แสดงกระทู้

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.


Messages - guupost

หน้า: [1] 2 3 ... 7
1


ที่นอนเด็กเพื่อสุขภาพนั้นมีหลากหลายแบบ แต่ถ้าจะให้ใช้งานอย่างตอบโจทย์ เสนอแนะว่าให้เลือกเหมาะสมกับอายุของแต่ละช่วงวัย ซึ่งแต่ละช่วงวัยก็จะมีลักษณะการใช้งานที่แตกต่างกันนั่นเอง แต่อายุเท่าไหร่ควรใช้งานอย่างไร เราไปติดตามรายละเอียดพร้อม ๆ กันได้เลย รับประกันว่าการนอนหลับของลูกน้อยต่อจากนี้จะเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ
ลักษณะที่นอนเด็กเพื่อสุขภาพที่เหมาะสมกับช่วงวัย
1. ลักษณะที่เหมาะสมสำหรับเด็กทารก อายุแรกเกิด – 1 ปี
อายุแรกเกิด – 1 ปี แนะนำว่าให้ใช้ที่นอนเด็กทารกที่มีคุณสมบัติที่สามารถถ่ายเทอากาศได้เป็นอย่างดี ระบายความร้อนสะดวกสบาย หรือนอนหายใจผ่านไปได้ง่าย ๆ ไม่นิ่งมากจนเกินไป เพราะหากลูกน้อยมีขนาดตัวที่เล็กกว่าแล้วคว่ำออกมาก็อาจจะหน้าจมที่นอนแล้วขาดอากาศหายใจ รุนแรงจนถึงขั้นเสียชีวิตได้ ทั้งตัวที่นอนควรต้องเช็ดล้างทำความสะอาด และต้องทำได้สะดวกด้วย ไม่มีไรฝุ่นสะสม ทำให้ผิวเจ้าตัวน้อยเกิดระคายเคือง พร้อมลดอัตราการเกิดของโรคภูมิแพ้ได้ดี ทั้งตัวที่นอนต้องรองรับสรีระเด็กได้ดีไปอีก
2. ลักษณะที่เหมาะสมสำหรับเด็ก อายุ 1 – 3 ปี
ในส่วนของเด็กที่มีอายุ 1 – 3 ปีจะเป็นช่วงของการใช้สมอง และร่างกายที่มีการพัฒนารวดเร็ว การเลือกที่นอนก็จะต่างจากเบาะนอนทารกจึงต้องใส่ใจเลือกสรรเป็นพิเศษ โดยคุณสมบัติที่เหมาะจึงควรต้องมีขนาดที่เหมาะกับสรีระร่างกาย ไม่เล็ก ไม่ใหญ่จนเกินไป เพื่อลดแรงกดทับกล้ามเนื้อขณะที่กำลังนอนหลับ ตัวที่นอนสามารถถ่ายเทอากาศได้เป็นอย่างดี ไม่เกิดอาการอับชื้น หรือร้อน เพื่อช่วยให้เกิดการนอนหลับที่สนิทมากยิ่งขึ้น ที่นอนก็ต้องถ่ายเทอากาศได้ดี เพื่อช่วยเจ้าเด็กไม่ร้อน ผิวหนังไม่เกิดการระคายเคือง รวมทั้งที่นอนควรต้องเช็ดทำความสะอาดง่ายด้วย เพื่อไม่เป็นแหล่งสะสมสิ่งสกปรก หรือไรฝุ่น
3. ที่นอนเพื่อสุขภาพสำหรับเด็กโต อายุ 3+ ปี
สุดท้ายก็จะเป็นที่นอนเพื่อสุขภาพที่เหมาะกับเด็กอายุในวัย 3 ปีขึ้นไปจะไม่ซีเรียสเท่ากับเด็กแรกเกิด – 3 ปี เนื่องด้วยเด็กโตสามารถช่วยเหลือตัวเองได้มากขึ้นแล้ว ทางที่ดีผู้ปกครองต้องเลือกซื้อให้เหมาะสมกับน้ำหนักและร่างกายของเด็ก เพื่อให้การนอนหลับเต็มประสิทธิภาพ เสนอแนะให้เลือกเตียงขนาด 3.5 ฟุต ที่จะเหมาะมากที่สุด และควรเลือกซื้อที่นอนที่ทำความสะอาดง่ายๆ อย่างที่นอนยางพารา เป็นต้น แต่ราคาอาจจะสูงกว่าที่นอนทั่วไปซึ่งต้องพิจารณาเลือกสิ่งที่เหมาะสมที่สุด

และทั้งหมดนี้ก็เป็นลักษณะที่นอนเด็กเพื่อสุขภาพที่พอเหมาะกับช่วงวัย ซึ่งคุณสามารถเลือกซื้อได้เลยตามต้องการ ยุคปัจจุบันมีหลายแบรนด์ให้เลือกสรร ยังไงก็ลองพิจารณาจากคุณสมบัติ ขนาด ฟังก์ชันการใช้งานดูก่อน รวมทั้งต้องตอบโจทย์การเงินตัวเองด้วย เพื่อผลลัพธ์ที่ไม่ผิดหวัง

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
Official Website : https://www.homepro.co.th/c/MOM0401

2


สำหรับการใช้งานคอกกั้นเด็กนั้นปฏิเสธไม่ได้เลยว่ามีหลายบ้านที่นิยมเลือกใช้งานกัน แต่กระนั้นก็มีสิ่งที่ต้องทราบอย่างข้อควรระวังในด้านการใช้งานมาเล่าสู่กันฟัง เพื่อความปลอดภัยต่อลูกน้อย และเราก็จะได้วางใจในการใช้งานมากขึ้นด้วย แล้วจะมีข้อมูลอย่างไรบ้าง เราไปติดตามรายละเอียดพร้อม ๆ กันดีกว่า
จะใช้งานคอกกั้นเด็ก ต้องทราบถึงข้อควรระวังเหล่านี้
แม้ว่าการใช้งานคอกเด็กจะมีประโยชน์มากมายโดยเฉพาะเรื่องของความปลอดภัย แต่กระนั้นก็มีในเรื่องของข้อควรระวังที่ต้องรู้เอาไว้ด้วย เพื่อให้การใช้งานมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
1. ระวังเรื่องขนาดของคอก
ข้อแรกที่ให้รู้ถึงข้อควรระวังในการใช้งานก็คือขนาดของคอกที่มี ต้องวัดให้พอดีกับพื้นที่ที่เราจะวางด้วย ไม่ใช่ว่าพื้นที่บ้านมีขนาดเล็กแต่เลือกผิดไปซื้อคอกที่มีขนาดใหญ่ ก็อาจจะไม่เหมาะสม วางใช้งานไม่ได้ หรือมีปัญหาเรื่องคับแคบตามมาในอนาคต
2. ต้องรู้จักนิสัยของลูกน้อยด้วย
เนื่องจากเด็กแต่ละคนนั้นมีลักษณะนิสัยที่ต่างกันออกไป เด็กบางคนก็สามารถอยู่ในพื้นที่จำกัดได้ แต่เด็กบางคนก็ไม่ชอบการจำกัดพื้นที่ และอาจจะทำให้เกิดปัญหาอึดอัด ร้องไห้งอแงขณะที่ต้องอยู่ภายในคอก แม้จะเป็นคอกกั้นทารกก็ตาม ก็จะทำให้เราไม่สามารถเอาลูกไว้ได้ก็จะกลายเป็นเสียเงินโดยใช่เหตุ
3. อยู่ในคอกมากเกินไปอาจจำกัดการเรียนรู้
ด้วยความที่เราให้เจ้าตัวน้อยอยู่แต่ในคอก ซึ่งการอยู่เป็นเวลานาน อยู่มาก ๆ ไม่ได้ออกเดิน คลาน หรือทำกิจกรรมอื่น ไม่ได้สำรวจสิ่งแวดล้อม ก็จะกลายเป็นการจำกัดการเรียนรู้ที่มีภายนอกของเด็ก ๆ ได้นั่นเอง
4. อาจส่งผลต่อสภาพจิตใจเด็กได้
เป็นอีกข้อควรระวังที่คุณพ่อคุณแม่ ผู้ปกครองต้องรู้และเข้าใจไว้ ก็คือการใช้งานคอกอาจจะส่งผลกระทบต่อจิตใจลูกน้อยได้ ยิ่งบ้านไหนที่ต้องทำอะไรห่าง ๆ ลูกที่อยู่ในคอก ลูกไม่ค่อยมองเห็นเรา เหตุเพราะอาจจะทำให้เด็กรู้สึกโดดเดี่ยว เศร้าหมอง ด้วยเหตุว่ามีการจำกัดพื้นที่สภาพแวดล้อมภายนอก
5. วางของภายในคอกตามความเหมาะสมช่วงวัย
สุดท้ายหากเด็กเริ่มที่จะพลิกตัวเองได้แล้ว ไม่แนะนำให้ใช้คอกที่มีฟูก ตุ๊กตา หรือหมอนอยู่ภายใน ก็เพราะว่ามีโอกาสที่เด็กจะพลิกตัวแล้วไปกดทับสิ่งเหล่านี้ทำให้หายใจไม่ออกและอาจรุนแรงจนถึงขั้นเสียชีวิตได้

เมื่อทราบแบบนี้แล้วก็หวังว่าทุก ๆ ท่านจะสามารถเลือกสิ่งที่ดีที่สุดอย่างคอกกั้นเด็กให้กับลูกน้อยอย่างเต็มประสิทธิภาพ และไม่เป็นปัญหาทั้งด้านร่างกาย สภาพจิตใจในอนาคตได้ เราเองก็มีความสุขเมื่อเห็นเจ้าตัวน้อยมีความสุข จริงไหมล่ะ..?

