tokyo motor show: ลองขับ New ISUZU MU-X RS 2.2 ลิตร MAXFORCE ขับมันกว่า 1.9 แรงเ

[siritidaphon]

tokyo motor show: ลองขับ New ISUZU MU-X RS 2.2 ลิตร MAXFORCE ขับมันกว่า 1.9 แรงเทียบ 3.0 สบาย ๆ

ISUZU มาถูกทางแล้ว! 2.2 Ddi MAXFORCE ใหม่ ทำให้ลบภาพความอืดเดิม ๆ ของเจ้า 1.9 ลิตร ไปอย่างสิ้นเชิง ขับมันอัตราเร่งทันใจขึ้นและประหยัดกว่า พร้อมกับรุ่นพิเศษ RS มาพร้อมพวงมาลัย ไฟฟ้า EPS เบาสบายคล่องตัวทุกการเลี้ยวหรือจอดที่แคบ กล้องรอบคันปรับหลายมุมมอง เบาะพับแบนราบได้ ช่วงล่างกระชับมั่นใจ ล้อใหญ่ 20 นิ้ว ปรับปรุงใหม่ครั้งนับว่าหาที่ติได้น้อยมาก แต่เรื่องระบบเกียร์อาจจะยังมีกระตุกบ้าง!
 
New ISUZU MU-X RS 2.2 มาพร้อมการตกแต่งพิเศษ "RS" ที่นับเป็นรุ่นที่คุ้มค่ามาก ๆ เพราะเดิมที หากต้องการรุ่นพิเศษนี้ต้องขัยบขึ้นไปรุ่นท็อปเครื่อง 3.0 ลิตร เท่านั้น แต่ปัจจุบัน สามารถเป็นเจ้าของได้ในรุ่นเครื่องยนต์ใหม่ 2.2 ลิตร ในราคาเพียง 1,624,000 บาท หยัดลงจากรุ่น 3.0 RS 4X2 ที่มีราคา 1,659,000 บาท หรือ 3.0 RS 4X4 ราคา 1,759,000 บาท และแม้เทียบรุ่น 3.0 RS 4X2 กับ 2.2 RS 4X2 แล้วจะต่างกันแค่ 70,000 บาท หากเทียบค่างวดอาจจะเพิ่มขึ้นหลายพันบาท และอาจไม่มีความจำเป็นต้องใช้เครื่อง 3.0 ลิตร หรือไม่ต้องการระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ ที่ต้องมีการบำรุงรักษาเพิ่มขึ้นและยังต้องเสียภาษีประจำปีที่แพงกว่า

 
2.2 ลิตร ได้รุ่นพิเศษ "RS" แล้ว

ภายนอกและภายใน New ISUZU MU-X RS 2.2 เด่นด้วยกระจังหน้าใหม่ "DIAMOND GRILLE" พร้อมตราสัญลักษณ์ "RS" ชุดกันชนหน้า "FIGHTER JET" ออกแบบให้หลบแรงลมลดการต้านของอากาศและมีช่องระบายลมด้านข้าง ไฟหน้าดีไซน์ใหม่ "DTNAMIC BLADE" และไฟท้ายใหม่ หลังคาสีดำ กระจกมองข้าง เสาอากาศครีบฉลาม ซุ้มล้อ สีดำ และล้ออัลลอยขนาด 20 นิ้ว ยาง 265/50R20 

ภายในมาตรวัดแสดงผลการทำงานต่าง ๆ ครบถ้วน โดยเฉพาะแสดงการทำงานของระบบช่วยเหลือการขับขี่ ADAS และยังบอกฟังก์ชั่นเกี่ยวกับ "Off-Road" เช่น มุมเอียง, มุมล้อหน้า, โหมดแสดงภาพจำลองใต้ท้องรถ และยังมีระยะทางพร้อมอัตราสิ้นเปลือง, ตั้งค่าต่าง ๆ, ระดับการใช้คันเร่งและเบรก เป็นต้น
 

