อพบผู้ป่วย (วิธีนี้จะได้ผลมากที่สุดเมื่อให้กินภายใน 30 นาทีหลังกินสัตว์หรือพืชพิษ) ไม่ควรให้ก่อนหรือหลังให้ยาที่ทำให้อาเจียน

ในรายที่รับพิษร้ายเเรง เช่น ปลาปักเป้า แมงดาถ้วย เห็ดพิษร้ายแรง หรือสงสัยรับพิษปริมาณมาก ควรให้ซ้ำทุก 4 ชั่วโมง

3. ทำการล้างกระเพาะอาหารด้วยน้ำเกลือนอร์มัลหรือน้ำ

วิธีนี้จะได้ผลดีเมื่อผู้ป่วยกินสารพิษมาไม่เกิน 1 ชั่วโมง และไม่มีอาการอาเจียน ถ้าทำหลังกินสารพิษมากกว่า 4 ชั่วโมง อาจไม่ได้ประโยชน์และไม่คุ้มกับผลข้างเคียง (ที่สำคัญคือการสำลักเข้าปอดทำให้ปอดอักเสบ)

ควรกระทำโดยบุคลากรที่ชำนาญ และในที่ที่มีความพร้อม

ไม่จำเป็นต้องทำ ถ้าผู้ป่วยมีอาการอาเจียนมาก และห้ามทำในผู้ป่วยชัก ไม่ค่อยรู้ตัว หมดสติ

อาจให้ผงถ่านกัมมันต์กินก่อนล้างกระเพาะ หรือผสมผงถ่านกัมมันต์ในน้ำล้างกระเพาะก็ได้

4. ให้ผู้ป่วยดื่มโซเดียมไบคาร์บอเนต ขนาด 2-5% จำนวน 50 มล.

5. ให้กินยาระบาย ซอร์บิทอล (sorbitol) ขนาด 70% อาจกินเดี่ยว ๆ หรือผสมกับผงถ่านกัมมันต์แทนน้ำก็ได้ ถ้าไม่มีอาจให้ยาระบายอื่น ๆ เช่น ยาระบายแมกนีเซีย (Milk of Magnesia) แทน ให้ได้ไม่เกิน 2 ครั้ง

ห้ามทำ ในรายที่มีอาการถ่ายท้องมากอยู่แล้ว หรือมีภาวะขาดน้ำที่ยังไม่ได้รับการทดแทน

6. ให้น้ำเกลือทางหลอดเลือดดำ

7. ถ้าชักฉีดไดอะซีเเพม 5-10 มก.เข้าหลอดเลือดดำ

8. ถ้าหยุดหายใจหรือหายใจไม่ได้ ให้ทำการช่วยเหลือด้วยการเป่าปาก หรือใช้เครื่องช่วยหายใจ

9. ถ้าหมดสติ ให้การรักษาแบบหมดสติ

การดูแลตนเอง

หากสงสัยว่าผู้ป่วยกินสารพิษหรือยาพิษ ควรทำการปฐมพยาบาล แล้วรีบพาผู้ป่วยไปพบแพทย์ที่โรงพยาบาลทันที

การปฐมพยาบาล สำหรับผู้ป่วยที่กินสารพิษ สัตว์พิษ หรือพืชพิษ

1. รีบทำให้ผู้ป่วยอาเจียน เพื่อขับพิษออก

    ถ้ามียากระตุ้นอาเจียน ได้แก่ ไอพีแคกน้ำเชื่อม (syrup ipecac) ให้กินครั้งละ 15-30 มล. (เด็กโต 15 มล.) และดื่มน้ำตามไป 1 แก้ว ถ้ายังไม่อาเจียนใน 20 นาที กินซ้ำได้อีก 1 ครั้ง
    ถ้าไม่มียา ให้ผู้ป่วยดื่มน้ำ 1 แก้ว แล้วใช้นิ้วล้วงเข้าไปเขี่ยที่ผนังลำคอกระตุ้นให้อาเจียน ถ้าไม่ได้ผลทำซ้ำอีกครั้ง

ควรเก็บเศษอาหารที่อาเจียน ไว้ส่งตรวจวิเคราะห์

วิธีนี้จะได้ผลดี ต้องรีบทำภายใน 1 ชั่วโมงหลังกินสารพิษ และไม่ต้องทำหากผู้ป่วยมีอาการอาเจียนเองอยู่แล้ว

ห้ามทำ ในผู้ป่วยที่ชัก ไม่ค่อยรู้ตัวหรือหมดสติ หรือกินกรด ด่าง น้ำมันก๊าด ทินเนอร์ หรือสารพิษไม่ทราบชนิด

2. ถ้ามีผงถ่านกัมมันต์ (activated charcoal) ให้กินขนาด 1 กรัม/กก. โดยผสมน้ำ 1/2-1 แก้ว เพื่อลดการดูดซึมสารพิษเข้าร่างกาย (ไม่ต้องทำถ้าผู้ป่วยกินกรด ด่าง น้ำมันก๊าด ทินเนอร์)

ถ้าไม่มีผงถ่านกัมมันต์ ให้กินไข่ดิบ 5-10 ฟอง หรือดื่มนมหรือน้ำ 4-5 แก้ว

3. สำหรับผู้ป่วยที่กินพาราควอต ให้กินสารละลายดินเหนียว (Fuller’s earth) โดยผสมผงดินเหนียว 150 กรัม หรือ 2 1/2 กระป๋อง ในน้ำ 1 ลิตร ถ้าไม่มีให้ดื่มน้ำโคลนดินเหนียวจากท้องร่องในสวน (ที่ไม่มีตะปูหรือเศษแก้ว หรือสารพิษตกค้าง) ซึ่งจะลดพิษของยานี้ได้

4. สำหรับผู้ที่กินปลาปักเป้า แมงดาถ้วย ปลาทะเลพิษ หอยทะเลพิษ เห็ดพิษ ให้ดื่มโซเดียมไบคาร์บอเนตขนาด 2-5% จำนวน 50 มล. (อาจเตรียมโดยผสมผงฟู 1-2.5 กรัม ในน้ำ 50 มล.) ซึ่งจะช่วยลดพิษของอาหารพิษได้

ห้ามทำ ข้อ 2-4 ถ้าผู้ป่วยชัก ไม่ค่อยรู้ตัวหรือหมดสติ

5. ถ้าผู้ป่วยมีภาวะขาดน้ำ ให้ดื่มสารละลายน้ำตาลเกลือแร่ หรือให้น้ำเกลือทางหลอดเลือดดำ

6. ถ้าผู้ป่วยชักหรือหมดสติ ให้ทำการปฐมพยาบาลเช่นเดียวกับผู้ป่วยชัก (อ่านใน "โรคลมชัก" เพิ่มเติม) หรือหมดสติ (อ่านใน "อาการหมดสติ" เพิ่มเติม)

7. รีบพาผู้ป่วยไปโรงพยาบาล ควรนำสารพิษที่ผู้ป่วยกินหรืออาเจียนออกมาไปให้แพทย์ตรวจวิเคราะห์ด้วย

การป้องกัน

1. ควรป้องกันมิให้เด็กหยิบยาหรือสารเคมีกินเอง โดยเก็บยาและสารเคมีให้มิดชิด หรือไว้ในที่สูงเกินกว่าเด็กจะหยิบถึง

2. ควรป้องกันการหยิบยาผิด หรือกินถูกสารพิษด้วยความเผอเรอ โดย

    เก็บยาไว้ในที่มิดชิด หรือไว้ในตู้ยาที่เด็กหยิบเองไม่ได้
    เขียนฉลากยาให้ชัดเจน
    สารเคมีที่มีพิษควรเก็บไว้เป็นที่เฉพาะ และปิดให้มิดชิด อย่าปะปนกับอาหารที่กิน หรือวางอยู่ในตู้กับข้าว

ข้อแนะนำ

1. ผลการรักษาขึ้นกับชนิดและปริมาณของสารพิษที่ได้รับ สภาพของผู้ป่วยและความรุนแรงของโรค

ถ้าหากได้รับการปฐมพยาบาลอย่างถูกต้องและได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที ก็มีโอกาสรอดได้

2. ผู้ที่ได้รับสารพิษมักมีอาการแสดงภายใน 36 ชั่วโมง ถ้าหลัง 36 ชั่วโมงไปแล้วยังไม่มีปรากฏอาการก็ถือว่าปลอดภัย

128
ผลกระทบที่เกิดขึ้นจากเสียงดัง
ในโรงงานอุตสาหกรรม
โรงงานหรือสถานประกอบกิจการที่มีปัญหาด้านเสียงเกินค่ามาตรฐาน อาจสร้างผลกระทบทั้งด้านอาชีวอนามัยและความปลอดภัยในการทำงานต่อพนักงานในโรงงานเอง หรืออาจก่อให้เกิดมลพิษทางเสียงต่อชุมชนและสภาพแวดล้อมที่อยู่ด้านนอกโรงงาน หากเจ้าของแหล่งกำเนิดเสียงหรือผู้เกี่ยวข้องปล่อยปละละเลย ไม่จัดทำโครงการควบคุมเสียงหรือแก้ไขปัญหาดังกล่าวไม่สำเร็จ จะทำให้มีผลกระทบตามมา เช่น
•   เป็นผู้กระทำผิดกฎหมายด้านเสียง มีทั้งโทษปรับและจำคุก
•   ลูกจ้างอาจเกิดภาวะสูญเสียการได้ยินแบบชั่วคราวหรือแบบถาวร
•   ประสิทธิภาพการทำงานของพนักงานลดลงจากเสียงเกินค่ามาตรฐาน
•   ถูกร้องเรียนจากชุมชนหรือผู้ได้รับผลกระทบทางเสียงที่อยู่นอกโรงงาน
•   โรงงานหรือสถานประกอบกิจการอาจถูกสั่งปิดปรับปรุง จนกว่าจะแก้ไขแล้วเสร็จ

ทำไมต้องใช้บริการจาก
“NEWTECH INSULATION” ในการควบคุมเสียง?
ด้วยประสบการณ์กว่า 15 ปี ในการควบคุมเสียงอุตสาหกรรม เรามีความพร้อมทั้งด้านบุคลากรเฉพาะทางที่มีความรู้ด้านเสียงและความสั่นสะเทือน เครื่องมืออันทันสมัยที่ได้มาตรฐานตามที่กฎหมายกำหนด รวมถึงประสบการณ์ด้านการแก้ไขปัญหาเสียงอุตสาหกรรมที่มีทั้งในและต่างประเทศ ผู้ใช้บริการจึงมั่นใจได้ว่าปัญหาด้านเสียงในโรงงานหรือสถานประกอบกิจการจะได้รับการแก้ไขได้อย่างตรงจุด ด้วยค่าใช้จ่ายที่น้อยที่สุด เพราะเราเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการควบคุมเสียงในอุตสาหกรรม
– บริษัทฯ ขึ้นทะเบียนและได้รับใบอนุญาตเป็นนิติบุคคลผู้ให้บริการตรวจวัดและวิเคราะห์สภาวะการทำงานเกี่ยวกับระดับเสียง โดยกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน
– บุคลากรของบริษัทฯ ได้รับใบอนุญาตเป็นผู้ควบคุมมลพิษเสียงและความสั่นสะเทือน จากสภาวิชาชีพวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
– มีทีมงานที่มากประสบการณ์และความรู้ ได้แก่ วิศวกร นักสิ่งแวดล้อมอุตสาหกรรม เจ้าหน้าที่ความปลอดภัยในการทำงาน ช่างเทคนิค รวมไปถึงช่างประกอบและติดตั้งระบบควบคุมเสียง
– มีเครื่องมือที่ได้มาตรฐานไว้ให้บริการทั้งด้านฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์
– มีสินค้าสำหรับควบคุมเสียงและความสั่นสะเทือนให้เลือกหลากหลายรูปแบบ เช่น ผนังกันเสียง ห้องเก็บเสียง ม่านกันเสียง ตู้ครอบลดเสียง แจ็คเก็ตลดเสียง ไซเลนเซอร์ อคูสติคลูเวอร์ อุปกรณ์แยกความสั่นสะเทือน เป็นต้น
– มีการประเมินหรือทำตัวแบบจำลองระดับเสียง ก่อน-หลัง ปรับปรุงให้ลูกค้าใช้เป็นข้อมูลในการตัดสินใจ ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายและเวลาในการแก้ปัญหาด้านเสียง
– รับประกันระดับเสียงที่ลดลง อยู่ในเกณฑ์ที่กฎหมายกำหนด
– รับประกันคุณภาพสินค้าและฝีมือการติดตั้งทุกงาน

บริษัท นิวเทค อินซูเลชั่น จำกัด
ผู้เชี่ยวชาญด้านการควบคุมเสียงในโรงงานอุตสาหกรรม
จากประสบการณ์ในการแก้ไขปัญหาด้านเสียงมายาวนาน ไม่ว่าจะเป็นเสียงทางอาชีวอนามัยและความปลอดภัยในการทำงาน และเสียงทางสิ่งแวดล้อม
ทางบริษัทฯ ยินดีให้คำแนะนำที่ทำได้จริงสำหรับการแก้ปัญหาด้านมลภาวะทางเสียงที่เกิดขึ้น เพื่อให้ทั้งโรงงาน พนักงาน หรือชุมชนโดยรอบอยู่ร่วมกันได้
“เพราะเรา…เข้าใจเรื่องเสียง”


สนใจสั่งซื้อ
เบอร์โทร:  02-583-8035 , 02-583-8034, 098-995-4650
E-mail: contact@newtechinsulation.com
Line ID: @newtechinsulation
Facebook: newtechthai
Instagram: newtechinsulation
เว็บไซด์: https://www.noisecontrol365.com/