ดูสินค้าเพิ่มเติมได้ที่
Official Website : https://www.homepro.co.th/c/MOM0102

3


แมวจัดว่าเป็นสัตว์ช่างเลือก ช่างกิน โดยที่มีความชื่นชอบของอาหารที่หลากหลาย มีทั้งรูปแบบปลาทูน่า แซลมอน ไก่ กุ้ง และอื่น ๆ กระนั้นสิ่งที่ไม่อาจมองข้ามก็คือปัจจัยการเลือกโดยเฉพาะอย่างยิ่งอาหารอย่างอาหารแมวเปียก และเพื่อให้มีประสิทธิภาพดีมากยิ่งขึ้น เราไม่รอช้าที่จะพาไปศึกษารายละเอียดเพิ่มเติม ว่าแล้วก็ตามมาทางนี้โดยด่วน
ปัจจัยก่อนเลือกซื้ออาหารแมวเปียกที่ควรรู้
1. ช่วงวัยของแมว
เริ่มต้นก็คือเรื่องของช่วงวัยที่มีแตกต่างกันและก็จะสัมพันธ์กับอาหารด้วย อย่างลูกแมวที่เกิด 6 สัปดาห์ยังไม่สามารถเคี้ยวและย่อยอาหารได้ ก็จะให้ทานเป็นโคลอสตรุมหรือน้ำนมแม่ และเมื่อลูกแมวเติบโตก็จะเปลี่ยนมาให้เป็นอาหารเม็ด หรืออาหารเปียกแมวได้ ทั้งนี้ เจ้าเหมียวอาจจะสูญเสียความสามารถในการย่อยน้ำตาลแลคโตสในนม ก็จะไม่แนะนำให้แมวโตกินนม เหตุเพราะการย่อยจะไม่ดีเท่าน้องแมวช่วงวัยอื่นนั่นเอง
2. คุณค่าทางโภชนาการ
ต่อมาก็คือเรื่องของคุณค่าทางโภชนาการที่แบ่งออกเป็นอาหารที่มีครบถ้วน และแบบเสริม ที่หากเป็นรูปแบบครบถ้วนก็จะเหมาะกับลูกแมวที่กำลังโต และแมวโตเต็มวัยแล้ว เพราะจะมีสารอาหารสำคัญต่าง ๆ รวมถึงโปรตีน ไขมันสูง ส่วนอาหารแบบเสริมก็จะเพิ่มเติมจากอาหารหลัก โดยที่จะต้องได้รับคำแนะนำจากสัตวแพทย์ก่อน
3. ภาวะสุขภาพ
การเลือกอาหารให้น้องแมวก็ต้องดูที่เรื่องของภาวะสุขภาพ หรือสภาพร่างกายที่ดีด้วย เจ้าของควรมีการสังเกตอาการผิดปกติต่าง ๆ ที่บ่งบอกปัญหาสุขภาพ เช่นว่า ท้องเสีย อาเจียน ที่สัญญาณเตือนว่าน้องกำลังป่วย ควรเลี่ยงการให้ขนมหรืออาหารที่แปลกใหม่ แนะนำว่าให้กินอาหารแบบอ่อน ๆ ที่ย่อยง่าย อย่างไก่นึ่งปรุงรสดีกว่า
4. รูปแบบการใช้ชีวิต
ต่อมาก็คือเรื่องของรูปแบบการใช้ชีวิตประจำวันที่มีการเลือกอาหาร ที่มักจะเลียขนทำความสะอาด แล้วก็อาจจะขย้อนก้อนขนออกมาได้ด้วย แต่หากขย้อนมาบ่อยและต่อเนื่องเกินไปก็จะส่งผลต่อสุขภาพพวกเขาได้ในอนาคต การเลือกอาหารด้วยสูตรที่ป้องกัน ลดการเกิดปัญหาขนเป็นก้อนก็เป็นทางเลือกที่ดี เป็นต้น
5. ราคา
สุดท้ายคือเรื่องของราคาอาหารของแมวแต่ละประเภทจะสามารถแบ่งออกเป็น 2 ประเภทด้วยกันคืออาหารเกรดทั่วไปและเกรดพรีเมี่ยม ที่ราคาเกรดทั่วไปก็จะถูกกว่า เข้าถึงได้ง่ายมากกว่า ส่วนมากก็จะเป็นรูปแบบเม็ด ส่วนอาหารเกรดพรีเมียมก็จะเป็นรูปแบบขนมแมวเลีย หรืออาหารแมวแบบเปียกที่ราคาก็จะสูงขึ้นมาหน่อย

เมื่อทราบอย่างนี้แล้วก็หวังว่าทุกท่านจะเกิดความมั่นใจ และสามารถเลือกอาหารแมวเปียกได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ทั้งนี้ ปัจจุบันมีอาหารหลายแบรนด์ หลากหลายแบบ แนะนำว่าให้พิจารณาคุณสมบัติที่ดีต่อแมวด้วย รับรองว่าน้องแมวอิ่มด้วย ปลอดภัยด้วย

เข้าชมเว็บไซต์ได้ที่
Official Website : https://www.homepro.co.th/c/PET0104

4

สมาคมWTA ร่วมกับ Austin Goh "YouTuber" เปิดสอน NATURAL METHOD (Thailand )รุ่น 1 ..ที่ร้านSiam fusion cuisine


27 พฤษภาคม 2566 World Trader Trade Association “ WTA Global Trade Center “จัดงาน WTA FAMILY 2023 Business Matching โดย Dr.Navarat Chaiyasuk president กับDr.Atil Alher ประธาน WTA ประจำประเทศสาธารณรัฐอิรัก (อดีตรัฐมนตรีอุตสาหกรรม) Dr. Chayakorn Nonthasin ประธานWTA ประจำประเทศสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาวทีมผู้บริหารจากสมาคมเสฉวน และบริษัท POWER CHINA พร้อมทั้งทีมนักลงทุน นำธุรกิจก่อสร้างธุรกิจร้านอาหารครัวไทยสู่ครัวโลก และผลิตภัณฑ์ต่างๆของประเทศไทยจากโรงงานโดยตรง รวมถึงธุรกิจ”เช่าลุง & เช่าพี่สาว”ซึ่งเป็นที่ปรึกษาในด้านต่างๆ ให้กับสมาชิกและนักธุรกิจที่สนใจ
















ในช่วงบ่ายได้มีกิจกรรมเพื่อสังคมโดยได้รับการสอนออกกำลังกายฟรี ให้กับท่านที่ปรึกษาและสมาชิกทั่วไป จาก Austin Goh ที่ปรึกษา กิตติมศักดิ์ WTA เป็นนักศิลปะการต่อสู้จีนรุ่นที่สองที่เกิดในมาเลเซีย สอนศิลปะการออกกำลังกาย แบบพลังงานมนุษย์ใหม่ที่ประเทศอังกฤษ ประสบการณ์ 30 ปี(ที่ปรึกษากิตติมศักดิ์WTA) เชิญทุกท่านเข้าร่วม คลาสพลังงานมนุษย์ใหม่(ฟรี) ทุกวันเสาร์เวลา 15.00 น. ถึง 16.00 น. ที่ ร้านสยามฟิวชั่นคูซีน Siam fusion cuisine Sukhumvit 24 (Thai and seafood restaurant 泰国和海鲜餐厅 )สำรองที่นั่ง 0816881688 สอนเป็นภาษาอังกฤษ หรือภาษาจีน ทางสมาคมจะมี น้องนันและน้องเพนกวิน นางสาวกชพร ไชยสุข Khotchapon Chaiyasuk 张秀文















กรรมการ ฝ่ายประชาสัมพันธ์ ของสมาคม(เป็นนักเรียนแลกเปลี่ยน AFS ประเทศจีน รุ่น 58 ) แปลให้สมาชิกทุกท่าน เชิญ มาร่วมเป็น WTA family ชีวิตดีดี ธุรกิจดี สุขภาพดี อารมณ์ดี มีความสุข ด้วยกันนะคะ

FACEBOOK :  Siam fusion cuisine
GOOGLE MAPS : https://goo.gl/maps/JJ3wD3JSi35g5CxEA

5


การที่ท่านจะเลือกซื้อตู้เย็น Side by Side ได้นั้น มีบางเรื่องที่ควรรู้อยู่ด้วยเช่นกันทั้งในแง่ของประเภทที่มีให้เลือก และสิ่งที่ควรทราบเพื่อการประหยัดพลังงานไฟฟ้าที่สุด เหตุเพราะก็คงไม่มีท่านใดที่ปรารถนาใช้งานแล้วจ่ายค่าไฟแพง ๆ ยิ่งเป็นแบบขนาดใหญ่ Side by Side แบบนี้ด้วยแล้ว กระนั้นจะมีข้อมูลอย่างไรที่น่าสนใจบ้าง เราไปติดตามพร้อม ๆ กันได้เลย

ทำความรู้จักกับตู้เย็น Side by Side
ต้องชี้แจงให้เข้าใจก่อนเลยว่ารูปแบบ Side by Side คือตู้เย็นขนาดใหญ่ที่มีพื้นที่กว้างมากกว่าทั้งแบบประตูเดียวและแบบ 2 ประตู แน่นอนว่าเรื่องสนนราคาก็จะมีสูงมากกว่าด้วยเช่นกัน แต่ก็คุ้มค่ากับสิ่งที่จะได้รับทั้งในเรื่องของขนาดที่กว้างขวางมากกว่า จัดเก็บของได้มากกว่า ความเย็นถึงใจกระจายทั่วถึง ทั้งยังมีฟังก์ชันการทำงานอื่น ๆ มากกว่า และดีกว่าอีกด้วย กระนั้นประเภทของตู้ก็มีให้เราได้เลือกด้วยเช่นกัน ซึ่งก็จะมาแนะนำให้ได้รู้จัก รวมไปถึงบอกสิ่งที่จะช่วยให้ท่านประหยัดไฟได้เพิ่มขึ้น