พวงมาลัยปรับระดับได้ 4 ทิศทาง พร้อมสวิตช์ควบคุมการใช้งานที่ง่ายและสะดวกสบาย ทั้งระบบควบคุมความเร็วแปรผัน พร้อมตั้งระยะห่าง, สั่งเปิด-ปิดระบบป้องกันออกนอกเลน, เปิด-ปิดกล้องรอบคัน, ปรับระดับเสียง, รับวางสาย และยังมี "Paddle Shift" เพื่อเปลี่ยนตำแหน่งเกียร์อีกด้วย ถัดมาที่จอกลางที่เชื่อมต่อ Apple CarPlay และ Android Auto แบบไร้สาย แอร์ดิจิทัลแบบอัติโนมัติแยกปรับอุณหภูมิซ้าย-ขวา และแอร์หลังแยกเปิด-ปิดได้อิสระ พร้อมสวิตช์ควบคุมสำหรับคนขับที่แผงสวิตช์ฝั่งขวาหัวเข่าผู้ขับขี่
 

ในจอกลางนั้นยังมีฟังก์ชั่นต่าง ๆ นอกจากพื้นฐานทั่วไปอีกมากมาย เช่น กล้องรอบคันปรับมุมมองได้หลายแบบ ตั้งค่าระบบช่วยเหลือการขับขี่ (ADAS) ต่าง ๆ ทั้ง เตือนออกนอกเลน เตือนก่อนชนด้านหน้า เตือนเมื่อมีรถมาขณะถอยหลัง และสามารถตั้งระบบการสั่งงานต่าง ๆ ของตัวรถได้ในหน้าจอนี้ พร้อมช่องชาร์จมือถือแบบ TYPE-C ด้านหน้า 1 ช่อง ที่ด้านหลังที่เท้าแขนสำหรับผู้โดยสารหลังอีก 2 ช่อง 
 
มาที่คอนโซนกลางหัวเกียร์แบบเลื่อนหน้า-หลัง พร้อมโหมด "M/+/-" เปลี่ยนเกียร์ได้ตามต้องการเพียงการเลื่อนมาตำแหน่ง "N" และโยกมาทางขวา ซึ่งจะใช้เปลี่ยนที่ Paddle Shift บนพวงมาลัยก็ย่อมได้เช่นกัน สวัตช์เปิด-ปิดระบบ Stop & Start เมื่อรถจอดนิ่งขณะขับขี่เพื่อประหยัดน้ำมัน, สวิตช์เปิด-ปิดระบบเซ็นเซอร์ช่วยจอด, สวิตช์เปิด-ปิดระบบช่วยลงทางลาดชัน และ สวิตช์เปิด-ปิดระบบควบคุมการลื่นไถล   
 
เบาะคู่หน้ายังคงนั่งสบาย ฝั่งคนขับปรับไฟฟ้า 8 ทิศทาง ข้างคนขับ 4 ทิศทาง เบาะแถวที่สองปรับเอนได้และพับแบนราบ ส่วนเบาะแถวสามพับแยก 50:50 และพับแบนราบได้เช่นกัน ส่วนท้ายหากยังไม่พับเบาะจะมีมีพื้นที่เก็บของเล็กน้อยแต่เมื่อพับแล้วก็จะกว้างมากขึ้น พร้อมความสะดวกสบายด้วยฝาท้ายไฟฟ้าแบบ Step Sensor และมาพร้อมระบบรีโมทสั่งสตาร์ตรถระยะไกลได้อีกด้วย
 

สมรรถนะ 2.2 ลิตร ใหม่ ขับมันทันใจ แรงกว่า 1.9 ลิตร เยอะ!

สมรรถนะของเครื่องยนต์ใหม่ 2.2 MAXFORCE ที่มาพร้อมกำลังสูงสุด 163 แรงม้า ที่ 3,600 รอบต่อนาที และแรงบิด 400 นิวตันเมตร ที่ 1,600 - 2,400 รอบต่อนาที ผ่านเกียร์อัตโนมัติ 8 จังหวะ ใหม่ และขับเคลื่อนล้อหลัง ทำให้ออกตัวทันใจและเปลี่ยนเกียร์ได้นุ่มนวลราบรื่น เมื่อเทียบกับในเครื่อง 1.9 ลิตร เดิมนั้น รู้สึกได้ทันทีถึงความแรงและกำลังที่มีตุนเอาไว้เมื่อเหยียบคันเร่ง การตอบสนองเมื่อต้องการเร่งแซงนั้น จะมีอาการรอรอบและเปลี่ยนเกียร์เล็กน้อย ก่อนที่จะไต่ระดับความเร็วขึ้นไปได้อย่างสบาย ๆ นับว่า มีกำลังมาเพียงพอในการใช้งานและแบกตัวขนาด 2 ตันนิด ๆ ได้สบาย และเมื่อเป็นเครื่องยนต์ใหม่จึงมีค่ามาตรฐานระดับ Euro5 จึงมีปุ่มระบายเขม่าตกค้างมาให้ด้วย
 