129
มือถือใหม่ 2024: เรียลมี realme GT6T (12GB+256GB)
18,999 บาท 

เรียลมี realme GT6T (12GB+256GB)
จอแสดงผล Hyper Display 6000 นิต จอสมาร์ตโฟนที่สว่างที่สุดเท่าที่เคยมีมา
ชิปเซ็ตระดับแฟลกชิป Snapdragon® 7+ Gen 3 ชิปเซ็ต Snapdragon รุ่นใหม่ล่าสุด
ระบบระบายความร้อนชั้นนำ Iceberg Vapor Cooling System
แบตเตอรี่ขนาดใหญ่ 5500mAh มาตราฐานสมาร์ตโฟนแฟลกชิปสมัยใหม่
ชาร์จเร็ว SUPERVOOC 120W ชาร์จไว เร็วเแรง
RAM 12GB + ความจุในตัวเครื่อง 256GB ช่วยให้เครื่องทำงานราบรื่นได้นานหลายปี

รายละเอียดเบื้องต้น
   ยี่ห้อ-รุ่น                เรียลมี realme GT6T (12GB+256GB)
   ราคากลาง             18,999 บาท
   จำนวนซิม              2 ซิม (Nano Sim)
   แบบดีไซน์             จอสัมผัส
   สี                       Silver(Fluid Silver), Green(Razor Green)

   ความถี่-เครือข่าย
2G
3G
4G
5G

   ขนาด-น้ำหนัก                   ยาว 162 x กว้าง 75.1 x หนา 8.65 มม., น้ำหนัก 191 กรัม
   ความจุข้อมูลภายใน (ROM)   256 GB
   ความจุข้อมูลภายนอกสูงสุด      -
   แบตเตอรี่ และระบบชาร์จ       ความจุแบตเตอรี่ 5,500 mAh

จอแสดงผล
   ชนิดจอ             จอสัมผัส ()
   ความละเอียด      6.78 นิ้ว, 1,264 x 2,780 px

   รายละเอียดอื่น     
จอแสดงผลสว่าง 6000 นิต
ขนาด: 6.78 นิ้ว (17.22 ซม.)
ความสว่าง: 1000 นิต (ปกติ) / 1600 นิต (โหมดสว่าง) / 6000 นิต (สูงสุด)
อัตราการรีเฟรชหน้าจอ: สูงสุด 120Hz
Touch Sampling Rate: สูงสุดถึง 2500Hz
อัตราส่วนหน้าจอต่อตัวเครื่อง: 94.2%
อัตราส่วนคอนทราสต์: 5,000,000 : 1
ขอบเขตการแสดงสี: 100% DCI-P3
ความลึกของสี: 1.07 พันล้านสี
เทคโนโลยีปกป้องจอภาพ: GGV2

กล้องถ่ายรูป
   ขนาด-ความละเอียด                กล้องหลัง (50 Mpx), กล้องหน้า (32 Mpx)
   ความละเอียดของภาพภ่ายสูงสุด
   คุณสมบัติ                            -

ระบบปฏิบัติการ
   หน่วยประมวลผล (CPU)           Snapdragon? 7+ Gen 3
   หน่วยประมวลผลกราฟิก (GPU)   Adreno? 732 @950MHz
   หน่วยความจำ (RAM)              12.0 GB
   ระบบเชื่อมต่อภายนอก              USB(Type-C), Bluetooth, Wi-Fi
   ระบบรับส่งข้อความ                  -
   การเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ต             3G, WiFi, 4G, 5G

130
รีวิวบ้านใหม่ 2024: พฤกษาวิลล์ เทพารักษ์ (ซอย ส.มณีรัตน์) (Pruksa Ville Theparak)

ขอพาทุกท่าน ไปเยี่ยมชม โครงการในทำเลเทพารักษ์กันค่ะ ซึ่งโครงการนี้ เป็นโครงการทาวน์โฮมใหม่จากแบรนด์ พฤกษา เรียลเอสเตท โครงการที่ว่านี้มีชื่อว่า พฤกษาวิลล์ เทพารักษ์ (ซอย ส.มณีรัตน์) (Pruksa Ville Theparak) เป็นทาวน์โฮม 2 ชั้น หน้ากว้าง 5.7 เมตร ภายใต้แนวคิด Modern Neo-Renaissance Style ที่สะท้อนถึงเอกลักษณ์และรูปแบบสถาปัตยกรรมสไตล์ยุโรป เน้นเส้นสายตกแต่งให้สวยงามขึ้น ด้วยหลังคาเล่นระดับ เพิ่มความโปร่ง โล่ง ด้วยประตูบานใหญ่ และหน้าต่าง Enlarge-High window ช่วยเปิดรับแสงธรรมชาติ และเพิ่มความสวยงาม นอกจากนี้ยังเพิ่มความสูงของชั้นบน เพื่อความโปร่งของบ้าน และยังคัดสรรวัสดุชั้นดี เทียบเท่าบ้านเดี่ยว โดยเปิดจองในราคาเริ่มต้นเพียง 2.09 ล้านบาท จะน่าสนใจแค่ไหน ตามมาชมรายละเอียดโครงการกันเลยค่ะ

ข้อมูลโครงการ
เจ้าของโครงการ : บริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน)
ที่ตั้งโครงการ : ซอย ส.มณีรัตน์ ถนนเทพารักษ์ ตำบลบางพลีใหญ่ อำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ 10540
ขนาดพื้นที่โครงการ : 40-0-42.9 ไร่
จำนวนบ้าน : 469 ยูนิต
ขนาดที่ดิน : เริ่มต้นที่ 18.1 ตร.ว.
ขนาดพื้นที่ใช้สอย : ตั้งแต่ 96 - 98 ตารางเมตร
ปัจจุบันมีแบบบ้าน 2 แบบ ทาวน์โฮม 3 ห้องนอน และ ทาวน์โฮม 4 ห้องนอน 451 ยูนิต และในอนาคตมีอาคารพาณิชย์ 18 ยูนิต
สิ่งอำนวยความสะดวก : สวนสาธารณะ, สวนหย่อม, ฟิตเนส, CCTV และระบบรักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชั่วโมง
ราคาเริ่มต้น 2.09 ล้านบาท

ทำเลที่ตั้ง และการเดินทาง
โครงการตั้งอยู่ในซอย ส.มณีรัตน์ (เทพารักษ์ 103 ) ถนนเทพารักษ์ ตำบลบางพลีใหญ่ อำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ 10540 ห่างจากถนนใหญ่เทพารักษ์ 800 เมตร ซึ่งถนนเส้นนี้เชื่อมต่อถนนหลักอีกหลายสาย เช่น ถนนกิ่งแก้ว ถนนวงแหวนตะวันออก ถนนวัดหนามแดง ถนนศรีนครินทร์ และถนนสุขุมวิท

การเดินทาง

1. เดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัว
การเดินทางด้วยรถยนต์สามารถมาได้หลายเส้นทาง ตามตัวอย่างเส้นทางดังต่อไปนี้ค่ะ
ขาเข้าโครงการ เส้นทางที่ 1 มาจากถนนวงแหวนรอบนอกฝั่งกรุงเทพใต้ (ถนนวงแหวนตะวันออก)
จากทางด่วนวงแหวนตะวันออก ให้ลงด่านเทพารักษ์ (ฝั่งที่เขียนว่าบางพลี) ลงมาที่ถนนเทพารักษ์แล้วขับตรงไปประมาณ 4 กม. แล้วกลับรถ หลังจากกลับรถประมาณ 400 ม. ให้เลี้ยวซ้ายเข้าซอย ส.มณีรัตน์ แล้วตรงเข้าไปประมาณ 800 เมตร โครงการอยู่ฝั่งซ้ายมือ

ขาเข้าโครงการ เส้นทางที่ 2 มาทางถนนบางนา-ตราด
จากถนนบางนา-ตราดตรงมาเรื่อยๆ เมื่อผ่านถนนกิ่งแก้วให้เตรียมตัวกลับรถที่สะพานเกือกม้า กลับรถแล้วให้เลี้ยวซ้ายเข้าถนนกิ่งแก้ว แล้วขับตรงมาจนถึงแยกเทพารักษ์ เลี้ยวขวาเข้าถนนเทพารักษ์ ขับตรงไป 1 กม. ให้เลี้ยวซ้ายเข้าซอย ส.มณีรัตน์ จากนั้นตรงไปประมาณ 800 เมตรโครงการอยู่ฝั่งซ้ายมือ

ขาออกโครงการ เส้นทางที่ 1 ออกโครงการไปทางด่วนวงแหวนตะวันออก
ขาออกโครงการ เส้นทางที่ 2 ออกโครงการไปถนนสุขุมวิท (BTS สำโรง)

2. รถสาธารณะอื่นๆ

เดินทางด้วยรถไฟฟ้าสายสีเหลือง
รถไฟฟ้าสายสีเหลือง (ลาดพร้าว-สำโรง) ประมูลปี 2559 คาดว่าแล้วเสร็จ ปี 2563 รถไฟฟ้าสายสีเหลืองจะเน้นรองรับประชาชนถนนลาดพร้าว, ถนนศรีนครินทร์, พัฒนาการ ฝั่งทิศตะวันตกของกรุงเทพ ซึ่งเป็นแหล่งที่อยู่อาศัยมีชุมชนหนาแน่น ดำเนินการก่อสร้างโดยการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) มีระยะทางทั้งสิ้น 30.4 กิโลเมตร โดยแบ่งออกเป็น 2 ช่วง คือช่วงสถานีลาดพร้าว-พัฒนาการ และช่วงพัฒนาการ-สำโรงค่ะ ที่สำโรงก็จะสามารถเชื่อมต่อกับรถไฟฟ้าสายสีเขียวเข้มได้ด้วย โดยสถานีที่ใกล้โครงการมากที่สุดคือ สถานีศรีเทพา มีระยะห่างจากโครงการประมาณ 8 กม.

สภาพแวดล้อมใกล้เคียง และสถานที่สำคัญใกล้เคียง
โครงการตั้งอยู่ในซอยเทพารักษ์ 103 หรือซอย ส.มณีรัตน์ ห่างจากตัวถนนใหญ่เทพารักษ์เพียง 800 เมตร ภายในซอยเป็นถนนขนาดเล็กรถสามารถสวนกันได้ มีที่อยู่อาศัยส่วนบุคคล และโรงงานขนาดเล็ก ช่วงปากซอยซ้าย-ขวาในระยะที่เดินเพียง 100 เมตร มีร้านขายของ หลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็น ร้านขายของชำ ร้านอาหาร และ 7-11 ฟุตบาทบริเวณหน้าปากซอยยังเป็นตลาดตอนเย็นเปิดขายเกือบทุกวันถือว่าสะดวกสบายทีเดียว ถัดจากโครงการไปไม่ไกลก็เป็นที่ตั้งของโรงพยาบาล บางนา 5 โดยตลอดเส้นถนนเทพารักษ์นั้นก็ค่อนข้างมีร้านอาหารมากมาย และมีหมู่บ้านจัดสรรอยู่มากพอสมควรค่ะ

หน้าปากซอย เทพารักษ์ 103 (ซอย ส.มณีรัตน์) มีป้ายชื่อโครงการ พฤกษาวิลล์ ให้ตรงเข้าไป
ด้านซ้ายมือ เดินตรงไปประมาณ 50 เมตร มีปั๊มน้ำมัน ปตท. กำลังปรับปรุง ซึ่งในปั๊มมี 7-11 ด้วยค่ะ
ด้านขวามือตามฟุตบาทมีร้านขายของเรียงรายอยู่หลายร้าน ซึ่งในตอนเย็นจะมีตลาดขนาดย่อมเปิดขายทุกวั
มีร้านสะดวกซื้อถัดจากซอยเพียง 60 เมตร
ร้านขายอาหารอยู่ติดๆ กัน
มี 7-11 และร้านขายอาหารด้านหน้าอีกมากมาย
โรงพยาบาลบางนา 5 ห่างจากโครงการประมาณ 1 กม.
โรงพยาบาลสินแพทย์ ห่างจากโครงการประมาณ 6.2 กม.
ตลาดนัด J-one Market ห่างจากโครงการประมาณ 900 ม.
โรงพยาบาลบางพลี ห่างจากโครงการประมาณ 2.4 กม.
Big C บางพลี ห่างจากโครงการประมาณ 2.6 กม.