แนะนำประเภทของ ตู้เย็น Side by Side
สำหรับประเภทที่มีให้คุณ ๆได้เลือกนั้นจะแบ่งออกเป็นระบบการทำความเย็น 2 แบบ โดยที่จะขึ้นอยู่กับประเภทของคอมเพรสเซอร์ด้วยว่าเป็นลักษณะไหน โดยที่คอมเพรสเซอร์นั้นจะเป็นอุปกรณ์ที่มีไว้เพื่อใช้ในการทำความเย็น การที่เราเลือกมาเหมาะสมกับการใช้งานมากที่สุด ก็จะช่วยประหยัดไฟได้ ซึ่งมีด้วยกันคือ
- Compressor Inverter : ที่จะเป็นระบบคอมเพรสเซอร์รูปแบบใหม่ล่าสุด ที่ได้รับความนิยมมากในรูปแบบ Side by Side ที่จะลดรอบหมุนลง พอเครื่องมีการทำความเย็นที่อยู่ในระดับเหมาะตามกำหนดเพื่อเป็นการควบคุมอุณหภูมิภายในได้อย่างดี แล้วเมื่ออุณหภูมิมีสูงขึ้นก็จะกลับมาทำรอบหมุนเหมือนเดิม โดยที่ระบบอินเวอร์เตอร์นี้ทำความเย็นได้ดีมาก ๆ พร้อมช่วยประหยัดพลังงานได้ดีไปอีก
- Compressor Normal : ที่จะเป็นระบบคอมเพรสเซอร์แบบปกติทั่วไปที่เคยมี ซึ่งจะใช้ระบบในการหมุนทำรอบเพื่อสร้างความเย็นในตู้ และตู้เย็นที่ใช้คอมเพรสเซอร์แบบนี้ก็จะหมุนไปด้วยความเร็วที่เท่าเดิมตลอด ทำความเย็นได้อย่างดี แต่ก็อาจจะกินพลังงานไฟฟ้ามากด้วยเช่นกัน

อย่างไรก็ตาม ในส่วนของสิ่งที่ช่วยประหยัดไฟนอกจากการเลือกแบบ Compressor Inverter แล้ว จริง ๆ ก็ควรเลือกที่มีเครื่องหมายฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5 ด้วย ยิ่งสูงก็ยิ่งประหยัดไฟ ทั้งนี้ ควรเลือกแบรนด์ที่มีการรับประกันเพื่อป้องกันความเสียหายได้ดี พร้อมซ่อมแซมได้ง่ายด้วย

หวังเป็นอย่างยิ่งว่าทุกการเลือกซื้อตู้เย็น Side by Side ของทุกท่านจะผ่านไปได้อย่างดีมีประสิทธิภาพมากที่สุด ซึ่งนอกจากเรื่องการใช้งานได้ดีพื้นที่กว้างขวางแล้วนั้น ก็ยังช่วยประหยัดไฟถ้วนหน้าไปอีก เรียกได้ว่าคุ้มค่าคุ้มราคาไม่เสียดายทีหลังแน่นอน

ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่
Official Website : https://www.homepro.co.th/c/APP0906

6


ก่อนที่คุณ ๆจะตกลงใจเลือกซื้อเลือกหาตู้เย็น 2 ประตูได้นั้น สิ่งที่ไม่อาจมองข้ามไปได้ก็คือเรื่องของจุดเด่นที่มีให้เราได้สัมผัส แน่นอนว่าหากมีความคุ้มค่าก็จะช่วยให้คุณเข้าถึงการใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุด ซึ่งครั้งนี้เราจึงขออาสาพาทุกคนได้ศึกษาข้อมูลต่าง ๆ เพื่อการตกลงใจซื้อที่เหมาะสม

ข้อดีของการเลือกซื้อตู้เย็น 2 ประตู ที่ควรทราบก่อนตกลงใจซื้อ
1. สามารถใส่ของได้ในจำนวนมาก
อย่างแรกเลยของการเลือกใช้งานแบบ 2 ประตูนั้นจะมีความสามารถในการขนาดพื้นที่ที่ใหญ่มากกว่าแบบประตูเดียว โดยมีทั้ง
- ขนาดเล็ก 7 – 13 คิว เหมาะสมกับคนที่มีสมาชิกอยู่ด้วยกันในบ้าน 1 – 2 คน จุได้ 200 – 380 ลิตร
- ขนาดกลาง 12 – 18 คิว เหมาะกับคนที่มีสมาชิกอยู่ด้วยกันในบ้าน 3 – 4 คน จุได้ 350 – 530 ลิตร
- ขนาดใหญ่ไม่ต่ำกว่า 15 คิว เหมาะสมกับคนที่มีสมาชิกอยู่ด้วยกันในบ้านมากกว่า 5 คนขึ้นไป จุได้มากกว่า 440 ลิตร
โดยที่ส่วนการแช่แข็ง และแช่เย็นจะมีแยกออกจากกันเลย และมีขนาดช่องเป็นไปตามขนาดตู้ที่เราเลือก ทำให้มีพื้นที่แบ่งแยกที่เยอะ อีกทั้งยังมีช่องย่อย ๆ มากมายภายในด้วย ทำให้สามารถใส่ของที่หลากหลายประเภทได้อย่างดี สามารถจัดระเบียบตู้ให้เป็นระเบียบได้มากขึ้นไปอีก
2. สัดส่วนตู้ถูกแบ่งออกอย่างชัดเจน
อย่างที่บอกไปว่าตู้เย็นแบบ 2 ประตูจะมีขนาดใหญ่กว่า และมีการแบ่งแยกส่วนในการแช่ โดยที่ทั่วไปแล้วนั้นมีให้เลือกทั้งในส่วนบนที่เป็นช่องมีไว้แช่แข็ง และส่วนล่างที่เป็นช่องมีไว้แช่เย็น แบ่งแยกกันไว้อย่างชัดเจน ไม่เหมือนกันแบบประตูเดียวที่จะอยู่ภายในเครื่องเดียวแล้วใช้เปิด 1 ประตูออกมา ที่บางครั้งก็มีโอกาสทำให้เกิดกลิ่นที่ไม่พึงประสงค์ได้ด้วยเช่นกัน
3. ความเย็นกระจายทั่วถึง
โดยที่เราสามารถวางของได้มากตามต้องการ แต่ความสามารถในการกระจายความเย็นก็ยังคงทั่วถึงอยู่ โดยที่มีให้เลือกทั้งระบบ Compressor Normal และระบบ Compressor Inverter ที่แตกต่างกันมาก และถ้าแนะนำเลือกเป็นรุ่นระบบ Compressor Inverter ก็จะทำความเย็นได้เร็วมากกว่า ทำงานเงียบ พร้อมช่วยประหยัดไฟ
4. ช่องแช่ต่าง ๆ เย็นมาก
ด้วยความที่แยกช่องออกเป็นช่องแช่แข็งและช่องแช่เย็น จึงมีความเย็นที่คงที่ และเย็นเร็ว ทั้งนี้ จะมีระบบที่ช่วยในการละลายน้ำแข็งได้แบบอัตโนมัติด้วย ไม่ทำให้เกิดปัญหาช่องแช่มีน้ำแข็งเกาะเหมือนแบบประตูเดียวกระนั้นราคาตู้เย็น 2 ประตูก็จะมีสูงกว่าประตูเดียว

เป็นยังไงกันบ้างกับข้อมูลจุดเด่นของตู้เย็น 2 ประตู เชื่อเหลือเกินว่าต่อจากนี้การเลือกซื้อเลือกหาของท่านจะผ่านไปได้อย่างราบรื่นมากที่สุด ได้ตู้ที่เหมาะสมกับสมาชิก พร้อมฟังก์ชันดี ๆ ที่มีให้สัมผัส ซึ่งปัจจุบันมีให้เลือกหลายแบรนด์ ก็เปรียบเทียบเอาตู้ที่คุ้มค่า ตอบสนองการใช้งานมากที่สุดด้วย

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่
Official Website : https://www.homepro.co.th/c/APP0905

7


ตู้เย็น Mitsubishi เป็นอีกหนึ่งเครื่องใช้ไฟฟ้าที่หลายบ้านตกลงใจเลือกใช้งาน ด้วยประสิทธิภาพความเย็น ช่วยทำให้ของสดยังคงความสดใหม่อยู่เสมอ ทว่าอีกประการที่เราต้องทำกันเป็นประจำก็คือการล้างทำความสะอาดดูแลอย่างเต็มที่ ซึ่งท่านไหนที่กังวลจริง ๆ อยากบอกว่าไม่ใช่เรื่องยากเลยกับการดูแลทำความสะอาด ยืนยันว่าไร้คราบ ไม่มีกลิ่น แต่จะต้องทำเช่นใดบ้างนั้น ไปติดตามรายละเอียดกันได้