พวงมาลัยน้ำหนักดี เบาสบาย คมกระชับ คล่องตัวทุกการเคลื่อนไหว โดยเฉพาะเมื่อต้องจอดรถในที่แคบ ๆ หรือต้องขับผ่านเส้นทางคดเดี้ยวไปมา ผู้ขับไม่ต้องออกแรงมากให้เหนื่อย รวมถึงเมื่อขับขี่นาน ๆ ก็ลดอาการเมื่อยล้าลงไปได้เยอะ เนื่องจากไม่ต้องค่อยเกรงมือพยุงพวงมาลัยมากเท่ารุ่นที่ยังใช้ระบบไฮดลอลิค นับว่าอีซูซุนั้น มาถูกทางแล้ว ส่วนตัวเห็นว่าการที่ได้พวงมาลัยไฟฟ้าเพียงแค่นี้ก็เหมือนขับรถคนละคันเลย หากเทียบกับรุ่นก่อนหน้าที่เป็นพวงมาลัยปกติ สำรองว่าคนตัวเล็ก สุภาพสตรี ก็สามารถขับขี่ New ISUZU MU-X RS 2.2 ที่คันใหญ่โตขนาดนี้ได้ง่าย ๆ เบาแรงในแบบเดียวกับที่ขับรถยนต์ซีดานทั่วไป 


ขุมพลังมากเกียร์ ก็มากความ!
แม้ว่าเครื่องยนต์รุ่นใหม่จะมีพละกำลังมากขึ้นกว่ารุ่น 1.9 ลิตร เดิม แต่เนื่องจากเปลี่ยนมาใช้เกียร์ 8 จังหวะ ความรู้สึกในการขับขี่จะเปลี่ยนไป เช่น การเร่งออกตัวแรง ๆ จะรู้สึกว่าเครื่องยนต์ลากรอบสั้น ๆ แล้วก็รีบเปลี่ยนจังหวะต่อไปเรื่อย ๆ เพราะอัตราทดที่ปรับให้ชิดและถี่ขึ้น จึงขาดความมันในอารมณ์ขณะลากเกียร์ หรือเรียกว่า "เปลี่ยนเกียร์เร็วมาก" และในบางช่วงที่ความเร็วต่ำ ๆ มีอาการ "กระตุกเบา ๆ" ช่วงรอยต่อระหว่างเกียร์ ซึ่งจะเป้นในช่วงความเร็วต่ำ กำลังใช้คันเร่งน้อย ๆ และยกคันเร่ง แต่ความเร็วรถยังไหลต่อเนื่อง ระบบจึงเปลี่ยนจังหวะเกียร์ต่อไปโดยไม่มีการเร่งเครื่องยนต์ ทำให้เกิดอาการนี้ แต่ก็นับว่าเป็นอาการปกติไม่มีอะไรต้องกังวลมากไปครับ
 
ช่วงล่างสำหรับ "คนสายหนึบแน่น" ต้องชอบแน่ ๆ เพราะมีความแน่น หนึบ กระเด้งที่ความเร็วต่ำ แต่พอความเร็วสูง ๆ ก็ให้ความหนึบกระชับมั่นใจด้วย ซึ่งต้องยอมรับว่า ช่วงล่างที่แข็งกระด่างหรือให้ความหนึบแบบนี้ มักจะกระเทือนในการขับขี่ความเร็วต่ำอยู่แล้ว ประกอบกับยางแก้มเตี้ยเพียงซีรีย์ 50 ยิ่งกระเทือนมากขึ้น จึงต้องยอมแลกกัน ถ้านุ่มเกินไปเมื่อใช้ความเร็วมาก ๆ ก็จะเกิดอากร "ย้วย" ตามมาได้ ส่วนคนที่ชอบความนุ่มนวลมาก ๆ ไม่เน้นความหนึบนั้น อาจจะต้องทำใจยอมรับหรืออาจต้องไปปรับเปลี่ยนช่วงล่างเพิ่มเติม หรือไม่ก็ต้องเลือกในรุ่นธรรมดา โดยรวมแล้วเป็นรถที่ขับแล้วมั่นใจทั้งระบบบังคับเลี้ยว ช่วงล่าง กำลังเครื่องยนต์ที่เพียงพอ
 
ระบบความปลอดภัย ADAS เยอะ..กล้องรอบคันชัดแจ๋ว!
 