แบบบ้าน และตัวโครงการโดยรวม
โครงการพฤกษาวิลล์ เทพารักษ์ (ซอย ส.มณีรัตน์) (Pruksa Ville Theparak) เป็นโครงการทาวน์โฮมสไตล์โมเดิร์นคลาสสิกขนาด 2 ชั้น ทางเข้า-ออกหลักของโครงการมีทางเข้า-ออกเพียงทางเดียว คือ ซอย ส.มณีรัตน์ ห่างจากถนนเทพารักษ์ประมาณ 800 เมตร อยู่บนแปลงที่ดินขนาด 40-2-42.9 ไร่ มีจำนวนบ้านรวมทั้งหมด 469 หลัง แบ่งเป็นทาวน์โฮม 2 ชั้น 451 หลัง และอาคารพาณิชย์ 2 ชั้น 18 หลัง มีพื้นที่สีเขียวเป็นสวนสาธารณะส่วนกลาง และศาลาพักผ่อน ตั้งอยู่ใกล้กับประตูทางเข้าโครงการ รั้วรอบโครงการมีความสูงอยู่ที่ 2 เมตร ถนนเมนกว้าง 16-12.70 เมตรตามลำดับความลึก และถนนซอยย่อยกว้าง 8.10 เมตร

Master Plan โครงการ พฤกษาวิลล์ เทพารักษ์ (ซอย ส.มณีรัตน์) จากมุมสูง
แสดงให้เห็นถึงขอบเขตโครงการโดยรวม สวนสาธารณะ สำนักงานขาย บ้านตัวอย่าง และทางเข้า-ออก
ด้านหน้าโครงการ ก่อนถึงประตูทางเข้า ได้เตรียมพื้นที่ไว้สำหรับสร้างอาคารพาณิชย์ขนาด 2 ชั้น
พื้นที่สีเขียวปลูกหญ้าไว้ที่เห็นคือพื้นที่สำหรับสร้างอาคารพาณิชย์ในอนาคตค่ะ

ซุ้มประตูทางเข้าด้านหน้าโครงการ มีขนาดใหญ่เห็นได้ชัดเจน มีป้ายชื่อโครงการ Pruksa Ville
เทพารักษ์ - ซอย ส.มณีรัตน์ ทั้งฝั่งซ้ายและฝั่งขวา

ประตูทางเข้า-ออก แยกระหว่างคนที่อาศัยภายในโครงการ กับคนภายนอกที่มาติดต่อ ซึ่งถือว่าสะดวกทีเดียวเพราะ
คนที่อาศัยภายในโครงการไม่ต้องเสียเวลารอคนภายนอกที่กำลังแลกบัตรค่ะ
ลูกบ้านสามารถแตะบัตรที่เครื่องนี้แล้วไม้กั้นและประตูบานเลื่อนก็จะเปิดให้อัตโนมัติเลยค่ะ

ผ่านบริเวณที่สแกนคีย์การ์ด และไม้กั้นประตูเข้ามา จะเป็นส่วนของ CCTV และประตูบานเลื่อน
มีห้องสำหรับรปภ. กั้นตรงกลางระหว่างทางเข้าและทางออก

ผ่านซุ้มประตูเข้ามาข้างในโครงการด้านซ้ายมือจะเห็น Sales Office และมีบ้านตัวอย่างทั้ง 2 แบบเรียงถัดกันไป
Sales Office ขนาด 2 ชั้น ซึ่งในอนาคตจะปรับเป็นสำนักงานนิติบุคคล
ถนนหลักช่วงสวนสาธารณะกว้าง 16 เมตร หลังจากนั้นลดลงเหลือ 12.7 เมตร
ถนนในซอยย่อยกว้าง 8.10 เมตร

แบบบ้านพร้อม Floor Plan ของทางโครงการปัจจุบันมี 2 แบบ คือ

1. แบบบ้าน NEO CLASSIC III - ทาวน์โฮม 2 ชั้น หน้ากว้าง 5.7 เมตร ที่ดินเริ่มต้น 18.1 ตร.ว. พื้นที่ใช้สอยประมาณ 96 ตร.ม. ขนาด 3 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ ส่วนรับแขก เชื่อมต่อกับส่วนรับประทานอาหาร  Pantry จอดรถ 1 คัน

2. แบบบ้าน NEO CLASSIC II - ทาวน์โฮม 2 ชั้น หน้ากว้าง 5.7 เมตร ที่ดินเริ่มต้น 18.1 ตร.ว. พื้นที่ใช้สอยประมาณ 98 ตร.ม. ขนาด 4 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ ส่วนรับแขก เชื่อมต่อกับส่วนรับประทานอาหาร  จอดรถ 1 คัน

NEO CLASSIC II

Floor Plan NEO CLASSIC II
ส่วนกลางและสิ่งอำนวยความสะดวก
สวนส่วนกลาง และศาลาพักผ่อน
ฟิตเนส
การรักษาความปลอดภัย 24 ชม.
CCTV บริเวณทางเข้าโครงการ
ระบบ Key Card Access เข้า - ออกโครงการ

Sales Office ขนาด 2 ชั้น รูปทรงสวยงาม ในอนาคตจะปรับเป็นสำนักงานนิติบุคคล

สวนสาธารณะ วางตัวอยู่ช่วงหน้าโครงการใกล้ๆ กับประตูทางเข้า-ออก

ลงไม้ใหญ่ ไม้พุ่มไว้ให้ โดยรอบ

มีน้ำพุขนาดเล็ก

ตกแต่งสนามส่วนหนึ่งเป็นเหมือนตารางหมากรุก ดีไซน์สวยงามทีเดียวค่ะ

มีศาลานั่งพักผ่อนให้ แต่พื้นที่ส่วนนี้ ในอนาคตอาจจะปรับเป็นส่วนของฟิตเนสให้ใช้งานค่ะ
ภาพบ้านตัวอย่าง และ Layout
โครงการนี้มีแบบบ้าน 2 แบบนะคะ แต่ทั้งสองแบบมีฟังก์ชั่นที่คล้ายกัน เพราะฉะนั้น วันนี้เราจึงขอพาทุกท่านไปเยี่ยมชมทาวน์โฮม 2 ชั้น ที่มีชื่อว่า NEO CLASSIC III หน้ากว้าง 5.7 เมตร ที่ดินเริ่มต้น 18.1 ตร.ว. พื้นที่ใช้สอยประมาณ 96 ตร.ม. ขนาด 3 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ ส่วนรับแขก เชื่อมต่อกับส่วนรับประทานอาหาร  Pantry จอดรถ 1 คัน ซึ่งเป็นบ้านตัวอย่างพร้อมตกแต่ง และบ้านเปล่ามาตรฐานที่ใช้ส่งมอบลูกค้ามาให้ชมกันค่ะ
บ้านเปล่ามาตรฐาน

มาชมแปลนบ้านทั้งสองชั้นกันก่อนนะคะ

เราขอพาไปชมบ้านเปล่ามาตรฐานแบบที่ใช้ส่งมอบลูกค้ากันก่อน ด้านขวามือคือบ้านตัวอย่างแบบบ้านเปล่า
ส่วนด้านซ้ายมือ คือบ้านตัวอย่างพร้อมตกแต่ง อยู่ติดกันเลยค่ะ

บ้านตัวอย่างแบบบ้านเปล่า ตัวบ้านสร้างแบบ Precast ทั้งหลัง สำหรับบ้านที่ขายและใช้ส่งมอบลูกค้าจะเป็นบ้านเปล่า
ไม่ได้ตกแต่งเฟอร์นิเจอร์ ไม่ได้จัดสวนปูหญ้า ด้านหน้ามีประตูเหล็กแบบโปร่งเป็นบานพับ มีรั้วระหว่างบ้าน
สูงประมาณ 1.5 เมตร

บ้านที่นี่มีหน้ากว้าง 5.7 เมตร ลานจอดรถสามารถจอดได้ 1 คัน สำหรับบ้านที่ส่งมอบลูกค้าพื้นจอดรถจะเป็นคอนกรีตเสริมเหล็กขัดหยาบลาดยาวจนถึงประตูรั้วบ้าน ไฟด้านหน้าเป็นโคมไฟ LED ประตูทางเข้าหลัก
เป็นประตูบานสไลด์

ตรงที่จอดรถจะมีห้องเก็บของขนาดย่อมให้นะคะ มีประตูปิดให้เรียบร้อย ส่วนกระจกบาน Fix ที่เห็นนั้น
เป็นกระจกรับแสงช่วงทางเดินตรงบันไดค่ะ

ประตูบานเลื่อนพร้อมมือจับ และมีตัวล็อค 2 ชั้น กระจกเขียวตัดแสง

พื้นชั้นล่างมีความสูงจากพื้นถึงเพดาน 2.7 เมตรปูด้วยกระเบื้องแกรนิตโต้ 60 x 60 ซม. ไฟด้านล่างเป็นโคมไฟ LED
ช่วยในเรื่องการประหยัดไฟ ฝ้าที่ให้เป็นฝ้าเรียบ ดรอปฝ้าลงมาเล็กน้อยช่วงตรงกลางบ้าน

บ้านที่นี่ เป็น Smart Home ควบคุมการเปิด-ปิดไฟ แอร์ ผ่านโทรศัพท์มือถือได้เลย โดยทางโครงการจะติดตั้งระบบนี้
มาให้ พร้อมเดินสาย LAN ในบ้านไว้สำหรับต่ออินเทอร์เน็ต แค่เอาเครื่องมาต่อก็ใช้ได้เลยค่ะ

เรามาดู ฟังก์ชั่นบ้านชั้น 1 เริ่มจากซ้ายมือ คือบันไดทางขึ้นชั้น 2 จากนั้นเป็นห้องน้ำ ติดกับห้องน้ำ คือ ครัว
และด้านหลังสุดจะมีประตูเปิดออกไปลานซักล้างหลังบ้านค่ะ

ห้องน้ำชั้นล่าง จะแยกอ่างล้างหน้าไว้ด้านนอก ด้านในมีประตูปิดมิดชิด วางโถสุขภัณฑ์และติดตั้งฝักบัวให้
สุขภัณฑ์ของ COTTO ปูพื้นด้วยกระเบื้องแกรนิตโต้ ส่วนไฟเป็นไฟ LED

ส่วนพื้นห้องน้ำด้านใน ซึ่งเป็นที่ส่วนเปียก ลดระดับลงมาจากพื้นปกติเล็กน้อย

ภายในติดตั้งโถสุขภัณฑ์และฝักบัว พร้อมพัดลมระบายอากาศ เพื่อระบายกลิ่นและความชื้น

ติดกับห้องน้ำคือครัว สำหรับบ้านเปล่าที่ส่งมอบลูกค้าจะเป็นห้องโล่งๆ แบบนี้เลยค่ะ ถังดับเพลิงจะติดตั้งอยู่ส่วนนี้ด้วย
มีหน้าต่างบานเลื่อนให้ 1 บาน

ลานซักล้างหลังบ้านจะเทคอนกรีตเสริมเหล็กฉาบเรียบลาดยาวให้เต็มพื้นที่ ลงเสาเข็มให้ลึกเท่าตัวบ้าน
เพื่อรองรับการต่อเติมครัวไทยด้านหลัง สำหรับกำแพงบ้านที่หันหลังชนกันจะมีกำแพงสูงถึง 2.5 เมตร ระหว่างบ้าน
สามารถต่อเติมหลังคาทำครัวได้เลย นอกจากนี้ทางโครงการยังทำร่องน้ำฝนให้ ไม่ต้องจ่ายเพิ่มเองอีกด้วย

ทำระบบท่อน้ำดี น้ำทิ้งให้เรียบร้อย

กลับเข้ามาชมด้านในตัวบ้านกันต่อ เป็นบันได Precast สำเร็จรูป แข็งแรงทนทานเทียบเท่าบ้านเดี่ยว
พื้นบันได้ไม้ลามิเนต ตรงทางขึ้นมีกระจกบาน fix สำหรับรับแสงธรรมชาติให้ 1 บาน

มีชานพัก แบบสามเหลี่ยม และสี่เหลี่ยม ไม่มีราวจับให้

ขึ้นบันไดมาบนฝ้าเพดานจะเห็น Sky Light (ฝ้าโปร่งแสง) ช่วยเพิ่มความสว่างให้พื้นที่นี้
โดยตอนกลางวันไม่ต้องเปิดไฟ ประหยัดได้อีกเยอะเลยค่ะ

ฟังก์ชั่นบ้านของชั้น 2 มี 3 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ พื้นปูด้วยลามิเนตหนา 8 มิลลิเมตร มีความสูงจากพื้นถึงเพดาน 2.8 เมตร
ตู้ควบคุมระบบไฟจะติดตั้งอยู่หน้าห้องน้ำ พร้อมทั้งกล่องสำหรับต่ออินเทอร์เน็ตก็ติดตั้งตรงส่วนนี้
ขึ้นบันไดมาจะเห็นห้องนี้อยู่ติดบันได้เลย คือห้องนอน 3 มีหน้าต่างบานเลื่อนให้ 1 บานค่ะ
ติดกันคือ ห้องนอน 2 มีขนาดเท่ากันกับห้องที่ผ่านมา
ผนังกำแพงฝั่งนี้หากเป็นบ้านแปลงมุมจะมีหน้าต่างมาให้อีก 1 บาน
ห้องน้ำ และ Master Bedroom

ห้องน้ำชั้น 2 ใช้แชร์กันทั้ง 3 ห้องด้านบน มีขนาดพอเหมาะ ให้สุขภัณฑ์มาครบของ COTTO มีอ่างล้างมือ
ก๊อกน้ำ กระจก โถสุขภัณฑ์ ฝักบัว แยกส่วนเปียก/แห้งให้อย่างชัดเจนด้วยฉากกั้นแบบบานเลื่อนคู่ซึ่งเป็นกระจกนิรภัย
ติดตั้งพัดลมดูดอากาศให้เพื่อระบายความชื้นภายในห้องน้ำ และยังเดินสายไว้สำหรับติดตั้งเครื่องทำน้ำอุ่นให้ด้วย

ระยะการจัดวางของเครื่องสุขภัณฑ์ภายในห้องน้ำ

มีประตูทางเข้าออก 2 ทาง คือสามารถเข้าได้จากโถงชั้น 2 หรือเข้าจาก Master Bedroom ก็ได้ค่ะ

ห้องนอนใหญ่ หรือ Master Bedroom ค่ะ ห้องนี้จะวางตัวอยู่ฝั่งด้านหน้าบ้าน ขนาดความกว้างของห้องเท่ากับ
ความกว้างของบ้านนี้พอดี มีขนาดห้องใหญ่ที่สุด สามารถวางเตียงคิงไซส์ ตู้เสื้อผ้า ชั้นวางของได้พอดี
มีหน้าต่างบานเลื่อน 3 จุด หน้าต่างบานแรกสุด เปิดออกไปจะมีระเบียงให้ด้วย

ระเบียงขนาดเล็ก สามารถวางกระถางต้นไม้ได้
มีทางเข้าห้องน้ำจากในห้องนอนสะดวกทีเดียว ส่วนพื้นที่ว่างที่เห็นสามารถวางเตียงนอนขนาดใหญ่ได้พอดี
พื้นที่ส่วนที่เหลือสามารถจัดวางตู้เสื้อผ้า โต๊ะเครื่องแป้งได้ หรือ Built-in mini Walk in Closet ก็ได้ค่ะ
ปลั๊กไฟ และจุดสำหรับเสียบสายทีวี อินเทอร์เน็ต ของ Bticino