แนะนำการดูแลตู้เย็น Mitsubishi แบบ 2 ประตู
1. ขั้นตอนการทำความสะอาดภายในตู้เย็น
- เตรียมความพร้อม : ให้เตรียมความพร้อมก่อนทำความสะอาดตู้เย็นโดยให้ลงมือเช็ดตู้เย็นทุกซอกมุม จัดการกับสารพัดสิ่งของที่มีในตู้เย็น ซึ่งหลัก ๆ คือต้องแยกของกินได้  และของแช่ปกติ อย่าพลาดดูวัน/เดือน/ปีที่หมดอายุด้วย พร้อมจัดการลำดับสิ่งที่ควรใช้ไว้หน้า ๆ ถ้าหมดอายุก็ให้นำออกมาทิ้งได้เลย เมื่อจัดการเรียบร้อยก็ถอดปลั๊กตู้เย็น แล้วทำการกดปุ่มเพื่อละลายน้ำแข็ง
- จัดการทำความสะอาด : ต่อมาก็ให้คุณลงมือทำความสะอาดได้เลย โดยให้เช็ดให้ครบด้านนอก ด้านใน รวมทั้งขอบยางที่ประตูด้วย วิธีการใช้เจือจางน้ำสบู่อ่อน ๆ มาเช็ดที่ผิวตู้เย็น และจัดการคราบเลอะ สิ่งสกปรกได้ดี พร้อมมีกลิ่นอ่อน ๆ หอม ๆ ด้วย ไม่ทำลายพื้นผิว และยังใช้ได้ทั้งด้านนอกด้านในตู้ได้ด้วย ส่วนชั้นด้านในให้ถอดเอาออกมาทำความสะอาดด้วยน้ำยาล้างจานก่อนที่จะผึ่งแห้ง
- ประกอบชิ้นส่วนพร้อมใช้งาน : และสุดท้ายคือการจัดการ ตู้เย็น mitsubishi 2 ประตู ให้พร้อมใช้งานได้เลยโดยการประกอบชั้นเข้าไปด้านใน แล้วเสียบปลั๊กให้พร้อมใช้งานได้เลย อย่างที่บอกคัดแยกจัดหมวดหมู่ด้วย เพื่อการหยิบจับที่ง่ายมากขึ้น และระบายของออกได้ทันใช้วัน/เดือน/ปีที่หมดอายุ

2. จัดการตู้เย็นให้สะอาด ไร้คราบ ปราศจากกลิ่น
- ทำความสะอาดด้านในไร้สารเคมี ไร้สารตกค้าง : การทำความสะอาดจริง ๆ แล้วนอกจากสบู่อ่อน หรือน้ำยาล้างจาน อีกสิ่งที่ช่วยได้คือน้ำส้มสายชู ทำให้ตู้เย็นสะอาดมากขึ้น ไร้กลิ่นอับ และไม่เป็นอันตรายจากสารเคมีที่อาจตกค้าง
- จัดการกลิ่นอับ : ด้วยความที่อาหารมีสารพัดกลิ่น เอามาไว้ในตู้เย็น 2 ประตู Mitsubishi ก็มีเยอะแยะไปหมด แนะนำว่าให้เอาถ่านไม้ เบกกิ้งโซดา หรือผงกาแฟ มาวางไว้ แล้วเปลี่ยนทุก 3 เดือน หรือถ้าจะใช้เป็นมะนาว ส้ม มะกรูดก็ควรเปลี่ยนทุก 1 – 2 สัปดาห์
- จัดการเชื้อรา : ใช้น้ำส้มสายชู หรือเบกกิ้งโซดาผสมกับน้ำเปล่าช่วยเช็ดทำความสะอาดได้ดี ลดปัญหากวนใจ ใครเพิ่งซื้อตู้เย็นมาใหม่รีบเอามาเช็ดด่วน ๆ
เมื่อรู้เช่นนี้แล้วใครที่มีตู้เย็น Mitsubishi ใช้งานกันมาแล้วก็อย่าพลาดทำความสะอาดกันโดยสามารถนำเอาวิธีการเหล่านี้ไปปรับใช้ได้เลย ได้ตู้เย็นสะอาดเหมือนใหม่ ความเย็นใช้งานเพิ่มอุณหภูมิกับของแช่ต่อได้ไม่ติดขัด

สามารถดูรายละเอียดสินค้าเพิ่มเติมได้ที่
Website : https://www.homepro.co.th/c/APP09?b=mitsubishi

8


เชื่อว่ามีคนอีกมากมายเมื่อคิดจะทำสนามหญ้าหน้าบ้านต้องมีการเลือกใช้งานหญ้าเทียม แต่กระนั้นก็กลายเป็นคำถามที่สงสัยขึ้นมาด้วยเช่นกัน ว่าหากเลือกหญ้าลักษณะนี้ใช้งานแล้วการดูแลรักษาจะยากกว่าหญ้าจริงหรือไม่?? หากไม่ต้องการให้ต้องเป็นคำถามสงสัยอีกต่อไป ก็มีรายละเอียดมาให้ศึกษาว่าแล้วก็ไปดูกันเลยดีกว่า

ไขข้อสงสัย.. หญ้าเทียมดูแลรักษายากกว่าหญ้าจริงหรือเปล่า?
ก่อนอื่นเลยอยากให้ได้ทำความเข้าใจเล็กน้อยถึงความสำคัญที่ทำให้หลาย ๆ ท่านเลือกใช้งานหญ้าจำพวกนี้มากกว่าหญ้าจริง ก็เพราะมีส่วนช่วยในการเพิ่มความเขียวขจีให้กับพื้นที่ต่าง ๆ ที่เราต้องการปูพื้นหญ้าได้อย่างดี ทำให้ดูสดใสสวยงามสมใจ เป็นธรรมชาติมาก ๆ โดยเรานั้นไม่จำเป็นต้องดูแลรักษาอะไรมาก ไม่ต้องรดน้ำ ไม่จำเป็นต้องใส่ปุ๋ย ไม่ต้องมาคอยตัดตกแต่งให้สั้น ๆ

ทั้งยังทนทานแสงแดด ทนฝนฟ้าคะนองได้อย่างดี ที่สำคัญคือไม่เป็นที่อยู่อาศัยของสัตว์เลื้อยคลานด้วยเพราะไม่มีดิน ไม่มีหญ้ารกกวนใจ พร้อมช่วยป้องกันการกระแทกเมื่อหกล้ม ลื่นล้ม ฯลฯ แต่กระนั้นก็เกิดเป็นความสงสัยต่อไปอีกเรื่องการดูแลรักษา ว่าหากเราเลือกใช้งานหญ้าเทียมปูพื้นแบบนี้จะยากกว่าหญ้าจริงไหม?? เราไม่รอช้ามีคำตอบมาให้ค้นหา
- หญ้าชนิดนี้นั้นไม่มีปัญหาในการดูแลเลยแม้แต่นิดเดียว และอายุการใช้งานก็ยาวนานมากด้วย แค่เรื่องที่ต้องคำนึงก็คือการติดตั้ง
- กรณีที่โดนน้ำมันต่าง ๆ ที่หญ้านี้แล้วมีคุณสมบัติเป็นน้ำมันที่กัดกร่อน ให้คุณรีบแช่น้ำเปล่าได้เลยครึ่งชั่วโมง แล้วจึงเอาแปรงซักผ้ามาถูเบา ๆ แล้วล้างให้สะอาด จากนั้นให้นำไปตากให้แห้ง แล้วจึงค่อยกลับมาติดตั้งใช้งานใหม่
- ถ้าเปื้อนเศษดิน โคลน หรือคราบมันเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่ไม่ได้มีฤทธิ์กัดกร่อน ให้คุณเอาแปรงซักผ้ามาขัดออกเบา ๆ ได้เลย ต่อจากนั้นก็ใช้น้ำเปล่ามาฉีดล้างออกได้เลยง่าย ๆ
- หากต้องการซักล้างทำความสะอาดหญ้า ไม่แนะนำให้ใช้น้ำยาที่มีฤทธิ์กัดกร่อน หรือผงซักฟอกเนื่องมาจากจะทำให้สีของหญ้าซีดได้ แม้จะซื้อหญ้าเทียม ราคาถูก หรือแพงก็มีความเสี่ยงได้ทั้งสิ้น

อย่างไรแล้วเรื่องของการเลือกหญ้าเทียมก็สำคัญไม่น้อย โดยเราต้องพินิจพิจารณาจากหลาย ๆ ปัจจัยเพื่อให้เลือกได้ใช้งานตอบโจทย์ ไม่ว่าจะเป็น เรื่องสถานที่ที่จะติดตั้ง ขั้นตอนการติดตั้ง การดูแลทำความสะอาดที่อาจเลือกใช้เครื่องดูดฝุ่นช่วยได้ด้วย สีของหญ้าที่ปัจจุบันมีให้เลือกเยอะ บางยี่ห้อก็มีสีน้ำตาลแซมมาให้ดูเป็นเหมือนหญ้าจริง ๆ เลยทีเดียว รวมทั้งความสูง ความหนาของหญ้าที่สนใจซื้อ และวัสดุในการผลิตที่ควรมีคุณภาพ ไม่ฉีกขาดง่าย

ชมสินค้าเพิ่มเติมได้ที่
Website : https://www.homepro.co.th/c/OUT0401

9


พ่อค้าแม่ค้าโดยเฉพาะอย่างยิ่งใครที่จำหน่ายของออนไลน์ คงปฏิเสธการใช้งานกล่องกระดาษส่งพัสดุไปไม่ได้เลยจริง ๆ ซึ่งกล่องที่ว่านี้มีความสำคัญมาก ๆ เพราะถือว่าเป็นตัวช่วยในการป้องกันสิ่งของภายใน จัดส่งสะดวก ได้รับสินค้าที่ต้องการในสภาพดี ถึงกระนั้นการเลือกใช้งานนับว่าเป็นสิ่งที่เราควรให้ความเอาใจใส่ไม่น้อย แต่จะมีเรื่องใดบ้างไปติดตามค้นหาคำตอบกันดีกว่า

กล่องกระดาษส่งพัสดุกับเรื่องที่ควรให้ความสนใจใช้งาน
1. เป็นกล่องที่มีให้เลือกหลากหลายขนาด
เป็นเรื่องที่พ่อค้าแม่ค้าควรต้องให้ความเอาใจใส่มาก ๆ เลยทีเดียว กับการใช้งานส่งสินค้าที่ควรต้องพอเหมาะกับขนาดมากที่สุด อย่างกล่องไปรษณีย์ขนาดมีให้เลือกเยอะ ตั้งแต่ขนาดเล็กสุด ไปจนถึงขนาดใหญ่สุดที่สามารถบรรจุสินค้าชิ้นใหญ่ได้ เราจำเป็นจะต้องเลือกใช้ให้ดี เพื่อการใส่สินค้าตอบโจทย์ที่สุด ไม่เกิดความเสียหายกับสินค้าได้ง่าย ๆ

