การติดตั้งและจัดเก็บผ้ากันไฟ ไม่ให้เกิดความเสียหายการติดตั้งและจัดเก็บผ้ากันไฟอย่างถูกต้องเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งในการรักษาประสิทธิภาพและยืดอายุการใช้งานของผ้าให้ยาวนานที่สุด เพื่อให้แน่ใจว่าผ้าจะพร้อมใช้งานและไม่เสียหายเมื่อเกิดเหตุฉุกเฉิน นี่คือแนวทางที่ควรปฏิบัติตาม:
การติดตั้งผ้ากันไฟ เพื่อป้องกันความเสียหาย
การติดตั้งผ้ากันไฟในลักษณะ Welding Blanket (สำหรับงาน Hot Work) ควรทำอย่างระมัดระวังและถูกวิธีเพื่อไม่ให้ผ้าเกิดความเสียหายขณะใช้งาน:
เลือกตำแหน่งและวิธีการติดตั้งที่เหมาะสม:
พิจารณาพื้นที่ใช้งาน: ระบุจุดที่มีการทำงาน Hot Work (เชื่อม, ตัด, เจียร) บ่อยครั้ง หรือจุดที่เสี่ยงต่อการเกิดประกายไฟ
กำหนดขอบเขตการป้องกัน: ผ้ากันไฟต้องมีขนาดใหญ่เพียงพอที่จะครอบคลุมพื้นที่ที่ประกายไฟหรือสะเก็ดไฟสามารถกระเด็นไปถึงได้ โดยควรเผื่อขอบ อย่างน้อย 1-2 เมตร จากจุดทำงานเพื่อความปลอดภัยสูงสุด
รูปแบบการติดตั้ง:
เป็นฉากกั้น/ม่าน (Vertical Screen): ติดตั้งในแนวตั้งเพื่อกั้นประกายไฟและสะเก็ดไฟไม่ให้กระเด็นออกนอกพื้นที่ทำงาน ควรใช้ห่วงตาไก่ (Grommets) ที่มีอยู่บนผ้าเพื่อแขวนกับโครงสร้างที่แข็งแรง (เช่น โครงเหล็ก, ราวแขวน, ขาตั้ง) และใช้คลิปหนีบหรือเชือกทนไฟยึดให้แน่นหนา
คลุมพื้น/อุปกรณ์ (Horizontal Cover): ใช้ปูบนพื้น หรือคลุมอุปกรณ์/เครื่องจักรที่ไม่สามารถเคลื่อนย้ายได้ เพื่อป้องกันสะเก็ดไฟที่ตกลงมา
การยึดตรึงให้แน่นหนา:
ป้องกันการปลิว: ผ้ากันไฟที่แขวนอยู่ต้องถูกยึดตรึงให้แน่นหนา ไม่ปลิวสะบัดตามลมหรือกระแสอากาศ เพราะการปลิวอาจทำให้สะเก็ดไฟเล็ดลอดผ่านไปได้ หรือผ้าอาจเคลื่อนไปสัมผัสกับแหล่งความร้อนโดยตรง
ระวังจุดรับน้ำหนัก: หากผ้ามีขนาดใหญ่และมีน้ำหนักมาก ควรกระจายจุดรับน้ำหนักไปยังห่วงตาไก่หลายๆ จุด เพื่อลดแรงดดึงที่จุดใดจุดหนึ่ง ซึ่งอาจทำให้ผ้าฉีกขาดได้
หลีกเลี่ยงการเสียดสีและการสัมผัสของมีคม:
ไม่ลากถู: หลีกเลี่ยงการลากผ้ากันไฟไปบนพื้นผิวที่หยาบ ขรุขระ หรือมีของมีคม เช่น เศษโลหะ, ขอบคอนกรีต ซึ่งอาจทำให้ผ้าเกิดรอยถลอก ฉีกขาด หรือเป็นรูได้ง่าย
ระวังขอบคม: หากติดตั้งใกล้กับขอบโลหะหรือส่วนที่มีคม ควรใช้เทปหนาๆ หรือวัสดุรองป้องกันไม่ให้ผ้าสัมผัสกับขอบคมโดยตรง
หลีกเลี่ยงการพับทบหรือบิดงอในจุดที่ได้รับความร้อนสูง:
ในระหว่างการใช้งาน โดยเฉพาะในบริเวณที่สะเก็ดไฟจะตกลงมาหรือสัมผัสกับผ้าโดยตรง ควรแผ่ผ้าให้ เรียบและตึงที่สุด การพับทบหรือบิดงออาจทำให้เกิดจุดรวมความร้อน และเร่งให้ผ้าเสื่อมสภาพเสียหายจากความร้อนได้เร็วกว่าปกติ