สวิตช์ไฟยี่ห้อเดียวกัน
บ้านตัวอย่างพร้อมตกแต่ง
บ้านตัวอย่างพร้อมตกแต่งอยู่ติดกันกับบ้านเปล่าเลยนะคะ
ด้านข้างบ้านของบ้านแปลงมุมจะเห็นว่ามีหน้าต่าง ที่ผนังด้านข้าง

จะเห็นว่าบ้านตัวอย่างพร้อมตกแต่งในแบบเดียวกัน มีการจัดวางผังห้องอยู่คนละฝั่งกัน
แต่มีฟังก์ชั่นเหมือนกับบ้านเปล่าที่ชมมาเมื่อสักครู่นี้ทุกอย่างนะคะ
ที่จอดรถจอดได้ 1 คัน มีห้องเก็บของเปิดได้จากด้านหน้านี้ค่ะ
เฉลียงหน้าบ้านยกสูงจากพื้นลานจอดรถเล็กน้อย ส่วนพื้นบ้านก็สูงขึ้นจากเฉลียงด้านหน้าอีกเหมือนกัน
ประตูบานสไลด์ พร้อมมือจับ และตัวล็อค
เปิดประตูเข้ามาข้างในตัวบ้าน ตัวบ้านมุมมองตรงๆ ส่วนแรกถูกจัดเป็นส่วนพักผ่อนรับแขก
วางโซฟาขนาด 3-4 ที่ได้พอดี

ด้านหลังโซฟาจะเป็นหน้าต่างบานเลื่อน มีให้เฉพาะแปลงมุม ทำให้พื้นที่ส่วนนี้ได้รับแสงธรรมชาติ
ทั้งจากหน้าต่างและประตูหน้าบ้านเลยค่ะ

ตรงข้ามโซฟารับแขก เป็นพื้นที่สำหรับจัดวางทีวี หรือ Built-in ตู้โชว์ก็ได้ค่ะ
ถ่ายย้อนกลับไปด้านหน้าทางเข้า
ส่วนรับประทานอาหาร และส่วนพักผ่อนรับแขกของบ้านนี้จะเชื่อมต่อกัน

พื้นที่ส่วนนี้สามารถวางโต๊ะอาหารขนาด 4-6 ที่ได้ค่ะ มีหน้าต่างบานเลื่อนด้านข้าง 1 บาน สำหรับบ้านแปลงมุม
เพื่อรับแสงธรรมชาติให้เข้ามาในบ้าน และมีหน้าต่างจากด้านหลังบ้านอีก 1 บาน

ฟังก์ชั่นบ้านของชั้น 1
ห้องน้ำชั้น 1 แยกอ่างล้างมือไว้ด้านนอก โถสุขภัณฑ์และส่วนอาบน้ำอยู่ในห้องมีประตูปิดค่ะ
ติดตั้งพัดลมดูดอากาศไว้ให้เรียบร้อย

ติดกับห้องน้ำ ทางโครงการตกแต่งเป็นห้องอเนกประสงค์ เจ้าของบ้านท่านไหนอยากปรับห้องนี้เป็นอะไร
สามารถปรับได้ตามใจชอบเลยค่ะ

มีหน้าต่างบานเลื่อนด้านหลัง 1 บาน
ประตูเปิดออกไปหลังบ้านเป็นประตูบานทึบ

ลานซักล้างหลังบ้าน ทางโครงการตกแต่งให้เป็นครัวแยกส่วน ติดตั้งเคาน์เตอร์ครัว และมุงหลังคาไว้ให้ดู
เป็นตัวอย่าง ซึ่งท่านเจ้าของบ้านสามารถปรับพื้นที่ส่วนนี้ตามใจชอบได้เลย เพราะทางโครงการลงเสาเข็มลึกเท่าตัวบ้าน
ไว้รองรับการต่อเติมแล้ว ไม่ทรุดแน่นอนค่ะ

หากเป็นแปลงมุมติดประตูด้านข้างบ้านแบบนี้ก็สะดวกดีค่ะ บ้านตัวอย่างหลังนี้มีพื้นที่หลังบ้านกว้างถึง 3 เมตร
ซึ่งปกติแล้วบ้านที่ส่งมอบลูกค้าจะกว้างตามมาตรฐาน คือ 2.5 เมตรค่ะ

อีกครึ่งหนึ่งกั้นเป็นห้องตากผ้า ติดตั้งประตูและกั้นผนังเป็นไอเดียสำหรับลูกค้า หรือจะทำเป็นห้องครัวแบบเต็มพื้นที่
เลยก็ได้นะคะ จะได้ครัวขนาดใหญ่ใช้งานสะดวก

สามารถใช้พื้นที่ส่วนนี้ตากผ้าได้ค่ะ

หรือปรับเป็นห้องอื่นๆ ตามความชอบได้เลย

บันไดทางขึ้นชั้น 2 เป็นบันได Precast เดินแล้วไม่มีเสียงดัง

มีชานพักครึ่งหนึ่งของบันได ถัดจากชานพักจะมีราวจับให้จนถึงโถงชั้น 2

Sky Light ฝ้าโปร่งแสงช่วยประหยัดพลังงาน เหมือนกับแบบบ้านเปล่าที่ชมมาแล้ว

ฟังก์ชั่นของห้องที่ชั้น 2

ห้องที่อยู่ติดกับบันไดห้องนี้ คือ ห้องนอน 3 มีขนาดกะทัดรัด เหมาะสำหรับเป็นห้องนอนลูกๆ มีพื้นที่พอให้วาง
ตู้เสื้อผ้า เตียงขนาด 3.5 ฟุต และโต๊ะเครื่องแป้ง

ถ่ายย้อนกลับไปที่ประตูทางเข้าห้อง

ติดกับห้องนอน 3 คือห้องนอน 2 ทั้งสองห้องนี้มีขนาดเท่ากันค่ะ

วางเตียงขนาด 3.5 ฟุตแบบพอดีๆ

อีกสองห้องที่เหลือ คือห้องน้ำ และ Master Bedroom

มาชม Master Bedroom กันก่อน ห้องนี้วางตัวอยู่ฝั่งด้านหน้าบ้าน ภายในห้องสามารถจัดวาง เตียงนอน ตู้เสื้อผ้า
โต๊ะเครื่องแป้ง และยังมีระเบียงขนาดย่อมให้อีกด้วย หน้าต่างที่ลูกศรสีแดงชี้ คือ จุดที่มีระเบียงค่ะ

ระเบียงขนาดย่อม สามารถปลูกไม้กระถางขนาดย่อมเพื่อความสวยงาม

วางเตียงขนาดใหญ่แล้วยังมีพื้นที่ข้างเตียง เหลือพอให้วางตู้ขนาดเล็กทั้งสองฝั่ง

พื้นที่ปลายเตียงยังเหลืออีกกว้างทีเดียว สามารถทำเป็นผนังกั้นเพื่อวางทีวี และ Built in ภายใน
เพื่อทำ Mini Walk in Closet ก็ได้

มีประตูทางเข้าห้องน้ำจากด้านในห้องนอน

ห้องน้ำมีสุขภัณฑ์ให้ครบของ COTTO ไม่ว่าจะเป็น อ่างล้างมือ ก๊อกน้ำ กระจก โถสุขภัณฑ์ ฝักบัว
แยกส่วนเปียก/แห้งให้อย่างชัดเจนด้วยฉากกั้นแบบบานเลื่อนคู่ซึ่งเป็นกระจกนิรภัย

ติดตั้งพัดลมดูดอากาศให้เพื่อระบายกลิ่น และความชื้นภายในห้องน้ำ เดินสายไว้สำหรับ
ติดตั้งเครื่องทำน้ำอุ่น และบ้านแปลงมุมมีหน้าต่างบานกระทุ้งมาให้ 1 บาน
ฝักบัว และอ่างล้างมือ ของ COTTO

ห้องน้ำสามารถเข้า-ออกได้จาก โถงชั้น 2 หรือจาก Master Bedroom ก็ได้เช่นกัน
ราคาและค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องโดยประมาณ ณ วันที่ 3 พ.ย. 2560
Neo Classic III ราคาเริ่มต้น 2.29 ล้านบาท ราคาพิเศษ 2.09 ล้านบาท*
Neo Classic II ที่จอดรถ ราคาเริ่มต้น 2.59 ล้านบาท ราคาพิเศษ 2.29 ล้านบาท*
ตัวอย่างค่าใช้จ่ายของแบบบ้านพร้อมโอนกรรมสิทธิ์ Neo Classic III ขนาดพื้นที่ใช้สอย 96 ตร.ม. แปลงมาตรฐาน ขนาดที่ดิน 18.1 ตร.ว. (ราคาพิเศษ 2.09 ล้านบาท* )

- จอง 5,000 บาท
- ทำสัญญา ฟรี
- ผ่อนจำนวน 4 งวด งวดละ 5,000 บาท
- รวมดาวน์ 25,000 บาท
- โอนกรรมสิทธิ์ 2,065,000 บาท
*กำหนดโอนกรรมสิทธิ์ มกราคม 61
ผ่อนธนาคารต่อเดือน (MLR 7%)
- อัตราการผ่อนธนาคาร 2 ปีแรก
- ดาวน์ 30 ปี 14,600 บาท

ค่าใช้จ่ายต่างๆโดยประมาณ ณ วันโอนกรรมสิทธิ์
1. ค่าจดจำนอง (1% ของวงเงินกู้) ผู้จะซื้อเป็นผู้ชำระ
2. ค่าธรรมเนียมการโอนกรรมสิทธิ์ 2% (ผู้จะซื้อและผู้ขายชำระฝ่ายละครึ่ง)
3. ค่าบริการสาธารณะ 30 บาท/ตารางวา (ชำระล่วงหน้า 2 ปี)
4. ค่าอากรและค่าพยานผู้ซื้อเป็นผู้ชำระ
5. ค่าใช้จ่ายในการดำเนินการติดตั้งขอมิเตอร์ไฟฟ้า ขนาด 15/45 แอมป์ และมิเตอร์น้ำขนาด 0.5 นิ้ว ผู้ซื้อเป็นผู้ชำระ
6. ทำสัญญาภายใน 7 วันนับจากวันจอง
7. เนื้อที่เพิ่ม-ลด ตารางวาละ 90,000 บาท**

พนักงานบริษัท
1. สำเนาบัตรประชาชน/สำเนาทะเบียนบ้าน (ผู้กู้และคู่สมรส)
2. สำเนาทะเบียนสมรส/ใบเปลี่ยนชื่อนามสกุล (ถ้ามี)
3. ใบรับรองเงินเดือนและสลิปเงินเดือนย้อนหลัง 6 เดือน
(กรณีมีสวัสดิการ ใช้หนังสือผ่านสิทธิ์สวัสดิการ)
4. รายงานผลการเดินบัญชีธนาคาร 6 เดือน (เงินเดือนเข้า)
5. รายงานผลการเดินบัญชีธนาคาร 6 เดือน (เงินออม)
เจ้าของกิจการ
1. สำเนาบัตรประชาชน/สำเนาทะเบียนบ้าน (ผู้กู้และคู่สมรส)
2. สำเนาทะเบียนสมรส/ใบเปลี่ยนชื่อนามสกุล (ถ้ามี)
3. รายงานผลการเดินบัญชีธนาคาร 1 ปี (บัญชีส่วนตัว/บริษัท)
4. ใบทะเบียนการค้า/ใบทะเบียนพาณิชย์/รูปถ่ายกิจการ/แผนที่ตั้ง
5. งบการเงินของกิจการ 3 ปีย้อนหลัง (ถ้ามี)
6. ใบแสดงการหักภาษี ณ ที่จ่าย/ภงด/ใบ ภพ30 ย้อนหลัง 6 เดือน

131
ตรวจสุขภาพ: ผิวหนังอักเสบชนิดเกล็ดรังแค (Seborrheic dermatitis)

ผิวหนังอักเสบชนิดเกล็ดรังแค (โรคผื่นแพ้ต่อมไขมัน โรคผิวหนังอักเสบเซ็บเดิร์ม หรือเซ็บเดิร์มก็เรียก) เป็นโรคผิวหนังเรื้อรังชนิดหนึ่งที่มีลักษณะเป็นผื่นแดงคันร่วมกับเป็นเกล็ดรังแค มักเป็นที่หนังศีรษะ และบริเวณที่มีต่อมไขมันมาก เช่น ใบหน้า ร่องจมูก หู คิ้ว เปลือกตา หน้าอก เป็นต้น

โรคนี้มักเป็น ๆ หาย ๆ เรื้อรัง แต่ไม่เป็นโรคติดต่อให้ผู้อื่น (การสัมผัสใกล้ชิดกับผู้ป่วยไม่ทำให้ติดโรค)

พบได้ในคนทุกวัย พบบ่อยในทารกอายุต่ำกว่า 3 เดือน และผู้ใหญ่อายุ 30-50 ปี พบในผู้ชายมากกว่าผู้หญิง และพบบ่อยในผู้ที่มีผิวมัน

สาเหตุ

สาเหตุที่แท้จริงยังไม่ทราบ เชื่อว่าเกิดจากปัจจัยหลายอย่าง รวมทั้งเกิดจากปฏิกิริยาของร่างกายต่อเชื้อราที่มีชื่อว่ามาลัสซีเซียเฟอร์เฟอร์ (Malassezia furfur) ซึ่งอยู่ตามไขมันของผิวหนัง