2. เป็นกล่องที่มีความทนทานไม่น้อย
หลายท่านอาจจะคิดว่าเป็นกล่องพัสดุกระดาษก็คงจะไม่ค่อยแข็งแรงมาก เพราะโดนน้ำก็คงเปื่อย แต่ที่จริงแล้วคุณ ๆสามารถเลือกซื้อเลือกหากับร้านที่มีการผลิตกล่องแบบแข็งแรงทนทานได้ ช่วยในการจัดเก็บและขนส่งสินค้าได้ดีมาก ๆ ป้องกันการกระแทก ป้องกันปัญหาต่าง ๆ ไม่ให้เสียหาย ทั้งยังเป็นกล่องที่มีน้ำหนักเบามาก ๆ ด้วยหากสินค้าไม่ได้มีน้ำหนักมากก็ช่วยให้การขนย้ายหยิบจับง่ายมากขึ้น

3. มีการผลิตที่ดีคุณภาพสูง ทันสมัย
ทุกวันนี้ปฏิเสธไม่ได้ว่าเทคโนโลยีการผลิตกล่องพัสดุประเภทกระดาษนั้นพัฒนาไปอย่างก้าวไกลอย่าง กล่องไปรษณีย์ก็มีให้เราเลือกทั้งที่เป็นสีน้ำตาล เปิดปิดธรรมดา และกล่องสีขาวที่หนาและเป็นแบบพับลงปิดอีกที ทั้งยังสามารถเลือกกล่องที่พิมพ์ลายได้ด้วย ทำให้ได้รูปแบบที่สวยงาม บางกล่องพิมพ์เป็นคำว่า Thank you รอบกล่องเพื่อแสดงถึงการขอบคุณลูกค้าที่สั่งซื้อสินค้ากัน เสริมสร้างความเป็นเอกลักษณ์ไปในตัวได้เลยเชียว

4. เป็นกล่องที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
ไม่ว่าจะเป็นกล่องบาง กล่องหนาใด ๆ แล้วก็คืองานกล่องที่สามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้ หรือนำไปรีไซเคิลได้ง่าย ๆ นับเป็นสิ่งที่ตอบโจทย์กับยุคสิ่งแวดล้อมที่ต้องให้ความสำคัญมาก ๆ ไม่ทำให้เกิดปัญหาทางระบบธรรมชาติ ซึ่งก็ทำให้เราใจชื้นขึ้นมาได้ไม่มากก็น้อย เนื่องจากอย่างน้อย ๆ ก็ช่วยรักษ์โลก

ในการจะเลือกใช้งานกล่องกระดาษสักใบนั้น เป็นเรื่องที่คุณต้องให้ความสำคัญไม่แพ้กัน แนะนำว่าเลือกซื้อกับร้านที่มีมาตรฐาน อย่างที่ทำการไปรษณีย์ก็มีให้เราเลือกหลากหลายเพื่อให้การใช้สินค้าของคุณเหมาะสม ส่งถึงมือใช้งานโดยไม่มีปัญหาชำรุดเสียหาย ส่งผลต่อภาพลักษณ์ของร้านได้เป็นอย่างดี

คุณลูกค้าสามารถดูรายละเอียดสินค้าเพิ่มเติมได้ที่
Official Website : https://www.homepro.co.th/c/HHP0801

10


วิธีการซักผ้าให้สะอาดหมดจดนั้นมีให้ท่านได้นำไปปรับใช้มากมาย แต่รู้หรือไม่ว่า “ทิชชู่เปียก” ที่เราเห็นกันทั่วไป หรือบางคนก็ใช้งานเช็ดมืออยู่นั้นสามารถเป็นอีกวิธีที่ช่วยให้เสื้อผ้าสะอาดขึ้นได้ไปอีก สามารถนำเอาไปใส่ในเครื่องซักผ้าได้ทุกครั้งเลยด้วย ทว่าใครที่ไม่เคยทราบมาก่อน และอยากทำความเข้าใจมากขึ้น ไม่ต้องห่วงเลยเชียว ทั้งนี้เพราะเรามีมาให้ศึกษาอย่างเจาะลึก

การใช้ทิชชู่เปียกใส่ในเครื่องซักผ้าช่วยเสื้อผ้าสะอาดหมดจด
เราอาจจะต้องทำความเข้าใจถึงกระดาษทิชชู่เปียกก่อน ซึ่งสิ่งนี้ทำมาจากผ้าชนิดที่ที่ชื่อ Spunlace non – woven ที่วัตถุดิบจะขึ้นอยู่กับแต่ละแบรนด์ ก็จะได้ลักษณะที่ต่างกันออกไป ผิวสัมผัสก็จะมีไม่เหมือนกันด้วย เราสามารถเอามาใช้ได้ไม่ใช่แค่เด็กเท่านั้น ผู้ใหญ่อย่างเราสามารถใช้เช็ดมือ เช็ดหน้าซับเครื่องสำอาง บางแบรนด์ทำมาจากเส้นใยธรรมชาติ ใยไผ่พลาสติก ที่มีผสมน้ำ 90 – 95% บางยี่ห้อก็มีน้ำหอมปนอยู่ด้วย แต่ไม่ต้องกังวลด้วยเหตุว่าสามารถนำไปใช้ซับหน้าได้
โดยเรื่องการนำทิชชูลักษณะนี้เอาใส่เครื่องซักผ้าเพื่อให้การทำความสะอาดหมดจดมากขึ้นนั้น จะเป็นเครื่องแบบฝาหน้า หรือฝาบนก็ได้ แล้วใช้งานได้หมดทั้งสิ้น โดยแนะนำให้เอาใส่ไปประมาณ 3 – 4 แผ่น แล้วเอาผ้าใส่ลงไปด้วย จากนั้นก็เปิดเครื่องซักตามปกติได้เลย ให้ตัวถังหมุนรอบทำความแรงตามปกติ  ซึ่งกระดาษทิชชูนี้ก็จะหมุนตามเครื่องไปด้วย และการหมุนไปพร้อม ๆ กับผ้านั้นจะสามารถช่วยดักจับสิ่งที่ไม่เหมาะสม เช่น ขนแมว ขนสุนัข เส้นขน ขนสัตว์เลี้ยง หรือเศษสิ่งสกปรก หรือเศษกระดาษชำระที่เราลืมเอาออกจากกระเป๋าเสื้อผ้า

คำแนะนำเพิ่มเติมในการใช้งานกระดาษทิชชู่ประเภทนี้
ก่อนที่เราจะใช้งานก็จำเป็นต้องรู้ถึงคำแนะนำเพิ่มเติมในการใช้งานเพื่อให้ได้ประสิทธิภาพการทำความสะอาดมากที่สุด โดยมีด้วยกันดังต่อไปนี้
- กระดาษทิชชูสามารถใส่ในเครื่องซักผ้าได้ แต่จะต้องไม่ใส่มากเกินไป เหตุเพราะจะทำให้เกิดการอุดตันได้
- กระดาษทิชชูนี้ขาดง่าย ยุ่ยง่าย หากเสื้อผ้าเยอะเกินไปก็อาจจะทำให้ติดเสื้อผ้าได้
- ทิชชู่เปียกแอลกอฮอล์บางยี่ห้ออย่างที่บอกมีน้ำหอมผสม ช่วยให้เสื้อผ้ามีกลิ่นหอม แต่ก็ต้องระวังหากใช้กับเด็ก ทั้งนี้เพราะอาจเกิดการระคายเคืองได้
- เมื่อเราใช้กระดาษทิชชูแบบนี้ซักแล้ว ไม่ควรนำมาใช้ซ้ำอีก เนื่องจากจะกลายเป็นไม่สะอาดแทนแล้ว

ทิชชู่เปียกเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่สามารถช่วยคุณจัดการสิ่งสกปรกของเสื้อผ้าได้อย่างดี แต่ก็ต้องใช้งานให้เหมาะตามคำแนะนำเพิ่มเติม เพื่อให้ได้ประสิทธิภาพเพิ่มขึ้น ซึ่งคุณสามารถนำวิธีการใช้งานกระดาษทิชชูนี้ไปปรับใช้ได้เลยทันที การันตีว่าผลลัพธ์ความสะอาดอยู่ไม่ไกลเกินเอื้อม

แวะชมสินค้าเพิ่มเติมได้ที่
เว็บไซต์ : https://www.homepro.co.th/c/HHP0215

11


ในการใช้งานกระดาษทิชชู่นั้นถือได้ว่าจะปลอดภัยได้ต่อเมื่อมีการตรวจสอบมาตรฐาน มอก. ด้วย แต่บางคนอาจจะยังไม่เคยรู้จักมาก่อน และคงต้องการศึกษา เพื่อการนำไปเป็นแนวทางเลือกใช้งานได้อย่างมีคุณภาพ ซึ่งหากท่านใดที่พร้อมศึกษาข้อมูลแล้วอย่ารอช้ารีบตามเรามาทางนี้โดยด่วน