การจัดเก็บผ้ากันไฟ เพื่อไม่ให้เกิดความเสียหาย
การจัดเก็บที่เหมาะสมเป็นหัวใจสำคัญในการยืดอายุการใช้งานผ้ากันไฟให้ยาวนานที่สุด:
ทำความสะอาดก่อนจัดเก็บ:
หลังจากใช้งาน ให้ตรวจสอบผ้าเพื่อดูว่ามีคราบสกปรก คราบน้ำมัน เศษโลหะ หรือเขม่าควันติดอยู่หรือไม่
ทำความสะอาดผ้าตามคำแนะนำของผู้ผลิต ห้ามใช้สารเคมีรุนแรง หรือวิธีการซักที่ไม่เหมาะสม เพราะอาจทำลายคุณสมบัติการหน่วงไฟและสารเคลือบผิวได้
ตรวจสอบให้แน่ใจว่าผ้า แห้งสนิท ก่อนจัดเก็บ เพื่อป้องกันการเกิดเชื้อรา กลิ่นอับ หรือการเสื่อมสภาพจากความชื้น
สภาพแวดล้อมในการจัดเก็บ:
ที่แห้งและสะอาด: เก็บผ้ากันไฟในบริเวณที่ปราศจากความชื้น ฝุ่นละออง และสิ่งสกปรก
พ้นจากแสงแดดโดยตรง: รังสียูวีจากแสงแดดสามารถทำให้วัสดุบางชนิดเสื่อมสภาพ สีซีดจาง และเปราะเร็วขึ้น
ห่างจากแหล่งความร้อน: เก็บให้ห่างจากเตา, เครื่องจักร, หรือแหล่งความร้อนอื่นๆ ที่อาจทำให้ผ้าเสื่อมสภาพก่อนเวลา
ป้องกันการสัมผัสสารเคมี: เก็บให้ห่างจากสารเคมี กรด ด่าง หรือน้ำมัน ที่อาจกัดกร่อนหรือทำลายเส้นใยและสารเคลือบของผ้าได้
วิธีการจัดเก็บ:
ม้วนหรือพับอย่างระมัดระวัง: ม้วนผ้ากันไฟให้เรียบร้อยและไม่ให้เกิดรอยพับหักคมที่อาจทำให้เส้นใยเสียหาย การพับที่ไม่ถูกต้องอาจทำให้เกิดรอยแตกหรือรอยยับถาวร
เก็บในซอง/ถุง/กล่องบรรจุ: ผ้ากันไฟหลายชนิด โดยเฉพาะ Fire Blanket มักมาพร้อมกับซองหรือกล่องบรรจุภัณฑ์ การเก็บไว้ในซองเดิมจะช่วยป้องกันฝุ่นละออง ความชื้น และความเสียหายทางกายภาพ
แขวนหรือวางราบ: หากเป็น Welding Blanket ที่มีขนาดใหญ่ อาจใช้วิธีแขวนบนราว หรือวางราบในพื้นที่จัดเก็บที่สะอาดและแห้ง โดยไม่ให้มีการกดทับด้วยของหนัก
ไม่วางสิ่งของทับ: หลีกเลี่ยงการวางสิ่งของหนักทับบนผ้ากันไฟ เพราะอาจทำให้โครงสร้างผ้าเสียหายหรือเสียรูปทรง
การเข้าถึงและการระบุตำแหน่ง:
ง่ายต่อการเข้าถึง: แม้จะจัดเก็บอย่างดี แต่ผ้ากันไฟ (โดยเฉพาะ Fire Blanket) ควรอยู่ในตำแหน่งที่ มองเห็นได้ง่ายและหยิบใช้ได้สะดวก เมื่อเกิดเหตุฉุกเฉิน
ติดป้ายระบุ: ควรมีป้ายระบุประเภทของผ้าและคำแนะนำการใช้งานเบื้องต้น เพื่อให้ผู้ใช้งานเข้าใจและหยิบใช้ได้อย่างถูกต้อง
การติดตั้งและการจัดเก็บอย่างถูกวิธีจะช่วยให้ผ้ากันไฟมีอายุการใช้งานตามที่คาดหวัง และที่สำคัญที่สุดคือ สามารถทำหน้าที่ป้องกันและลดความเสี่ยงจากเพลิงไหม้ได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุดในยามที่ต้องการใช้จริง