การเกิดอาการและความรุนแรงของโรค เกี่ยวข้องกับปัจจัยทางกรรมพันธุ์ ความเครียดทั้งทางร่างกายและจิตใจ สภาพอากาศซึ่งเป็นได้ทั้งในหน้าร้อน (ต่อมไขมันบริเวณผิวหน้าสร้างไขมันออกมามาก ซึ่งเป็นตัวกระตุ้นให้ผื่นกำเริบได้มากขึ้น) และหน้าหนาว (อากาศแห้ง ซึ่งก็กระตุ้นให้โรคกำเริบ) การอยู่ในห้องปรับอากาศนาน ๆ หรือการถูกแสงแดดจัด

นอกจากนี้อาจเกี่ยวข้องกับการใช้ยาบางชนิด เช่น ยารักษามะเร็ง (เช่น dasatinib, 5-FU, cetuximab), ยาทางจิตเวช (เช่น lithium, phenothiazines), ยาฆ่าเชื้อรา-กริซีโอฟุลวิน, ยารักษาความดัน-เมทิลโดพา, ยารักษาโรคกระเพาะ-ไซเมทิดีน, ยาทาสิว-กรดเรติโนอิก (retinoic acid) เป็นต้น

โรคนี้ยังอาจพบในผู้ที่เป็นโรคระบบประสาท (เช่น พาร์กินสัน โรคลมชัก โรคหลอดเลือดสมอง ศีรษะได้รับบาดเจ็บ เป็นต้น) โรคซึมเศร้า โรคพิษสุราเรื้อรัง สิว โซริอาซิส (สะเก็ดเงิน)

ผู้ที่ติดเชื้อเอชไอวี มักจะมีอาการแสดงของโรคนี้แบบรุนแรงได้


อาการ

มีลักษณะเด่น คือ มีเกล็ดรังแค ลักษณะเป็นขุยสีขาวหรือเหลือง มีมันเยิ้ม หรือเป็นผื่นแดง คัน หรือพบอาการดังกล่าวร่วมกันในรายที่มีการอักเสบมากขึ้น

ตำแหน่งที่พบได้บ่อยที่สุด คือ หนังศีรษะ ถ้าเป็นเล็กน้อยจะพบเฉพาะเกล็ดรังแค แต่ถ้ามีการอักเสบมากจะเห็นเป็นผื่นแดง ซึ่งผื่นมักจะไม่เลยไรผมลงมาที่ต้นคอหรือหน้าผาก ในรายที่เป็นไม่มากมักมีอาการเกิดขึ้นที่บริเวณศีรษะเพียงอย่างเดียว

หากเป็นมากขึ้นก็จะพบผื่นที่ใบหน้า ได้แก่ บริเวณหัวคิ้ว ร่องจมูก ใบหู เปลือกตา (หนังตา) อาจพบหนังตาอักเสบ หนังตาแดงและมีเกล็ดสีขาวที่ขอบตาซึ่งเขี่ยออกได้ง่าย

ในรายที่เป็นรุนแรง จะเกิดผื่นที่หน้าอก กลางหลัง สะดือ หัวหน่าว ก้น และบริเวณข้อพับต่าง ๆ ร่วมด้วย

     ในทารก อาจมีอาการตั้งแต่แรกเกิดถึง 3 เดือน มักมีอาการเป็นสะเก็ดหนาสีเหลืองขึ้นที่หนังศีรษะ (เรียกว่า cradle cap) ซึ่งมักจะไม่คัน บางรายอาจมีร่องแตก หรือขุยสีเหลืองที่หลังหู ผื่นแดงที่ใบหน้า และผื่นผ้าอ้อม และอาการมักจะหายไปก่อนอายุ 1 ปี พอย่างเข้าวัยรุ่นก็อาจมีอาการกำเริบขึ้นใหม่

ในเด็กโต อาจมีอาการเป็นแผ่นเกล็ดหนา ๆ เหนียว ๆ ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 1-2 ซม. ที่หนังศีรษะ

อาการมักเป็น ๆ หาย ๆ มักกำเริบเมื่อมีสิ่งกระตุ้น เช่น ความเครียด พักผ่อนไม่พอ ร่างกายอ่อนล้า อยู่ในห้องปรับอากาศ เจออากาศเย็น อากาศร้อน หรืออากาศแห้งนาน ๆ  ถูกแสงแดดจัด ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ การใช้ยาบางชนิด เป็นต้น


ภาวะแทรกซ้อน

ส่วนใหญ่ไม่มีภาวะแทรกซ้อน นอกจากในรายที่มีอาการคันมาก อาจเกาจนมีการติดเชื้อแบคทีเรียแทรกซ้อน หรือมีเลือดออกได้

เนื่องจากเป็นโรคเรื้อรังที่ไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้ และรอยโรคอาจแลดูน่าเกลียด อาจส่งผลต่อจิตใจโดยตรง ทำให้รู้สึกเป็นปมด้อย หรือขาดความมั่นใจในตัวเอง


การวินิจฉัย

แพทย์จะวินิจฉัยจากอาการและสิ่งตรวจพบ

บางรายแพทย์อาจทำการขูดเอาเซลล์ผิวหนังจากรอยโรคไปตรวจทางห้องปฏิบัติการ เพื่อแยกออกจากสาเหตุอื่น เช่น โซริอาซิส (สะเก็ดเงิน) โรคเกลื้อน โรคผิวหนังอักเสบจากภูมิแพ้ เป็นต้น

การรักษาโดยแพทย์

แพทย์จะให้การดูแลรักษา ดังนี้

1. ในรายที่มีรังแคและผื่นแดงที่หนังศีรษะ สระผมด้วยแชมพูที่มีตัวยารักษารังแค เช่น ซิลีเนียมซัลไฟด์ (selenium sulfide), ซิงค์ไพริไทโอน (zinc pyrithione), คีโตโคนาโซล, น้ำมันดิน (coal tar) เป็นต้น วันละครั้ง หรือวันเว้นวัน แต่ละครั้งควรฟอกทิ้งไว้นาน 5-15 นาที จนกว่ารังแคจะดีขึ้น หลังจากนั้นใช้สระผมสัปดาห์ละ 2-3 ครั้ง

ส่วนรอยโรคที่บริเวณอื่น เช่น ใบหน้า หู หน้าอก รักแร้ ขาหนีบ เป็นต้น ใช้ครีมคีโตโคนาโซล ชนิด 2% ทาวันละ 2-3 ครั้ง

2. ถ้าให้การรักษาดังกล่าวไม่ได้ผล ใช้ครีมสเตียรอยด์ทา ถ้าเป็นที่หนังศีรษะและบริเวณที่มีขน ใช้โลชั่นไตรแอมซิโนโลนชนิด 0.01% ทาวันละ 2 ครั้ง จนกว่าจะดีขึ้น ส่วนบริเวณใบหน้า ใช้สเตียรอยด์ที่ออกฤทธิ์อ่อน ได้แก่ ครีมไฮโดรคอร์ติโซนชนิด 1% ทาวันละ 2-3 ครั้ง เมื่อดีขึ้นให้ทาต่อไปวันละครั้ง

3. ในรายที่มีหนังตาอักเสบจากโรคนี้ ใช้ไม้พันสำลีชุบน้ำสุก หรือน้ำเกลือเช็ดชำระเอาเกล็ดรังแคออก และใช้แชมพูรักษารังแค เช่น ซีลีเนียมซัลไฟด์ (selenium sulfide) ซิงค์ไพริไทโอน (zinc pyrithione) หรือโคลทาร์ (coal tar) สระผมและบริเวณที่เป็นรังแคทุกวัน ถ้าหนังตามีอาการคันหรือบวมแดงมาก ให้ใช้ยาหยอดตาสเตียรอยด์ทาตรงบริเวณขอบตาวันละ 3-4 ครั้ง

4. ในทารกและเด็กเล็ก ใช้แชมพูชนิดอ่อน (mild baby shampoo) สระผมวันละครั้ง และทาด้วยครีมไฮโดรคอร์ติโซนชนิด 1% วันละ 2 ครั้ง ในรายที่มีแผ่นเกล็ดหนาที่หนังศีรษะ ใช้ยาละลายขุย เช่น โลชั่นกรดไซลิไซลิกทาก่อนนอนทุกวันจนกว่าจะดีขึ้น

5. ถ้าให้การรักษา 1-2 สัปดาห์แล้วไม่ดีขึ้น หรือสงสัยเป็นโรคอื่น เช่น โซริอาซิส เอดส์ เป็นต้น แพทย์จะทำการตรวจหาสาเหตุและให้การรักษาตามสาเหตุที่พบ

ถ้าพบว่าเป็นโรคนี้ในผู้ป่วยเอดส์ แพทย์จะให้กินยาคีโตโคนาโซล 400 มก. วันละครั้ง นาน 2 สัปดาห์ เพื่อรักษาโรคนี้ควบคู่กับการใช้ยารักษาโรคเอดส์

การดูแลตนเอง

หากสงสัย เช่น มีเกล็ดรังแคลักษณะเป็นขุยสีขาวหรือเหลือง มีมันเยิ้ม หรือเป็นผื่นแดง คันตามหนังศีรษะ หัวคิ้ว ร่องจมูก ใบหู เปลือกตา หน้าอก กลางหลัง สะดือ หัวหน่าว ก้น หรือบริเวณข้อพับต่าง ๆ ควรปรึกษาแพทย์

เมื่อตรวจพบว่าเป็นผิวหนังอักเสบชนิดเกล็ดรังแค ควรดูแลตนเอง ดังนี้

    รักษา ใช้ยา และปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์
    ติดตามรักษากับแพทย์ตามนัด
    สวมใส่เสื้อผ้าที่เนื้อเรียบนุ่มซึ่งทำจากผ้าฝ้าย เพื่อให้อากาศระบายได้ดี ลดการระคายเคือง
    พักผ่อนนอนหลับให้เพียงพอ หาทางผ่อนคลายความเครียด และออกกำลังกายเป็นประจำ
    หลีกเลี่ยงอากาศที่ร้อนจัด เย็นจัด แห้งจัด การออกกลางแดดจัด และการดื่มสุรา
    หลีกเลี่ยงการใช้เครื่องสำอางทุกชนิด ครีมใส่ผม สเปรย์ผม ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ และสบู่ที่มีฤทธิ์แรง 
    หลีกเลี่ยงการใช้ยาบางชนิดที่กระตุ้นให้อาการกำเริบ 
    หลีกเลี่ยงการแกะเกาผื่นที่คัน อาจทำให้เกิดการติดเชื้อตามมาได้


ควรกลับไปพบแพทย์ก่อนนัด ถ้ามีลักษณะข้อใดข้อหนึ่ง ดังต่อไปนี้

    ดูแลรักษาแล้วอาการไม่ทุเลาใน 1-2 สัปดาห์ หรือมีอาการกำเริบใหม่
    ผื่นกลายเป็นตุ่มหนอง แผลพุพอง หรือมีน้ำเหลืองไหล
    ขาดยา หรือยาหาย
    ใช้ยาแล้วสงสัยเกิดผลข้างเคียงจากยา เช่น มีลมพิษ ผื่นคัน ตุ่มพุพอง ตาบวม หรือมีอาการผิดปกติอื่น ๆ

การป้องกัน

ยังไม่มีวิธีป้องกันที่ได้ผล เนื่องจากเป็นโรคที่ไม่ทราบสาเหตุ

ผู้ป่วยควรดูแลรักษา ใช้ยา ตามคำแนะนำของแพทย์ หลีกเลี่ยงสิ่งที่กระตุ้นให้โรคกำเริบ และหมั่นรักษาสุขภาพให้แข็งแรง

ข้อแนะนำ

1. โรคนี้ไม่มีการรักษาจำเพาะที่ทำให้หายขาด ถึงแม้จะเป็นโรคเรื้อรังประจำตัว แต่สามารถปฏิบัติตัวหลีกเลี่ยงสิ่งกระตุ้น และใช้แชมพูสระผมและยาทาควบคุมอาการได้ ซึ่งช่วยให้อาการทุเลาลงเป็นระยะ ๆ (อาจนานเป็นปี ๆ)

เมื่อเริ่มมีอาการกำเริบขึ้นใหม่ หรือในกรณีที่มีความเครียด หรือสัมผัสสิ่งกระตุ้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ก็สามารถรีบใช้แชมพูรักษารังแคและทายาเพื่อควบคุมไม่ให้อาการเป็นมากหรือลุกลามได้

2. โรคนี้อาจมีลักษณะไม่น่าดู โดยเฉพาะถ้าขึ้นที่บริเวณศีรษะและใบหน้า บางครั้งอาจทำให้ผู้ป่วยรู้สึกเป็นปมด้อย ความจริงแล้วถึงแม้จะเป็นโรคเรื้อรัง ซึ่งเกิดขึ้นโดยไม่ทราบสาเหตุ แต่ไม่ใช่โรคร้ายแรง ไม่ใช่โรคติดต่อ (สามารถอยู่ใกล้ชิดกับผู้อื่น โดยไม่ทำให้ผู้อื่นติดเชื้อเป็นโรค) ไม่ทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อน และทุเลาได้เมื่อมีการดูแลการรักษาอย่างจริงจัง หากผู้ป่วยมีความเข้าใจธรรมชาติของโรคนี้อย่างแท้จริง ก็จะช่วยให้ทำใจเป็นปกติได้

  3. โรคนี้อาจมีอาการคล้ายโรคผิวหนังอักเสบจากภูมิแพ้ รังแค และโซริอาซิส และอาจเป็นอาการแสดงที่พบร่วมกับผู้ป่วยเอดส์ หากให้การรักษาแล้วไม่ดีขึ้น หรือสงสัยว่าเป็นโซริอาซิสหรือโรคเอดส์ก็ควรปรึกษาแพทย์

132
หมอประจำบ้าน: ผื่นพีอาร์ (PR/Pityriasis rosea)