การทดสอบสอบมาตรฐาน มอก. ของกระดาษทิชชู่
1. ทิชชู่สำหรับเช็ดหน้า
มาเริ่มกันที่ทิชชู่เช็ดหน้าที่ควรต้องมีการตรวจสอบมาตรฐาน มอก. ด้วย โดยกระดาษชนิดนี้อธิบายให้เข้าใจมากขึ้น ก็คือกระดาษที่มีไว้สำหรับเช็ดหน้า เป็นลักษณะย่น ๆ สะอาด นุ่ม สามารถดูดซับน้ำได้ดี และเมื่อเปียกน้ำแล้วก็จะไม่ขาดง่าย ๆ ด้วย ซึ่งโดยรวมแล้ว จะมีด้วยกัน 3 แบบ คือ ชนิดเนื้อกระดาษเยื่อผสม ประเภทเนื้อกระดาษบริสุทธิ์ ชนิดเนื้อเวียนใหม่ มีให้เลือกได้ทั้ง 2 ชั้น 3 ชั้น ถามว่าต้องมีการทดสอบด้านใดบ้าง??
- มาตรฐาน ISO 12625-6 ทดสอบเรื่องมวลมาตรฐาน (Grammage) หน่วย g/m2 
- มาตรฐาน ISO 15755 ทดสอบเรื่องความสะอาด จะวัด พื้นที่จุดสกปรก (Dirt Area) และจำนวนจุดสกปรกที่มีขนาด 0.03 mm2 ขึ้นไป
- มาตรฐาน ISO 12625-8 ทดสอบเรื่องการดูดซึมน้ำ
- มาตรฐาน ISO 1762 ทดสอบเรื่องปริมาณขี้เถ้า (Ash Content)
- มาตรฐาน ISO 6588-1 ทดสอบเรื่องความเป็น กรด – ด่าง
- มาตรฐาน ISO 12625-4 ทดสอบเรื่องความต้านทานแรงดึง (Tensile) ที่ต้องทำทั้งในแนว MD และ CD
- มาตรฐาน ISO 12625-4 ทดสอบเรื่องความยืด (Elongation) เป็นลักษณะในแนว MD
- มาตรฐาน ISO 12625-5 ทดสอบเรื่องความต้านทานแรงดึงขณะเปียกเป็นลักษณะในแนว MD

2. กระดาษสำหรับชำระ
อีกประเภทที่ไม่เอ่ยถึงไม่ได้สำหรับกระดาษชำระ โดยจะเป็นลักษณะการนำไปใช้เพื่อทำความสะอาดหลังการขับถ่าย มีความย่น ๆ นุ่ม เส้นใยละเอียดดูดซับน้ำได้อย่างมีประสิทธิภาพ เมื่อกระจายในน้ำสามารถแยกจากกันได้ แบ่งออกเป็น 3 ชนิด คือแบบเนื้อกระดาษเยื่อผสม แบบเนื้อกระดาษบริสุทธิ์ ชนิดเนื้อเวียนใหม่เหมือนกัน ใช้งานได้ในลักษณะแบบแผ่น หรือชนิดม้วน ที่มีทั้งม้วนเล็ก ม้วนใหญ่ มีให้เลือกได้ทั้ง 1 ชั้น 2 ชั้น 3 ชั้น
- มาตรฐาน ISO 12625-6 ทดสอบเรื่องมวลมาตรฐาน (Grammage) หน่วย g/m2
- มาตรฐาน ISO 15755 ทดสอบเรื่องความสะอาด จะวัดพื้นที่จุดสกปรก (Dirt Area) และจำนวนจุดสกปรกขนาด 0.03 mm2 ขึ้นไป
- มาตรฐาน ISO 12625-8 ทดสอบเรื่องการดูดซึมน้ำ
- มาตรฐาน ISO 1762 ทดสอบเรื่องปริมาณขี้เถ้า (Ash Content)
- มาตรฐาน ISO 6588-1 ทดสอบเรื่องความเป็น กรด – ด่าง
- มาตรฐาน ISO 12625-4 ทดสอบเรื่องความต้านทานแรงดึง (Tensile) ทั้งในลักษณะแนว MD และ CD
  - มาตรฐาน ISO 12625-4 ทดสอบเรื่องความยืด (Elongation) ในลักษณะแนว MD
ทั้งนี้ ลักษณะกระดาษทิชชูที่นำมาใช้ทดสอบจะเป็นแบบที่ไม่มีรอยพับ ยกเว้น 10 แผ่นแรกและ 10 แผ่นสุดท้ายที่จะเจอรอยพับได้ ไม่มีรอยขาด ไม่มีรอยฉีก และสีที่มีต้องสม่ำเสมอด้วย หวังว่าการเลือกใช้งานของท่านจะผ่านไปได้ดีที่สุด ปลอดภัยได้มาตรฐาน

คุณลูกค้าสามารถดูรายละเอียดสินค้าเพิ่มเติมได้ที่
เว็บไซต์ : https://www.homepro.co.th/c/HHP0213

12


ท่านใดที่มีรองเท้ามาก มีหลายคู่ อีกสิ่งที่ช่วยให้รองเท้ามีระเบียบมากขึ้นก็คือ “กล่องรองเท้า” แต่การที่จะใช้งานได้ยาว ๆ นั้น การมองหากล่องที่มีมาตรฐานเป็นข้อสำคัญ แต่เราจะเลือกได้อย่างไร แน่นอนว่าการศึกษาปัจจัยต่าง ๆ ที่มีเกี่ยวกับกล่องเป็นสิ่งที่ท่านต้องรู้ เพื่อให้การจัดเก็บรองเท้าเป็นระเบียบมากขึ้นด้วยคุณภาพกล่องที่ใช้ได้ยาว ๆ

กล่องรองเท้าที่มีมาตรฐานดูไม่ยาก ช่วยเก็บรองเท้าเป็นระเบียบ
เราสามารถเลือกกล่องเก็บรองเท้าที่ดีที่สุดได้เอง โดยที่ไม่จำเป็นต้องวางรองเท้าให้เกะกะอีกต่อไป โดยที่กล่องนั้นเราเองนั้นควรต้องเลือกให้ตรงตามขนาดด้วย เพื่อให้การจัดเก็บเป็นเหมาะสมมากที่สุด อาทิเช่น รองเท้าเป็นขนาด 8 ก็ต้องเลือกกล่องที่สามารถใส่รองเท้าไซซ์ 8 ได้ด้วย เป็นขนาดที่ช่วยให้การเก็บรองเท้าง่ายมากขึ้น มีพื้นที่แบบที่ไม่ทำให้เสียทรง ใส่แล้วไม่เข้ารูป

นอกจากนี้ ท่านยังสามารถสังเกตที่กล่องได้ว่าอาจจะมีรอยตำหนิ ดังเช่น รอยยับ รอยฉีกขาด หรือฝาที่อาจจะมีบุบบ้าง แต่ก็ไม่ได้เสียหายเท่าไหร่ ทั้งอายุการใช้งานของตัวกล่องนั้นสามารถใช้ได้นาน 5 ปีขึ้นไป แต่ก็จะมีสภาพที่เปลี่ยนแปลงไปคือเปลี่ยนสี มีตำหนิบ้าง แนะนำว่าให้คุณเก็บในพื้นที่ที่ไม่ถูกแดด หรือถูกฝนมาก เพื่อลดความเสี่ยงอุณหภูมิมาทำให้เสียหายไว

เพิ่มเติมกล่องชนิดพลาสติก ความแข็งแรงที่น่าใช้งาน
แต่ถึงอย่างไรกล่องใส่รองเท้าไม่ได้มีเฉพาะกล่องกระดาษเท่านั้น ซึ่งปัจจุบันก็มีเป็นกล่องที่ทำจากพลาสติกใสด้วย โดยที่เราสามารถเลือกซื้อกันได้ตามความต้องการ มีขายหลากหลายรูปทรง แต่เป็นส่วนใหญ่แล้วก็จะเอาใส่ไว้ได้ทั้ง 2 ข้าง โดยรอบปิดล้อมหมด เปิดแบบเลื่อนฝาหรือ หรือเปิดออกเป็นฝากล่องใสได้เลย

ที่น่าสนใจมากขึ้นไปอีก คือมีความแข็งแรงทนทานสามารถวางซ้อน ๆ กันได้ยิ่งถ้ามีจำนวนรองเท้ามาก ๆ ด้วยแล้วไม่ผิดหวังอย่างแน่นอน แต่การที่จะใช้งานได้นาน ๆ ก็ต้องอยู่ที่การดูแลด้วย และต้องบอกว่ากล่องมีลักษณะเป็นสีเหลือง ๆ หรือมีรอยร้าวได้ การดูแลกล่องรองเท้าใสจึงค่อนข้างสำคัญไม่น้อย แนะนำว่าให้หมั่นเช็ดทำความสะอาดอย่างสม่ำเสมอหลังจากเอารองเท้าไปใช้งาน ทั้งนี้เพราะเราไม่รู้ว่าไปเหยียบอะไรมาบ้าง สิ่งสกปรกตกค้างเต็มไปหมดก็คงไม่ดีอย่างแน่นอน

เราสามารถหาซื้อกล่องรองเท้าที่เป็นมาตรฐานได้เลยตามต้องการ โดยที่กล่องอาจจะมีตำหนิบ้างไม่ใช่ปัญหา แต่ก็ต้องเข้าใจด้วยว่ากล่องแบบกระดาษก็จะใช้งานได้ไม่ยืนยาวเท่ากล่องพลาสติกใสใส่รองเท้า แต่ก็ขึ้นอยู่กับความชื่นชอบของแต่ละคนด้วย สุดท้ายการมีกล่องไว้เก็บรองเท้าเป็นระเบียบ เป็นสัดส่วนยอมสร้างความสวยงามให้กับพื้นที่ที่จัดเก็บมากขึ้น แถมไม่ต้องรื้อมากมายด้วย สามารถหยิบรองเท้ามาสวมได้สะดวกสบายไปอีก

ชมสินค้าเพิ่มเติมได้ที่
เว็บไซต์ : https://www.homepro.co.th/c/HHP1205

13


ทั้งนี้เพราะการใช้งานเก้าอี้ – โต๊ะพับปัจจุบันเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่ง ทำให้มีหลาย ๆ คนต้องการมีไว้ใช้งานเพื่ออำนวยความสะดวกให้ตัวเอง แต่การจะใช้งานให้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ เหมาะสม เราจำเป็นต้องพินิจพิจารณาปัจจัยหลายสิ่งเพื่อทำความเข้าใจและใช้งานอย่างดีที่สุด แต่จะต้องพินิจพิจารณาด้านไหนบ้าง อย่ารอช้ารีบไปกันเลยดีกว่า

