หมอประจำบ้าน: โรคพยาธิใบไม้ตับ (Opisthorchiasis)โรคพยาธิใบไม้ตับ (Opisthorchiasis) เป็นโรคที่เกิดจากการติดเชื้อปรสิตชนิดหนึ่งชื่อว่า พยาธิใบไม้ตับ (Liver Fluke) โดยในประเทศไทยมักหมายถึงเชื้อ Opisthorchis viverrini ซึ่งเป็นปัญหาทางสาธารณสุขที่สำคัญ โดยเฉพาะในภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคเหนือ เนื่องจากมีความสัมพันธ์อย่างใกล้ชิดกับการเกิด มะเร็งท่อน้ำดี (Cholangiocarcinoma)
1. สาเหตุและการติดต่อ
สาเหตุหลักของโรคพยาธิใบไม้ตับคือ การรับประทานปลาน้ำจืดที่มีเกล็ดแบบสุก ๆ ดิบ ๆ หรือดิบ ซึ่งมีตัวอ่อนระยะติดต่อของพยาธิ (Metacercariae) ฝังอยู่
วงจรชีวิต:
ไข่พยาธิ: พยาธิตัวแก่ในท่อน้ำดีของคน (โฮสต์สุดท้าย) จะปล่อยไข่ออกมาปนกับอุจจาระ
หอยน้ำจืด: ไข่พยาธิถูกหอยน้ำจืด (โฮสต์ตัวกลางที่ 1) กินเข้าไปและฟักตัวเป็นตัวอ่อน
ปลาเกล็ดน้ำจืด: ตัวอ่อนออกจากหอยและเข้าสู่ปลาเกล็ดน้ำจืด (โฮสต์ตัวกลางที่ 2) เช่น ปลาตะเพียน ปลาซิว ปลาสร้อยนกเขา โดยจะฝังตัวในเนื้อปลาในระยะที่เรียกว่า Metacercariae
การติดเชื้อในคน: เมื่อคนกินปลาดิบหรือสุก ๆ ดิบ ๆ ที่มี Metacercariae ตัวอ่อนจะเดินทางจากกระเพาะอาหารไปยังท่อน้ำดีในตับ และเจริญเติบโตเป็นพยาธิตัวแก่
2. อาการของโรคพยาธิใบไม้ตับ
อาการของโรคพยาธิใบไม้ตับขึ้นอยู่กับจำนวนพยาธิและความเรื้อรังของการติดเชื้อ
ระยะแรก/มีพยาธิจำนวนน้อย
มักจะ ไม่มีอาการ หรือมีอาการเพียงเล็กน้อย
อาการคล้ายอาหารไม่ย่อย เช่น ท้องอืด ท้องเฟ้อ แน่นท้อง เป็นครั้งคราว
รู้สึกร้อนท้อง หรือปวดตื้อ ๆ บริเวณใต้ชายโครงขวา
ระยะเรื้อรัง/มีภาวะแทรกซ้อน
หากปล่อยให้มีการติดเชื้อเรื้อรัง พยาธิจะทำให้เกิดการอักเสบของท่อน้ำดี และนำไปสู่ภาวะแทรกซ้อนที่รุนแรง
อาการท่อน้ำดีอักเสบ/อุดตัน:
ตัวเหลือง ตาเหลือง (ดีซ่าน)
ไข้ต่ำ ๆ หรือไข้สูงร่วมกับหนาวสั่น (จากภาวะท่อน้ำดีอักเสบติดเชื้อแบคทีเรียแทรกซ้อน)
ปวดท้องบริเวณด้านขวาบน หรือใต้ลิ้นปี่
คลำพบตับโตและกดเจ็บ
อาการอื่น ๆ: อ่อนเพลีย เบื่ออาหาร น้ำหนักลด ท้องเสียเรื้อรัง
ภาวะแทรกซ้อนที่สำคัญที่สุด
โรคมะเร็งท่อน้ำดี (Cholangiocarcinoma): เป็นภาวะแทรกซ้อนที่ร้ายแรงที่สุดและเป็นผลจากการที่พยาธิกระตุ้นให้เกิดการอักเสบเรื้อรังในท่อน้ำดี
3. การวินิจฉัยและการรักษา
การวินิจฉัย
การตรวจอุจจาระ: เพื่อหาไข่พยาธิใบไม้ตับ ซึ่งเป็นการวินิจฉัยที่ยืนยันการติดเชื้อ
การตรวจคัดกรองในกลุ่มเสี่ยง: ปัจจุบันมีการพัฒนาวิธีการตรวจคัดกรองด้วยวิธีอื่น ๆ เช่น การตรวจจากปัสสาวะ หรือการทำอัลตราซาวด์ช่องท้องเพื่อดูความผิดปกติของตับและท่อน้ำดีในกลุ่มเสี่ยงมะเร็งท่อน้ำดี
การรักษา
ยาถ่ายพยาธิ: ยาหลักที่ใช้ในการรักษาคือ พราซิควอนเทล (Praziquantel) ซึ่งให้ผลการรักษาที่ดีมาก
การรักษาภาวะแทรกซ้อน: หากมีภาวะท่อน้ำดีอุดตันหรืออักเสบ อาจต้องมีการให้ยาปฏิชีวนะ หรือการผ่าตัดเพื่อแก้ไขภาวะอุดตัน
การป้องกัน
วิธีที่ดีที่สุดคือ การไม่รับประทานปลาน้ำจืดแบบดิบหรือสุก ๆ ดิบ ๆ ควรกินปลาที่ปรุงสุกด้วยความร้อนเท่านั้น และควรขับถ่ายอุจจาระลงในส้วมที่ถูกสุขลักษณะ เพื่อตัดวงจรการแพร่กระจายของพยาธิ