ผื่นพีอาร์ (ผื่นกลีบกุหลาบ ก็เรียก) เป็นโรคผิวหนังที่พบได้ประมาณร้อยละ 1-2 ของคนทั่วไป มักพบในวัยรุ่น และผู้ใหญ่อายุ 15-40 ปี พบในชายและหญิงเท่า ๆ กัน

เป็นโรคที่ไม่มีอันตรายและหายได้เอง โดยไม่มีภาวะแทรกซ้อนใด ๆ และจะไม่เป็นซ้ำอีก


สาเหตุ

โรคนี้ยังไม่พบสาเหตุแน่ชัด สันนิษฐานว่าผื่นที่ผิวหนังอาจเกิดจากการติดเชื้อไวรัส (กลุ่ม herpes virus) ซึ่งไม่มีการติดต่อสู่ผู้อื่น


อาการ

ผู้ป่วยจะมีผื่นขึ้นตามตัว โดยที่ไม่มีอาการไข้ และสุขภาพทั่วไปแข็งแรงดี

แรกเริ่มจะมีผื่นแดงรูปร่างกลมรี ขอบชัด มีเกล็ดบาง ๆ ที่ขอบของผื่น ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 2-6 ซม. จำนวน 1 ผื่นที่ผิวหนัง โดยมากมักจะขึ้นตรงหน้าอก บางรายอาจขึ้นที่หลัง ผื่นอันแรกนี้เรียกว่า ผื่นแจ้งโรค (herald patch)

หลังจากนั้นประมาณ 1-2 สัปดาห์ ก็จะมีผื่นลักษณะเดียวกัน ขนาดเล็กกว่า (เส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 0.5-1.5 ซม.) ค่อยทยอยขึ้นตามมา อาจมีอาการคันเล็กน้อย ผื่นเหล่านี้จะขึ้นที่หน้าอก หน้าท้อง และอาจขึ้นที่หลัง ต้นแขน ต้นขา

ในเด็กอาจมีผื่นขึ้นที่ใบหน้า มือ เท้า

ผื่นมักจะหายไปได้เองภายใน 2-6 สัปดาห์ (บางรายอาจหายใน 3-4 เดือน)


ภาวะแทรกซ้อน

โรคนี้มักหายได้เอง โดยไม่มีภาวะแทรกซ้อนที่ร้ายแรง นอกจากอาการคันมาก


การวินิจฉัย

แพทย์จะวินิจฉัยจากอาการและสิ่งตรวจพบ ดังนี้

ถ้าพบผู้ป่วยในระยะแรก อาจตรวจพบผื่นแจ้งโรค 1 อัน (บางรายอาจมีมากกว่า 1 อัน) อาจทำให้นึกว่าเป็นโรคกลาก ต่างกันที่ผื่นพีอาร์จะไม่คันมากและไม่ลุกลาม

ถ้าพบผู้ป่วยระยะที่มีผื่นขึ้นทั้งตัว จะพบผื่นแดง รูปร่างกลมรีจำนวนมาก โดยแกนตามยาว (ของวงรี) จะเรียงขนานกับร่องผิวหนัง (cleavage line) ทำให้ด้านหน้า (หน้าอก หน้าท้อง) ดูลักษณะเป็นรูปตัว T และด้านหลังดูลักษณะคล้ายต้นคริสต์มาส หากพบผื่นในลักษณะนี้ ควรตรวจหาผื่นแจ้งโรคที่มีขนาดใหญ่กว่าผื่นอันอื่น ๆ บางรายอาจพบมากกว่า 1 อัน บางรายอาจไม่พบ "ผื่นแจ้งโรค" ก็ได้

ถ้าสงสัยว่าอาจเป็นโรคเชื้อรา แพทย์จะขูดเอารอยโรคไปตรวจหาเชื้อรา


การรักษาโดยแพทย์

โรคนี้หายเองได้ และไม่มีวิธีการรักษาเฉพาะ แพทย์เพียงแต่ให้การรักษาตามอาการ แล้วรอเวลาให้หายเอง ดังนี้

1. หลีกเลี่ยงสิ่งที่อาจระคายเคืองต่อผิวหนัง ควรใช้สบู่อ่อน (เช่น สบู่เหลว สบู่เด็ก) ในการล้างทำความสะอาดร่างกาย

2. ถ้าคันให้ทาคาลาไมน์ หรือครีมสเตียรอยด์ (ครีมสเตียรอยด์ นอกจากช่วยลดอาการคันแล้ว ยังอาจช่วยให้หายเร็วขึ้น) ถ้าคันมาก หรือทำให้นอนไม่หลับให้กินยาแก้แพ้

3. ถ้าผื่นไม่ทุเลาใน 6 สัปดาห์ หรือสงสัยเป็นโรคอื่น เช่น ซิฟิลิส ผื่นแพ้ยา เป็นต้น ควรส่งโรงพยาบาลเพื่อตรวจวินิจฉัยให้แน่ชัด ในรายที่สงสัยเป็นซิฟิลิส อาจต้องเจาะเลือดหาวีดีอาร์แอล (VDRL)

ในรายที่เป็นผื่นพีอาร์ที่เป็นมากและเรื้อรัง แพทย์อาจให้การรักษาโดยวิธีฉายแสงอัลตราไวโอเลตบี (UVB) ทุกวัน จะช่วยให้ผื่นหายเร็วขึ้น


การดูแลตนเอง

หากสงสัย เช่น มีผื่นขึ้นตามตัว ควรปรึกษาแพทย์

เมื่อตรวจพบว่าเป็นผื่นพีอาร์ ควรดูแลตนเอง ดังนี้

    รักษา ใช้ยา และปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์ 
    ติดตามรักษากับแพทย์ตามนัด
    ควรให้ผิวหนังได้ถูกแดด (อาบแดด) อ่อนๆ นานวันละ 10-15 นาที (ผู้ที่แพ้แดดควรหลีกเลี่ยงการถูกแดด) มีส่วนช่วยให้โรคทุเลาเร็วขึ้น


ควรกลับไปพบแพทย์ก่อนนัด ถ้ามีลักษณะข้อใดข้อหนึ่ง ดังต่อไปนี้

    มีอาการคันมาก หรือดูแลรักษาแล้วอาการไม่ทุเลาใน 1-2 สัปดาห์
    ขาดยา ยาหาย หรือกินยาไม่ได้
    ในรายที่แพทย์ให้ยากลับไปกินต่อที่บ้าน กินยาแล้วสงสัยเกิดผลข้างเคียงจากยา เช่น มีลมพิษ ผื่นคัน ตุ่มพุพอง ตาบวม ปากบวม ปวดท้อง ท้องเดิน คลื่นไส้ อาเจียน จุดแดงจ้ำเขียว หรือมีอาการผิดปกติอื่น ๆ


การป้องกัน

ยังไม่มีวิธีป้องกันที่ได้ผล เนื่องจากโรคนี้ยังไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัด


ข้อแนะนำ

1. โรคนี้ไม่ใช่โรคติดต่อ จึงไม่จำเป็นต้องแยกผู้ป่วยหรือห้ามใกล้ชิดกับผู้อื่น

2. ในรายที่เป็นไม่มาก เช่น มีอาการคันเล็กน้อย อาจไม่จำเป็นต้องให้ยารักษาแต่อย่างใด และรอให้หายเองได้ภายใน 2-6 สัปดาห์

3. ควรแยกอาการผื่นพีอาร์ออกจากโรคอื่น ๆ เช่น ผื่นแจ้งโรค ต้องแยกออกจากโรคกลาก ส่วนผื่นแดงทั่วตัวต้องแยกจากโรคซิฟิลิส ระยะออกดอก ผื่นแพ้ยา ไข้ออกผื่น (มักมีไข้เป็นสำคัญ) เช่น หัด หัดเยอรมัน เป็นต้น


133
บ้านติดรถไฟฟ้า เดอะ ปาล์ม เรสซิเดนเซส วัชรพล (The Palm Residences Watcharapol)
เริ่มต้น 30 ลบ. - 40 ลบ. 

เดอะ ปาล์ม เรสซิเดนเซส วัชรพล (The Palm Residences Watcharapol)
The Palm Residences แห่งใหม่จาก พฤกษา เรียลเอสเตท โครงการบ้านเดี่ยวระดับซูเปอร์ลักชัวรี บนทำเลวัชรพล ภายใต้คอนเซ็ปต์ "The Mastery of Wellness and Exquisite Living" โดดเด่นด้วยสไตล์คลาสสิค French Hussmann เอกสิทธิ์ความเป็นส่วนตัวเพียง 40 ยูนิต พร้อมส่วนกลางที่คุ้มค่า

รายละเอียดโครงการ
 ชื่อโครงการ                  เดอะ ปาล์ม เรสซิเดนเซส วัชรพล (The Palm Residences Watcharapol)
 เจ้าของโครงการ            พฤกษา เรียลเอสเตท
 แบรนด์ย่อย                  เดอะ ปาล์ม
 ราคา                         เริ่มต้น 30 ลบ. - 40 ลบ.
 ประเภทบ้าน                 บ้านเดี่ยว
 ลักษณะทำเล               บ้านใกล้เมือง
 พื้นที่โครงการ             โปรดสอบถามข้อมูลกับทางโครงการ
 จำนวนบ้าน                40 หลัง
 แบบบ้านทั้งหมด         โปรดสอบถามข้อมูลกับทางโครงการ
  เนื้อที่บ้าน                โปรดสอบถามข้อมูลกับทางโครงการ
 พื้นที่ใช้สอย               โปรดสอบถามข้อมูลกับทางโครงการ
 จำนวนชั้น                  2 ชั้น
 หน้ากว้าง                  โปรดสอบถามข้อมูลกับทางโครงการ
 จำนวนห้องนอน          โปรดสอบถามข้อมูลกับทางโครงการ
 จำนวนที่จอดรถ           โปรดสอบถามข้อมูลกับทางโครงการ
 สาธารณูปโภค       สวนสาธารณะ, คลับเฮาส์, สระว่ายน้ำ, ฟิตเนส, รปภ., CCTV, อื่นๆ (Jacuzzi, พาวิลเลียน, Private Lounge, Grand Club), สนามเด็กเล่น, Jogging Track

สถานที่ใกล้เคียง
 โซน      แจ้งวัฒนะ, หลักสี่, ดอนเมือง, บางเขน
 ที่ตั้ง      ถนนวัชรพล แขวงท่าแร้ง เขตบางเขน กรุงเทพมหานคร 10220

 ขนส่งสาธารณะ
ใกล้รถไฟฟ้า, รถไฟฟ้าสายสีชมพู, สถานี(แคราย - มีนบุรี)(วัชรพล)
ใกล้รถไฟฟ้า, รถไฟฟ้าสายสีเขียวเข้ม, สถานี(หมอชิต - คูคต)(สายหยุด)
ใกล้ถนนสายหลัก (ถนนวัชรพล, ถนนวงแหวนรอบนอกตะวันออก)
ขนส่งอื่นๆ ท่าอากาศยานดอนเมือง

 สถานที่สำคัญใกล้เคียง
ศูนย์การค้า/ ไลฟ์สไตล์
1. คริสตัล ดีไซน์ เซ็นเตอร์ (CDC) 10.2 กม.
2. เซ็นทรัล เฟสติวัล อีสต์วิลล์ 10.8 กม.
3. เซ็นทรัล พลาซ่า ลาดพร้าว 16.5 กม.

สถานศึกษา
1. AUSTRALIAN INTERNATIONAL SCHOOL 0.8 กม.
2. LERTLAH SCHOOL 7.8 กม.
3. HARROW INTERNATIONAL SCHOOL 12 กม.
4. SINGAPORE INTERNATIONAL SCHOOL OF BANGKOK 13 กม.
5. BRIGHTON COLLEGE BANGKOK 15 กม.

สถานพยาบาล
1. โรงพยาบาลซีจีเอช 5.8 กม.
2. โรงพยาบาลพญาไท นวมินทร์ 7.3 กม.
3. โรงพยาบาลวิภาวดี 13.7 กม.
4. โรงพยาบาลกรุงเทพ 18.4 กม.
5. โรงพยาบาลสมิติเวช สุขุมวิท 19.8 กม.
6. โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ 24.5 กม.

 ปีที่สร้างเสร็จ
โปรดสอบถามข้อมูลกับทางโครงการ

134
mobile expo 2024: Nokia T20 แท็บเล็ตแอนดรอยด์รุ่นแรกของโนเกีย เข้าถึงทุกไลฟ์สไตล์

Nokia T20 แท็บเล็ตแอนดรอยด์รุ่นแรกจาก HMD และ Nokia ประเทศไทย ที่น่าจะมีหลายคนรอคอยอยู่ ซึ่งตอนนี้ก็มาทำตลาดไทยอย่างเป็นทางการแล้ว โดยจุดเด่นของแท็บเล็ตรุ่นนี้นอกจากเรื่องของวัสดุ งานออกแบบ ที่มีความคงทนและคุ้มค่าตามสไตล์โนเกียแล้ว ยังมีเรื่องของการเป็นแท็บเล็ตอเนกประสงค์ที่ตอบรับไลฟ์สไตล์ต่าง ๆ ได้ครบในราคาที่สามารถเข้าถึงได้

รวมถึงการดูแลด้านซอฟต์แวร์ด้วยการอัปเดทยาว ๆ 3 ปี ที่เป็นจุดเด่นของแบรนด์โนเกียด้วย ดังนั้นจึงเป็นแท็บเล็ตแอนดรอย์อีกรุ่นของตลาดหลักพันบาท ที่น่าสนใจและเหมาะสำหรับน้อง ๆ ที่กำลังมองหาแท็บเล็ตราคาไม่สูง แต่ให้ประสิทธิภาพการใช้งานที่ครบรอบด้านเป็นอย่างมาก ส่วนรายละเอียดอื่น ๆ ของตัวเครื่องจะเป็นอย่างไร? ตามกันต่อได้ในบทความนี้เลยครับ!!