ใช้งานเก้าอี้ – โต๊ะพับได้ประสิทธิภาพ ต้องพิจารณาสิ่งเหล่านี้
1. ขนาดของเก้าอี้ – โต๊ะ
เป็นสิ่งที่เราต้องคิดถึงก็คือเรื่องของขนาดในการใช้งาน โดยที่ต้องมีพื้นที่ให้เพียงพอ โดยที่เราต้องนึกถึงความต้องการใช้งานการใช้งานด้วย ซึ่งปัจจุบันมีการผลิตออกมาหลายขนาด ซึ่งส่วนมากจะใช้เป็นหน่วยวัดเซนติเมตร ตั้งแต่ 50 x 50 ซม. ไปจนถึง 90 x 180 cm. เลยทีเดียว

2. รูปแบบในการพับเก้าอี้ – โต๊ะ
ในเมื่อต้องการโต๊ะ – เก้าอี้พับ แน่นอนว่ารูปแบบการพับเป็นสิ่งสำคัญ โดยที่เราสามารถศึกษาการพับเก็บได้อย่างดีมีประสิทธิภาพ พับลงด้านซ้ายพับลงด้านขวา หรือพับตรงกลาง ซึ่งเราควรเลือกโต๊ะ – เก้าอี้ที่แข็งแรงด้วย และขนาดที่พับแล้วก็ต้องเล็ก เพื่อให้เกิดความสะดวกสบายในการจัดเก็บ การขนย้ายไปใช้งานตามพื้นที่ต่าง ๆ

3. รูปทรงที่มี
โต๊ะพับอเนกประสงค์มีให้เราได้ใช้งานหลากหลายรูปทรง ไม่ว่าจะ ทรงกลม ทรงสี่เหลี่ยม ทั้งสี่เหลี่ยมผืนผ้า สี่เหลี่ยมจัตุรัส เราควรเลือกให้พอเหมาะกับพื้นที่ที่จะวาง ขนาดพื้นที่ การใช้สอยต่าง ๆ อย่าง โต๊ะทรงกลมเหมาะสมกับการใช้งานเป็นโต๊ะอาหารเข้าถึงได้ทุก ๆ มุมเท่ากัน หรือโต๊ะเหลี่ยมเอาไว้นั่งประชุมมองเห็นหน้ากันได้ดี ฯลฯ

4. วัสดุที่ใช้ทำ
วัสดุในการทำเก้าอี้ หรือโต๊ะนั้นมีให้เลือกหลายแบบ ไม่ว่า ไม้อัด ลามิเนต ปาติเคิลบอร์ด หรือพลาสติกประเภทต่าง ๆ ที่ทุกอย่างมีส่วนช่วยให้แข็งแรงทนทาน ทนทุกสภาพอากาศทั้งแสงแดด และฝน สามารถใช้งานได้แบบยาว ๆ อายุการใช้งานยืนยาวมากขึ้น

5. ราคาที่เหมาะก็สำคัญ
ไม่ใช่แค่เรื่องขนาด การพับ หรือรูปทรงที่มีเท่านั้น แต่สิ่งที่จะช่วยเราไตร่ตรองด้วยก็คือราคา ซึ่งเราควรเลือกตามราคาตลาดกลาง ที่มีราคาดีที่สุด มีคุณภาพมากที่สุด ไม่ควรเลือกราคาแพงเกินไปเพราะว่าคุณภาพวัสดุอาจจะไม่ได้ดีมากพอ หรือถูกเกินไปก็ทำให้ใช้งานระยะสั้นลงด้วยคุณภาพที่ไม่ได้ดีตามราคา เพื่อให้เกิดความคุ้มค่าคุ้มราคามากที่สุด

การเลือกใช้งานเก้าอี้ – โต๊ะพับนั้นเป็นสิ่งที่ต้องจำเป็นมาก ๆ เพื่อให้ได้ใช้งานสมปรารถนา แต่ก่อนที่จะตกลงใจซื้อยังมีอีกสิ่งที่ต้องพิจารณาด้วย นั่นคือยี่ห้อ หรือแหล่งผลิตที่ดีมีคุณภาพ อาจจะชมจากรีวิวของผู้เคยใช้งานมาก่อนก็ได้ เพื่อเป็นการเพิ่มความแน่ใจในการซื้อใช้มากขึ้น

ชมรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
Website : https://www.homepro.co.th/c/OUT0607

14


แน่นอนว่าบ้านไหน ๆ ก็ต้องมีเครื่องใช้ในครัวเรือนอย่าง “หม้อหุงข้าว” และเมื่อใช้งานแล้วก็ต้องไม่ลืมที่จะทำความสะอาดให้ดีที่สุดด้วย เนื่องมาจากในการใช้งานมักจะมีเศษอาหารตกค้างอยู่ด้วยชนิดที่คาดไม่ถึงเลยจริง ๆ ในครั้งนี้เราจึงจะมาแนะนำเพื่อให้การดูแลรักษาผ่านไปได้อย่างดี จะได้สามารถใช้งานต่อไปยาว ๆ ไม่ชำรุดเสียหาย

การทำความสะอาดของหม้อหุงข้าวที่ไม่อาจละเลย
เครื่องครัวลักษณะนี้นั้นมีหลายจุดที่เราควรให้ความสำคัญมาก ๆ อาทิเช่นชั้นนอก รูระบายอากาศ ก้นหม้อ ฯลฯ แน่นอนว่าเราจำเป็นต้องให้ความสำคัญกับเรื่องเหล่านี้เพื่อยืดอายุการใช้งาน
1. การดูแลชั้นนอก : หากเป็นคราบน้ำมันที่ทำความสะอาดได้ยาก ให้เช็ดด้วยน้ำยาล้างจาน แต่ถ้าไม่สะอาดให้บีบยาสีฟังลงผ้าแล้วชุบน้ำหมาด ๆ มาเช็ดเบา ๆ ได้เลย คราบน้ำมันที่ติดแน่นอยู่ก็จะหลุดออกได้ง่ายมาก
2. การดูแลถังด้านใน : ชั้นนอกแล้วก็ต้องดูแลชั้นในด้วย เมื่อเราเอาหม้อออกไปแล้วไม่ควรใช้น้ำยาล้างจาน ให้ใช้ผงเบกกิ้งโซดา โดยวิธีการให้เทลงไปที่ฟองน้ำ แล้วเอาฟองน้ำไปจุ่มมาเช็ดล้าง แล้วเช็ดให้แห้งอีกทีด้วยผ้าปกติ
3. รูระบายอากาศ : ไม่ว่าจะเป็นหม้อหุงข้าวเล็กหรือขนาดใหญ่ ใด ๆ ก็ตามจะมีส่วนของรูระบายอากาศเป็นการป้องกันไม่ให้เกิดแรงดันสูงที่มากเกินไป โดยที่ความร้อนจะระบายออกมาตรงจุดนี้ และเกิดเป็นเศษข้าวหลงเหลืออยู่ เราก็ต้องถอดออกเพื่อเอาไปล้างด้วย หลังจากนั้นก็เช็ดขอบให้สะอาด เช็ดที่ช่องว่าง หากใครเกิดมีคราบน้ำมันติดอยู่ก็เอาน้ำยาล้างจานมาใช้เช็ดได้เช่นกัน แต่ก็ต้องล้างหลายรอบหน่อย จากนั้นก็เอาไปใช้ได้ปกติ
4. ก้นหม้อ : สุดท้ายคือการทำความสะอาดที่ก้นหม้อ ยิ่งเป็นหม้อหุงข้าวไฟฟ้าไม่แนะนำให้เอาแปรงเหล็ก หรือสก๊อตไบร์ซมาขัด ทั้งนี้เพราะจะทำให้ก้นหม้อเสียหายได้ หลังจากนั้นก็เอาผ้ามาชุบน้ำแล้วบิดให้หมาด ๆ พร้อมเช็ดหลายครั้ง หลังจากเช็ดแล้วก็เอาผ้าสะอาดมาเช็ดซ้ำอีกครั้ง

กระนั้นหม้อหุงข้าวก็มีสิ่งที่ควรทราบด้วย คือการใช้ความร้อนเมื่อหม้อเดือดก็ให้ปิดสวิตช์เป็นเวลา 8 – 10 นาที ให้ความร้อนที่เหมาะบนแผ่นความร้อนมีได้เต็มที่ และเมื่อไฟสีแดงดับเป็นไฟสีเหลืองติดเท่ากับว่าข้าวสุกแล้วก็ปิดไฟ และใช้ความร้อนที่มีอุ่นข้าวต่ออีก 10 นาทีด้วย อย่าเอาหม้อประเภทนี้ไปใช้ต้มน้ำเนื่องมาจากการใช้งานจะยาวนานมากกว่า อาจทำให้ก้นหม้อเสียหายได้ และอยากย้ำอีกครั้งว่าหากใช้งานแล้วก็ต้องดูแลทำความสะอาดให้ดีด้วย เพื่อการใช้งานที่มีประสิทธิภาพ อายุการใช้งานยืนยาว

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
เว็บไซต์ : https://www.homepro.co.th/c/APP0810

15


การใช้งานเครื่องฟอกอากาศพกพาในปัจจุบันนั้นได้รับความนิยมอย่างสูงเนื่องมาจากเราสามารถใช้งานเพื่อรับอากาศบริสุทธิ์ได้อย่างสบายใจ พร้อมลดอาการภูมิแพ้ อีกทั้งยังสามารถพกพาไปได้ทุกที่ไม่มีปัญหา แต่หากท่านไหนที่ยังไม่แน่ใจ ต้องการรายละเอียดประกอบการตัดสินใจ เราไม่พลาดที่จะรวบรวมมาให้ท่านอย่างเจาะลึก