New ISUZU MU-X RS 2.2 ให้ระบบความปลอดภัยพื้นฐานที่นับว่าเยอะมากรุ่นหนึ่งอยู่แล้ว และยังเพิ่ม ADSA ใหม่มาอีกหลายระบบตั้งแต่รุ่นก่อนหน้านี้แล้ว ระบบเหล่านี้จะช่วยให้การเดินทางปลอดภัยมากยิ่งขึ้นและเป็นเสมือนผู้ช่วยในการเดินทางและช่วยเหลือการขับขี่ทั้งก่อนเกิดเหตุและหลังเกิดเหตุ
 
กล้องมองรอบคัน 360 องศา พร้อมมุมมองแบบ 3 มิติ สามารถเลือกได้หลายมุมมอง โดยเฉพาะการแสดงภาพจำลองใต้ท้องรถเมื่อต้องขับขี่ผ่านอุปสรรค
ระบบเบรกมือไฟฟ้า พร้อมระบบ Auto Hold
ระบบป้องกันล้อล็อก ABS พร้อม EBD และ B A
ระบบลดกําลังเครื่องยนต์เพื่อช่วยเบรก BOS
ระบบควบคุมการทรงตัวอัตโนมัติ ESC
ระบบป้องกันล้อหมุนฟรีขณะออกตัว TCS
ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน HSA
ระบบควบคุมความเร็วขณะลงทางลาดชัน HDC
ระบบควบคุมการส่ายของส่วนพ่วงท้าย TSC
ระบบช่วยเตือนมุมอับสายตาที่กระจกมองข้าง BSM
ระบบช่วยเตือนขณะถอยรถและระบบช่วยเบรกขณะถอยรถ RCTA & RCTB
ระบบแจ้งเตือนก่อนการชนด้านหน้า FCW
ระบบเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ AEB
ระบบชว่ยควบคุมรถไม่ให้ออกนอกเลน และระบบแจ้งเตือนเมื่อรถออกนอกเลน LDP & LDW
ระบบช่วยควบคุมให้รถอยู่ในเลนและใช้ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ LKAS
ระบบช่วยควบคุมรถขณะรถติดและใช้ระบบควบคุความเร็วอัตโนมัติ TJA
ระบบตัดกําลงเครื่องยนต์เมื่อเหยียบคันเร่งผิดพลาด PMM
ระบบเบรกอัตโนมัติหลังการเกิดอุบัติเหตุ MCB
ระบบเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติเมื่อมีรถสวนทาง ขณะเลี้ยวขวา TA-AEB
ระบบล็อกรถอัตโนมัติเมื่อกุญแจรีโมทอยู่ห่างจากตวรถ (Walk Away Auto Lock)


สรุปความคุ้มค่า New ISUZU MU-X RS 2.2 ราคา 1,624,000 บาท

New ISUZU MU-X RS 2.2 เป็นรถที่เหมาะกับผู้ต้องการรถยนต์ครอบขนาดใหญ่ ฟังก์ชั่นเยอะ เดินทางไกลท่องเที่ยวบ่อย แต่ขณะเดียวกันยังคงต้องขับขี่ใช้งานในชีวิตประจำวัน จึงต้องเป็นรถที่ "คันเดียวจบทั้งบ้าน" จบทุกกิจกรรม และมั่นใจใช้งานอย่างหายห่วง โดยเฉพาะเจ้ารุ่นพิเศษ RS นี้เป็นรุ่นตกแต่งที่สามารถเป็นเจ้าของได้ในรุ่นเครื่องยนต์ 2.2 ลิตร จากเดิมที่ต้องขยับเงินไปซื้อรุ่น 3.0 ลิตร จึงจะได้รุ่น RS นี้ นับว่า New ISUZU MU-X RS 2.2 Ddi MAXFORCE สำหรับครอบครัวขนาดใหญ่ที่คุ้มค่ากับราคาที่จ่ายไปมากที่สุดรุ่นหนึ่งจริง ๆ ครับ สุดท้ายใครสนใจต้องไปทดลองขับจับและสัมผัสคันจริง ๆ ก่อนตัดสิ้นใจว่าจะตรงกับความต้องการของคุณหรือไม่ เพราะเงินล้านหกต้องได้รถที่คุ้มค่ามากที่สุดครับ