แกะกล่อง (Unbox)
สำหรับอุปกรณ์เริ่มต้นใช้งานภายในกล่อง Nokia T20 นอกจากตัวเครื่องที่นอนอยู่ด้านบนสุดแล้ว จะมีสายชาร์จ USB-C , อแดปเตอร์ชาร์จไฟ, เข็มจิ้มซิม, ฟิล์มกันรอยใส, เคสแบบฝาพับและคู่มือการใช้งาน

รายละเอียดสเปกตัวเครื่อง
หน้าจอแสดงผล IPS LCD ขนาด 10.4 นิ้ว ความละเอียด 2000x1200 พิกเซล (อัตราส่วน 5:3 | Brightness 400 nits)
CPU Octa-core Unisoc T610 ความเร็ว 1.8GHz
GPU Mali G52 MP2
RAM 4GB
ROM 64GB
MicroSD Card 512GB
Android OS 11
กล้องถ่ายรูปความละเอียด 8MP (Auto Focus, Flash LED)
กล้องหน้าความละเอียด 5MP (Fixed Focus)
Bluetooth 5.0
รองรับการใช้งานเครือข่าย 4G LTE ผ่านซิมการ์ดแบบ Nano SIM
LTE Band : 1,3,5,7,8,20,28
TDD Band : 38,40
WiFi dual-band (2.4GHz,5GHz)
Headphone jack:3.5 mm
Location:GPS/AGPS
USB Type-C (USB 2.0)
WiFi : 802.11 a/b/g/n/ac
แบตเตอรี่ 8200 mAh (Fast Charge 15W)

รอบตัวเครื่อง (Design)
ภาพรวมของออกแบบตัวเครื่อง Nokia T20 ให้อารมณ์ที่เรียบง่าย คลาสสิก มีความมินิมอลพอสมควร และงานประกอบแน่นหนา รวมถึงวัสดุที่ใช้กับตัวเครื่องจับแล้วสัมผัสได้ว่ามีคุณภาพตามสไตล์สแกนดิเนเวียนตามแบบฉบับโนเกียที่ไว้ใจในเรื่องนี้ได้เหมือนเดิม ตัวเครื่องมีขนาดกว้าง 157.6 x ยาว 247.6 x หนา 7.8 มิลลิเมตร มีน้ำหนักตัวเครื่องรวม 465 กรัม

ด้านหน้าตัวเครื่องมีหน้าจอแสดงผล IPS LCD ขนาด 10.4 นิ้ว ความละเอียด 1200x2000 พิกเซล (224 ppi) มีค่าความสว่าง 400 nits และมีฟีเจอร์บูสความสว่างขึ้น ทำให้สามารถใช้งานกลางแจ้งหรือในสภาพแวดล้อมที่มีแสงจ้าได้ โดยที่เรายังมองเห็นรายละเอียดของหน้าจอได้ชัดในระดับ 60-70% ส่วนการแตะสัมผัสสามารถแตะหรือลากนิ้วได้ลื่นติดนิ้ว ไม่รู้สึกหน่วงหรือต้องลากนิ้วหลายครั้งให้หงุดหงิด ขยับขึ้นไปด้านบนจะเป็นตำแหน่งของกล้องหน้าความละเอียด 5MP ใช้ระบบโฟกัสภาพแบบ Fixed Focus


ด้านบนตัวเครื่อง มีปุ่มกดปรับระดับเสียงเพิ่ม-ลด (Volume), ไมค์ตัดเสียงรบกวนสองตำแหน่ง และช่องถาดซิมการ์ด 2 slot แบ่งเป็นช่องสำหรับใส่ซิมการ์ด เพื่อใช้งานดาต้า และช่องสำหรับ MicroSD Card รองรับสูงสุดที่ 512GB


ด้านซ้ายตัวเครื่อง มีปุ่มกดเปิด-ปิดตัวเครื่อง (Power) และลำโพงเสียง OZO Audio

ด้านขวาตัวเครื่อง มีลำโพงเสียง OZO Audio ทำงานร่วมกับลำโพงฝั่งซ้ายในการสร้างมิติเสียงแบบสเตอริโอ ขยับลงมาจะเป็นพอร์ต USB-C และช่องรูเสียบชุดหูฟังแบบ 3.5 มิลลิเมตร วางตำแหน่งไว้ตรงมุมเครื่องพอดี ซึ่งมีข้อดีตรงเวลาเราเสียบสายหูฟังเพื่อใช้งาน ตัวสายหูฟังจะไม่งอหรือโดนกดทับเวลาใช้งาน

ด้านหลังตัวเครื่อง ฝาหลังใช้วัสดุเป็น Aluminium เพราะฉะนั้นเวลาถือหรือจับจะเกิดรอยคราบน้ำมันจากนิ้วมือเราได้ง่าย แต่ให้ความแข็งแรงและพรีเมี่ยม ส่วนมุมซ้ายจะเป็นตำแหน่งของกล้องถ่ายรูปความละเอียด 8MP มีระบบโฟกัสภาพแบบ Auto Focus

ใช้งานยาวนานด้วย Android OS แบบเพียว ๆ พร้อมการันตีอัปเดทยาว 3 ปี
ในด้านของซอฟต์แวร์ เมื่อเปิดเครื่องใช้งานก็จะพบกับระบบปฏิบัติการ Android OS เวอร์ชั่น 11 ซึ่งรองรับการอัปเดทขึ้น Android 12 ในอนาคตด้วย และทาง Nokia ไม่ได้ใส่ UI ใด ๆ ครอบทับเข้ามา ดังนั้นประสบการณ์การใช้งานทั้งหมดบนตัวเครื่องจะเป็นสไตล์ "Pure Android" จากทาง Google โดยตรง การใช้งานจึงไม่มีความซับซ้อน สามารถเริ่มต้นใช้งานได้ง่ายด้วยตัวคนเดียว

นอกจากนี้ Nokia T20 ยังได้รับการการันตีจากทาง Nokia ในการได้รับการอัปเดทซอฟต์แวร์ Android OS ยาวนานถึง 2 ปี หรือ 2 เวอร์ชั่น และได้รับการอัปเดทแพทความปลอดภัยทุกเดือนต่อเนื่องถึง 3 ปี ซึ่งเป็นแท็บเล็ตแอนดรอยด์เพียงแบรนด์เดียวในช่วงราคานี้ ทำให้ข้อมูลของคุณจะปลอดภัย และแท๊ปเล็ตจึงใหม่อยู่เสมอ

โดยข้อดีของการได้รับการันตีอัปเดทนานถึง 3 ปี แบบนี้ นอกจากเรื่องของความคุ้มค่า ที่เราจะสามารถใช้งานตัวเครื่องเหมือนใหม่อยู่ตลอดเวลาจากการได้อัปเดทเวอร์ชั่นแอนดรอยด์ได้นานถึง 2 ปี หรือ 2 เวอร์ชั่น แล้ว ยังมีเรื่องของความปลอดภัยในการใช้งานบนตัวเครื่อง ที่จะได้รับการปกป้องจากโลกออนไลน์อยู่ตลอดเวลาด้วยการอัปเดทแพทความปลอดภัยทุกเดือนตลอด 3 ปี ที่ใช้งานด้วยครับ ซึ่งเป็นสิ่งที่สำคัญมาก ๆ ในยุคนี้เลย
เพราะทุกครั้งที่เราอัปเดทแพทความปลอดภัยตัวเครื่องของเราก็จะเหมือนเสริมเหล็กให้ป้อมปราการบนเครื่องของเราให้แน่นหนาอยู่ตลอดเวลา ทำให้ยามที่เราต้องทำธุรกรรมออนไลน์บนตัวเครื่องก็จะอุ่นใจและมั่นใจได้ด้วยนั่นเอง ซึ่งเป็นจุดเด่นที่มีเพียงแท็บเล็ตโนเกียเจ้าเดียวในตลาดช่วงราคานี้ที่ให้ได้นะ

เข้าถึงทุกไลฟ์สไตล์ ในราคาไม่เกินหมื่นบาท (Highlights)
เรียนออนไลน์, ทำงาน หรือจะใช้พักผ่อนยามว่างก็ทำได้ลงตัว
Nokia T20 เป็นแท็บเล็ตแอนดรอยด์ที่สามารถตอบสนองต่อความต้องการใช้งานในหลาย ๆ รูปแบบได้ดีเกินคาดเลยล่ะครับ ซึ่งถ้าประเมินจากฮาร์ดแวร์ก็ยอมรับว่าส่วนตัวคิดว่าน่าจะทำได้ในระดับ Basic หรือการใช้งานระดับพื้นฐานเท่านั้น แต่จากที่ผมได้ลองใช้ทำงาน เล่นเกม หรือด้านเอ็นเตอร์เทรน ตัวเครื่องกลับสามารถทำงานในระดับที่สูงกว่าได้ด้วย อย่างการเปิดภาพถ่ายระดับความละเอียด 720P หรือ 1080P เพื่อแต่งรูปหลาย ๆ รูป ด้วย Adobe Lightroom หรือจะเป็นการเปิดไฟล์เอกสาร PDF ที่มีขนาดไฟล์ที่ใหญ่ ก็สามารถเปิดอ่านได้โดยใช้เวลาไม่นาน เป็นต้น

ด้านดูหนัง ฟังเพลง จัดว่าเป็นแท็บเล็ตที่มีความจัดจ้านเกินราคาในด้านนี้อยู่เหมือนกันครับ เพราะลำโพงสเตอริโอที่ติดตั้งมา ให้คุณภาพที่ดีทีเดียว ตัวลำโพงให้กำลังขับที่กำลังดีไม่เบาและไม่หนาหรือดังจนเกินไป สามารถเปิดฟังในห้องส่วนตัวคนเดียวแบบได้อรรถรสด้วยระดับเสียงเพียง 30-40% เท่านั้น รวมทั้งยังมีเทคโนโลนีเสียง OZO Audio ที่เคยถูกใช้อยู่บนสมาร์ตโฟนระดับท็อปหลายรุ่นของโนเกียด้วย

จึงทำให้ลำโพงเสียงที่อยู่บน Nokia T20 มีความฉลาดและสามารถขับเสียงที่โอบล้อมและเหมาะสมกับผู้ใช้งานได้ดีมากขึ้นด้วย ส่วนการรับชมคอนเทนท์บน Youtube ตัวเครื่องสามารถรองรับความละเอียดได้สูงสุดที่ 1080P ในขณะที่บน Netflix จะรองรับแค่ 480P เท่านั้น เพราะเป็น Widevine L3

ส่วนการเล่นเกม ตัวเครื่องสามารถเล่นเกมหนัก ๆ อย่าง Alphalt 9 หรือเกมแนว MMORPG เช่น ROM, ROX ที่ต้องใช้ทรัพยากรเครื่องค่อนข้างมากในการประมวลผลได้นะครับ เพียงแต่คุณภาพของภาพในตัวเกมอาจจะไม่ได้เต็มอิ่มมากเท่าไรนัก แต่ก็เพียงพอที่จะรู้สึกสนุกไปกับคอนเทนท์ของตัวเกมได้

ทดสอบประสิทธิภาพตัวเครื่องด้วยคะแนนแอปพลิเคชั่น Benchmark
ทดสอบประสิทธิภาพด้วยแอปพลิเคชั่น Antutu Benchmark ได้คะแนนรวม 193,386 คะแนน
ทดสอบประสิทธิภาพด้วยแอปพลิเคชั่น Geekbench 5 ได้คะแนน Single Core 347 คะแนน และ Multi-core 1218 คะแนน
ทดสอบการรองรับการแสดงผล High Definition บนสตรีมมิ่งวีดีโอ (Netflix) ผลเป็น Security Level L3

อุ่นใจกับน้อง ๆ ด้วย Kid Space และความปลอดภัยระดับองค์กร
Nokia T20 เป็นแท็บเล็ตแอนดรอยด์ที่ได้รับการการันตีจากทาง Google ว่าผ่านมาตรฐาน Android Enterprise Recommended (AER) หรือมาตรฐานอุปกรณ์แอนดรอยด์ที่เหมาะสำหรับใช้งานในองค์กรหรือหน่วยงานได้ ซึ่งทาง Google จะพิจารณาจากปัจจัยที่อุปกรณ์นั้น ๆ ได้รับการอัปเดทแพทความปลอดภัยอย่างสม่ำเสมอ และสามารถใช้งานร่วมกับอุปกรณ์อื่น ๆ ในองค์กรได้อย่างลงตัว รวมถึงสามารถเข้าถึงบริการต่าง ๆ จากทาง Google เพื่อการบริหารจัดการได้ ดังนั้นถ้านำ Nokia T20 มาใช้งานในภาคของผู้บริโภคก็ช่วยการันตีได้เลยว่าเป็นอุปกรณ์ที่มีความอเนกประสงค์และความปลอดภัยในการใช้งานอยู่ในระดับสูง!!