เครื่องฟอกอากาศพกพาช่วยให้อากาศรอบตัวบริสุทธิ์
คงต้องบอกเลยว่าเครื่องฟอกอากาศแบบพกพานั้นมีความน่าสนใจอย่างยิ่ง เนื่องมาจากสามารถนำไปใช้ได้กับทุกพื้นที่ที่พร้อมช่วยให้เกิดประสิทธิภาพการกรองอากาศอย่างดีที่สุด แต่ถ้าขนาดพื้นที่เล็กก็จะช่วยกรองอากาศได้ดี โดยที่สามารถกรอกอากาศได้สูง 5 ขั้นตอน สามารถกรองฝุ่นละอองใหญ่ ๆ ได้ ไรฝุ่น รวมไปถึงสารที่ก่อให้เกิดภูมิแพ้ขนาดเล็ก ชนิดที่กรองอากาศครบจบในเครื่องเดียวเลย ช่วยให้การนอนหลับของเราก็จะสบายใจได้ตลอดคืน

ซึ่งบรรดาไรฝุ่น หรือละอองฝุ่นเรียกได้ว่าเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดโรคภูมิแพ้ง่ายมาก เกิดการระคายเคืองต่อระบบทางเดินหายใจ ซึ่งเครื่องช่วยฟอกอากาศนี้สามารถดักจับ และช่วยกรองฝุ่นละอองขนาดเล็กได้หมดจด ทำให้เราสามารถรับสูดอากาศที่ดีได้ ไม่ทำให้เกิดโรคร้ายแรงในระบบทางเดินอาหาร

ซึ่งโดยปกตินั้นนอกจากเครื่องช่วยฟอกอากาศจะเป็นเครื่องปกติแล้ว ก็ยังมีการพัฒนาเป็นเครื่องฟอกอากาศห้อยคอด้วย แบบนี้คือนอกจากจะช่วยฟอกอากาศได้ดีแล้ว ก็ยังเป็นอีกเครื่องประดับให้เราด้วยโดยที่พกติดตัวไปได้ตามสบาย ห้องนอนขนาดเล็ก รถยนต์ หรือแม้แต่เดินทางไปไหนเอาใส่กระเป๋าเดินทางได้เลยทันที สะดวกสบาย สามารถชาร์จไฟได้แบบไร้กังวลด้วยสายต่อ USB ที่มีให้ใช้งาน

มีส่วนสำคัญในการกรองฝุ่นและลดภูมิแพ้ได้ดี
และการได้ใช้งานเครื่องช่วยฟอกอากาศนี้ไม่ได้มีดีแค่กรองฝุ่น สารก่อภูมิแพ้เท่านั้น แต่ยังมีส่วนในการช่วยลดกลิ่นต่าง ๆ ได้ดี สามารถพกไปเพื่อนำไปใช้กรองกลิ่นอับ กลิ่นบุหรี่ได้ด้วยทุกที่ ยิ่งถ้าท่านใดที่มีสมาชิกสูบบุหรี่ด้วยจะที่บ้าน ที่ทำงาน หรือที่รถก็สามารถพกพาไปใช้งานได้เลย

การันตีว่าเครื่องนี้จะช่วยให้เกิดอากาศบริสุทธิ์อย่างแน่นอน โดยที่เราสามารถใช้ได้จนกว่าแบตเตอรี่จะหมด และถ้าหมดก็สามารถชาร์จแบตเตอรี่ได้เลยทันที ไม่กี่ชั่วโมงก็สามารถนำกลับเอามาใช้ใหม่ได้เลยทันที

ถึงอย่างไร ก่อนที่จะเลือกซื้อเครื่องฟอกอากาศพกพาควรพิจารณาหลากหลายด้าน ไม่ว่าจะเป็น รูปแบบการใช้งาน ฟังก์ชันต่าง ๆ ขนาดและความง่ายต่อการพกพา ระยะเวลาในการใช้งานของแบตเตอรี่ไปจนถึงการดูแลรักษาที่สามารถทำได้ง่ายมาก การชาร์จไฟสามารถเสียบปลั๊ก หรือใช้สาย USB ได้เลย จะชาร์จที่ยานพาหนะ หรือที่ Power Bank ได้หมด ช่วยลดความกังวลระหว่างใช้งานแล้วแบตเตอรี่จะหมดไม่มีเกิดขึ้นอย่างแน่นอน

ชมสินค้าเพิ่มเติมได้ที่
Official Website : https://www.homepro.co.th/c/APP0203

หน้า: [1] 2 3 ... 7





















































รวมเว็บลงประกาศฟรี ล่าสุด
รวมเว็บประกาศฟรี
โพสต์ขายของฟรี
ลงโฆษณาสินค้าฟรี
โฆษณาฟรี
ประกาศฟรี
เว็บฟรีไม่จำกัด
ทำ SEO ติด Google
ลงประกาศขาย
เว็บฟรียอดนิยม
โพสโฆษณา
ประกาศขายของ
ประกาศหางาน
บริการ แนะนำเว็บ
ลงประกาศ
รวมเว็บประกาศฟรี
รวมเว็บซื้อขาย ใช้งานง่าย
ลงประกาศฟรี ทุกจังหวัด
ต้องการขาย
ปล่อยเช่า บ้าน คอนโด ที่ดิน
ขายบ้าน คอนโด ที่ดิน
ประกาศฟรี ไม่มี หมดอายุ
เว็บประกาศฟรี ติดอันดับ
ฝากร้านฟรี โพ ส ฟรี
ลงประกาศฟรี กรุงเทพ
ลงประกาศฟรี ทั่วไทย
ลงประกาศโฆษณาฟรี
ลงประกาศฟรี 2023
รวมเว็บลงประกาศฟรี

รวม SMFขายสินค้า
ประกาศฟรีออนไลน์
ลงประกาศ สินค้า
เว็บบอร์ด โพสต์ฟรี
ลงประกาศ ซื้อ-ขาย ฟรี
ชุมชนคนไอทีขายสินค้า
ลงประกาศฟรีใหม่ๆ 2023
โปรโมทธุรกิจฟรี
โปรโมทสินค้าฟรี
แจกฟรี รายชื่อเว็บลงประกาศฟรี
โปรโมท Social
โปรโมท youtube
แจกฟรี รายชื่อเว็บ
แจกฟรีโพสเว็บบอร์ดsmf
เว็บบอร์ดsmfโพสฟรี
รายชื่อเว็บบอร์ดขายสินค้าฟรี
ลงประกาศฟรี เว็บบอร์ด
เว็บบอร์ดขายสินค้าฟรี
ฟรี เว็บบอร์ด แรงๆ
โพสขายสินค้าตรงกลุ่มเป้าหมาย
โฆษณาเลื่อนประกาศได้
ขายของออนไลน์
แนะนำ 6 วิธีขายของออนไลน์
อยากขายของออนไลน์
เริ่มต้นขายของออนไลน์
ขายของออนไลน์ เริ่มยังไง
ชี้ช่องขายของออนไลน์
การขายของออนไลน์
สร้างเว็บฟรีประกาศ

smf โพสฟรี
smf ขายของออนไลน์อะไรดี
smf โพสฟรี
อยากขายของออนไลน์ smf
ขายของออนไลน์ยังไงให้มีคนซื้อ
smf เริ่มต้นขายของออนไลน์
ไอ เดีย การขายของออนไลน์
เว็บขายของออนไลน์
เริ่ม ขายของออนไลน์ โพสฟรี
smf ขายของออนไลน์ที่ไหนดี
เทคนิคการโพสต์ขายของ
smf โพสต์ขายของให้ยอดขายปัง
โพสต์ขายของให้ยอดขายปังโพสฟรี
smf ขายของในกลุ่มซื้อขายสินค้า
โพสขายของยังไงให้มีคนซื้อ
smf โพสขายของแบบไหนดี
โพสฟรีแคปชั่นโพสขายของยังไงให้ปัง
smf แคปชั่นแม่ค้าออนไลน์
แคปชั่นแม่ค้าออนไลน์ โพสฟรี
ขายของให้ออร์เดอร์เข้ารัว ๆ
smf โพสต์เรียกลูกค้า
โพสต์เรียกลูกค้าโพสฟรี
smf ขายของออนไลน์ให้ปัง
smf โพสต์ขายของ
smf เขียนโพสขายของโดนๆ
แคปชั่นเปิดร้าน โพสฟรี
smf วิธีโพสขายของให้น่าสนใจ
วิธีเพิ่มยอดขาย โพสฟรี
smf เทคนิคเพิ่มยอดขาย

เพิ่มยอดขายให้เข้าเป้า
เว็บบอร์ดฟรี
โปรโมทฟรี
มีลูกค้าเพิ่ม - YouTube
ผลักดันยอดขายโปรโมทฟรี
โปรโมทผลักดันยอดขาย
โปรโมทแผนการเพิ่มยอดขายให้ได้ผล
โปรโมทวิธีการวางแผนการเพิ่มยอดขาย
ยอดขายไม่ดีควรทำอย่างไร
ยอดขายตกเกิดจากอะไร
ทำไมต้องเพิ่มยอดขาย
ขายฟรี
ยอดการขาย คืออะไร
กลยุทธ์เพิ่มยอดขาย
โพสฟรีการกระตุ้นยอดขาย
โปรโมทกระตุ้นยอดขาย
โปรโมทฟรีออนไลน์กระตุ้นยอดขาย
ประกาศฟรีเพิ่มยอดขาย
ลงประกาศเพิ่มยอดขาย
ฝากร้านฟรีเพิ่มยอดขาย
ลงประกาศฟรีใหม่ ๆ เพิ่มยอดขาย
เว็บประกาศฟรีเพิ่มยอดขาย
Post ฟรี
ประกาศขายของฟรี
ประกาศฟรี
โพส SEO
ลงโฆษณาฟรี
โปรโมทเพจร้านค้า