นอกจากตัวเครื่องมีความปลอดภัยระดับสูงแล้ว Nokia T20 ยังมีโหมด "Kid Space" โหมดสำหรับคุณพ่อคุณแม่หรือผู้ใหญ่ที่ต้องการดูแลเด็ก ๆ ในการใช้งานอุปกรณ์ไม่ให้ออกนอกลู่นอกทาง โดยโหมดนี้จะเปิดให้คุณพ่อคุณแม่สามารถตรวจสอบคอนเทนท์ต่าง ๆ บนโลกออนไลน์หรือบนตัวเครื่องให้กับน้อง ๆ ในการใช้งานได้ตลอดเวลา รวมทั้งยังสามารถติดตามการใช้งานบนตัวเครื่องได้ด้วยนะว่า ใช้งานไปนานเท่าไร, เปิดอะไรดูบ้าง, มีการเข้าใช้งานอินเทอร์เน็ตไหม หรือดาวน์โหลดแอปพลิเคชั่นอะไรมาลงบ้าง เป็นต้น ซึ่งน่าจะช่วยให้คุณพ่อคุณแม่อุ่นใจมากขึ้นกับการใช้งานของเด็ก ๆ


ใช้งานได้นานด้วยแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ 8200 mAh และใช้งานดาต้า 4G LTE ได้ในตัว
Nokia T20 เป็นแท็บเล็ตที่มีแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ถึง 8,200 mAh เลยนะครับ ซึ่งจากที่ผมลองทดสอบใช้งานคือ มีเล่นโซเชียล, ฟังเพลงออนไลน์, ดูสตรีมมิ่งคอนเทนท์จาก Youtube, มีประชุมออนไลน์บ้างสัก 10-15 นาที และมีเล่นเกมบ้าง ใช้งานตั้งแต่เช้าจนกลับบ้านตอนดึกพลังงานของแบตเตอรี่ยังมีเหลือประมาณ 50-60% ซึ่งสามารถนำไปใช้งานต่อในวันรุ่งขึ้นได้เลย ถือว่าอึดอยู่นะครับ ส่วนเรื่องของการชาร์จไฟกลับเข้าสู่ตัวเครื่อง Nokia T20 รองรับการชาร์จไว 15W ซึ่งถ้าหากเริ่มชาร์จจาก 0% จนถึง 100% จะใช้เวลาชาร์จประมาณ 2-3 ชั่วโมงจนเต็ม นอกจากนี้ Nokia T20 ยังรองรับการใช้งานดาต้าจากเครือข่าย 4G LTE ในตัวเลยนะ เพียงแค่ใส่ซิมการ์ดที่รองรับเข้าไปในตัวเครื่อง

กล้องถ่ายรูป 8MP ใช้งานง่าย เหมาะใช้งานทั่วไป
Nokia T20 มีกล้องถ่ายรูปหลักบนตัวเครื่องเพียงตัวเดียว โดยมีความละเอียดอยู่ที่ 8MP ใช้ระบบโฟกัสภาพแบบออโต้โฟกัส ทำงานร่วมกับไฟแฟลช LED 1 ดวง เมื่อต้องการแสงช่วยเวลาถ่ายภาพ ซึ่งผลงานของภาพถ่ายหลังกล้องจากที่ผมได้ลองทดสอบถ่ายดู น่าจะเหมาะสำหรับใช้ถ่ายภาพเพื่อทำงาน หรือแชร์เรื่องราวของคอนเทนท์ให้เพื่อน ๆ บนโซเชี่ยลมากกว่า

ส่วนกล้องหน้าจะเป็นกล้องแบบ Single camera ด้วยเช่นกัน มีความละเอียด 5MP ระบบโฟกัสเป็นแบบ Fixed Focus ดังนั้นถ้าหากเราเข้าใกล้หรือขยับออกจากระยะโฟกัสของกล้องใบหน้าก็จะเบลอทันทีนะครับ ส่วนความชัดอยู่ในระดับการใช้งานสามารถ VDO Call ได้รู้เรื่องแน่นอน และหน้าตาเมนูการใช้งานของตัวกล้องก็เรียบง่าย ไม่มีความซ้ำซ้อนอะไรเลย เชื่อว่ามือใหม่ น้อง ๆ หรือคุณพ่อคุณแม่สามารถเริ่มต้นใช้งานได้ไม่ยากเลย ลองไปชมภาพตัวอย่างจากกล้องของ Nokia T20 กันครับ


135
รับผลิตชุดยูนิฟอร์มทุกประเภท
บริการจริงใจ ใส่ใจลูกค้า ราคายุติธรรม
รับผลิตและแนะนำรูปแบบชุดยูนิฟอร์มบริษัท อาทิเช่น เสื้อยืดคอกลม เสื้อยืดโปโล ชุดช็อป เสื้อแจ๊กเก็ต และ ชุดยูนิฟอร์มพนักงานในสำนักงาน โดยสามารถสั่งตัดตามไซส์ของแต่ละบุคคลได้ รวมถึงสินค้าพรีเมี่ยมต่างๆ เช่น ผ้ากันเปื้อน กระเป๋าผ้า หมวก เป็นต้น

ยูนิฟอร์ม ชุดยูนิฟอร์มพนักงาน

ยูนิฟอร์ม ชุดยูนิฟอร์มพนักงาน “ยูนิฟอร์ม” หรือ Uniform ในภาษาอังกฤษคือเสื้อผ้าหรือชุดที่พนักงานหรือกลุ่มคนบางๆ สวมใส่เพื่อแสดงตัวตนหรือตำแหน่งที่มีอยู่ เพื่อความสะดวกในการระบุและการระบายตัวเองในบริบทที่ต่างๆ ชุดยูนิฟอร์มของพนักงานมักจะมีการออกแบบเพื่อสอดคล้องกับลักษณะงานและศิลปะแบรนด์ขององค์กรหรือธุรกิจที่ต่างกันไปได้ เช่น ชุดยูนิฟอร์มของพนักงานโรงแรมจะแตกต่างกับชุดยูนิฟอร์มของพนักงานในโรงงานผลิตสินค้า หรือพนักงานบริการในร้านค้า
การออกแบบชุดยูนิฟอร์มมักเน้นความสะดวกสบายในการใช้งานร่วมกับการสื่อสารและการติดต่อระหว่างพนักงานและลูกค้า การเลือกใช้วัสดุที่เหมาะสมและการออกแบบที่สวยงาม เป็นต้น
การตัดต่อยูนิฟอร์มขึ้นอยู่กับลักษณะของธุรกิจหรือกิจการ การให้ความสำคัญกับความสะอาดและการบำรุงรักษาก็เป็นสิ่งที่สำคัญในการรักษาคุณภาพของยูนิฟอร์มให้ดูดีและสวยงามตลอดเวลาในการใช้งานประจำวันของพนักงานทุกคนในองค์กรหรือธุรกิจนั้นๆ
ยูนิฟอร์ม (Uniform) เป็นชุดเครื่องแบบที่พนักงานสวมใส่เพื่อแสดงตัวตนและตำแหน่งของพวกเขาในองค์กรหรือธุรกิจ เขาแสดงถึงความเป็นเอกลักษณ์และความเชื่อมโยงของพนักงานกับบริษัทหรือองค์กรนั้น ๆ
ชุดยูนิฟอร์มของพนักงานสามารถแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับอุตสาหกรรมและบริษัท ยกตัวอย่างเช่น:
ในโรงแรม พนักงานบริการอาจมีชุดยูนิฟอร์มที่ประกอบไปด้วยเสื้อโปโลและกางเกงขายาวหรือกระโปรง
ในธุรกิจทางการแพทย์ พวกเขาอาจสวมเสื้อคลุมเพื่อป้องกันและอุ่นใจให้กับผู้ป่วยและลูกค้า
ในธุรกิจแห่งการบิน พนักงานสายการบินอาจมีชุดยูนิฟอร์มที่รวมถึงเครื่องแต่งกายสมบูรณ์ รวมถึงเครื่องประดับและเครื่องแต่งกายพิเศษเพื่อเน้นความสวยงามและความเรียบร้อย
ชุดยูนิฟอร์มมักจะถูกออกแบบเพื่อสะท้อนภาพลักษณ์ของบริษัทหรือองค์กร และมักจะมีการกำหนดเอกลักษณ์ที่ชัดเจนเพื่อให้ลูกค้าหรือผู้บริโภคสามารถระบุและรู้จักพนักงานได้ง่ายขึ้นด้วยการมองเห็นชุดยูนิฟอร์มที่สวมใส่และการปฏิสัมพันธ์กับพนักงานในตำแหน่งต่าง ๆ ในองค์กรนั้น ๆ อย่างมั่นใจได้ในการตอบสนองและบริการลูกค้าในทางที่เหมาะสมและมีคุณภาพ

ทางบริษัทจัดนำเสนอข้อมูลให้กับลูกค้าอย่างละเอียด จนลูกค้าเข้าใจและสามารถเลือกใช้วัตถุดิบได้เหมาะสมกับการใช้งานได้อย่างคุ้มค่า คุ้มราคา และพึงพอใจ ตามที่ลูกค้าต้องการ
สนใจ สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
Line ID : uniform
โทร      : 02-583-7598
E-mail  : casuniform@yahoo.com
เว็บไซด์: https://uniformdeluxe.com/


หน้า: 1 ... 7 8 [9] 10 11 ... 41





















































รวมเว็บลงประกาศฟรี ล่าสุด
รวมเว็บประกาศฟรี
โพสต์ขายของฟรี
ลงโฆษณาสินค้าฟรี
โฆษณาฟรี
ประกาศฟรี
เว็บฟรีไม่จำกัด
ทำ SEO ติด Google
ลงประกาศขาย
เว็บฟรียอดนิยม
โพสโฆษณา
ประกาศขายของ
ประกาศหางาน
บริการ แนะนำเว็บ
ลงประกาศ
รวมเว็บประกาศฟรี
รวมเว็บซื้อขาย ใช้งานง่าย
ลงประกาศฟรี ทุกจังหวัด
ต้องการขาย
ปล่อยเช่า บ้าน คอนโด ที่ดิน
ขายบ้าน คอนโด ที่ดิน
ประกาศฟรี ไม่มี หมดอายุ
เว็บประกาศฟรี ติดอันดับ
ฝากร้านฟรี โพ ส ฟรี
ลงประกาศฟรี กรุงเทพ
ลงประกาศฟรี ทั่วไทย
ลงประกาศโฆษณาฟรี
ลงประกาศฟรี 2023
รวมเว็บลงประกาศฟรี

รวม SMFขายสินค้า
ประกาศฟรีออนไลน์
ลงประกาศ สินค้า
เว็บบอร์ด โพสต์ฟรี
ลงประกาศ ซื้อ-ขาย ฟรี
ชุมชนคนไอทีขายสินค้า
ลงประกาศฟรีใหม่ๆ 2023
โปรโมทธุรกิจฟรี
โปรโมทสินค้าฟรี
แจกฟรี รายชื่อเว็บลงประกาศฟรี
โปรโมท Social
โปรโมท youtube
แจกฟรี รายชื่อเว็บ
แจกฟรีโพสเว็บบอร์ดsmf
เว็บบอร์ดsmfโพสฟรี
รายชื่อเว็บบอร์ดขายสินค้าฟรี
ลงประกาศฟรี เว็บบอร์ด
เว็บบอร์ดขายสินค้าฟรี
ฟรี เว็บบอร์ด แรงๆ
โพสขายสินค้าตรงกลุ่มเป้าหมาย
โฆษณาเลื่อนประกาศได้
ขายของออนไลน์
แนะนำ 6 วิธีขายของออนไลน์
อยากขายของออนไลน์
เริ่มต้นขายของออนไลน์
ขายของออนไลน์ เริ่มยังไง
ชี้ช่องขายของออนไลน์
การขายของออนไลน์
สร้างเว็บฟรีประกาศ

smf โพสฟรี
smf ขายของออนไลน์อะไรดี
smf โพสฟรี
อยากขายของออนไลน์ smf
ขายของออนไลน์ยังไงให้มีคนซื้อ
smf เริ่มต้นขายของออนไลน์
ไอ เดีย การขายของออนไลน์
เว็บขายของออนไลน์
เริ่ม ขายของออนไลน์ โพสฟรี
smf ขายของออนไลน์ที่ไหนดี
เทคนิคการโพสต์ขายของ
smf โพสต์ขายของให้ยอดขายปัง
โพสต์ขายของให้ยอดขายปังโพสฟรี
smf ขายของในกลุ่มซื้อขายสินค้า
โพสขายของยังไงให้มีคนซื้อ
smf โพสขายของแบบไหนดี
โพสฟรีแคปชั่นโพสขายของยังไงให้ปัง
smf แคปชั่นแม่ค้าออนไลน์
แคปชั่นแม่ค้าออนไลน์ โพสฟรี
ขายของให้ออร์เดอร์เข้ารัว ๆ
smf โพสต์เรียกลูกค้า
โพสต์เรียกลูกค้าโพสฟรี
smf ขายของออนไลน์ให้ปัง
smf โพสต์ขายของ
smf เขียนโพสขายของโดนๆ
แคปชั่นเปิดร้าน โพสฟรี
smf วิธีโพสขายของให้น่าสนใจ
วิธีเพิ่มยอดขาย โพสฟรี
smf เทคนิคเพิ่มยอดขาย

เพิ่มยอดขายให้เข้าเป้า
เว็บบอร์ดฟรี
โปรโมทฟรี
มีลูกค้าเพิ่ม - YouTube
ผลักดันยอดขายโปรโมทฟรี
โปรโมทผลักดันยอดขาย
โปรโมทแผนการเพิ่มยอดขายให้ได้ผล
โปรโมทวิธีการวางแผนการเพิ่มยอดขาย
ยอดขายไม่ดีควรทำอย่างไร
ยอดขายตกเกิดจากอะไร
ทำไมต้องเพิ่มยอดขาย
ขายฟรี
ยอดการขาย คืออะไร
กลยุทธ์เพิ่มยอดขาย
โพสฟรีการกระตุ้นยอดขาย
โปรโมทกระตุ้นยอดขาย
โปรโมทฟรีออนไลน์กระตุ้นยอดขาย
ประกาศฟรีเพิ่มยอดขาย
ลงประกาศเพิ่มยอดขาย
ฝากร้านฟรีเพิ่มยอดขาย
ลงประกาศฟรีใหม่ ๆ เพิ่มยอดขาย
เว็บประกาศฟรีเพิ่มยอดขาย
Post ฟรี
ประกาศขายของฟรี
ประกาศฟรี
โพส SEO
ลงโฆษณาฟรี
โปรโมทเพจร้านค้า