น้ำกัดเท้า เป็นโรคผิวหนังที่พบได้บ่อย เกิดจากการติดเชื้อราที่เท้า เชื้อราชนิดนี้สามารถเจริญเติบโตได้ดีในสภาพแวดล้อมที่ชื้นและอบอุ่น เช่น รองเท้าที่ใส่แล้วเปียกชื้น พื้นห้องน้ำ ห้องอาบน้ำสาธารณะ หรือสระว่ายน้ำ ด้วยเหตุนี้ บทความนี้จึงจะมาบอกว่าโรค
น้ำกัดเท้ารักษายังไง ติดตามได้เลย
อาการของโรคน้ำกัดเท้า
อาการของโรคน้ำกัดเท้ามักเริ่มจากอาการคันบริเวณเท้า ต่อมาอาจพบผื่นแดง ผิวหนังลอกเป็นขุย หรือมีรอยแตกที่ฝ่าเท้า บริเวณที่พบรอยโรคมักเป็นที่ง่ามนิ้วเท้า ใต้ฝ่าเท้า หรือขอบเล็บเท้า
การรักษาโรคน้ำกัดเท้า
การรักษาโรคน้ำกัดเท้าขึ้นอยู่กับความรุนแรงของโรค ในกรณีที่เป็นไม่มาก โรคน้ำกัดเท้าสามารถรักษาโดยใช้ยาทาต้านเชื้อรา เช่น คีโทโคนาโซล (ketoconazole) โคลทริมาโซล (clotrimazole) หรือเทอร์บินาฟิน (terbinafine) ทาบริเวณที่เป็นวันละ 2-3 ครั้ง เป็นเวลา 2-4 สัปดาห์
ในกรณีที่เป็นรุนแรงหรือมีการติดเชื้อแบคทีเรียร่วมด้วย น้ำกัดเท้าอาจต้องรักษาโดยรับประทานยาต้านเชื้อราหรือยาปฏิชีวนะร่วมด้วย แพทย์อาจให้คำแนะนำเพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีปฏิบัติตัวเพื่อป้องกันการแพร่กระจายของโรค เช่น หลีกเลี่ยงการใช้รองเท้าร่วมกับผู้อื่น ล้างเท้าให้สะอาดและเช็ดให้แห้งทุกครั้งหลังอาบน้ำ หรือใช้แป้งฝุ่นทาบริเวณเท้าเพื่อป้องกันไม่ให้เหงื่อออก
การป้องกันโรคน้ำกัดเท้า
ใส่รองเท้าที่ระบายอากาศได้ดี
หลีกเลี่ยงการใส่รองเท้าคับหรือแน่นเกินไป
ล้างเท้าให้สะอาดและเช็ดให้แห้งทุกครั้งหลังอาบน้ำ
หลีกเลี่ยงการเดินเท้าเปล่าในบริเวณที่มีความชื้นสูง
รักษาโรคเท้าเหม็นหรือโรคเชื้อราที่เล็บเท้า
การใช้ยาสมุนไพรรักษาโรคน้ำกัดเท้า
นอกจากการใช้ยาทาต้านเชื้อราเพื่อบรรเทาน้ำกัดเท้าแล้ว ยังมีการใช้สมุนไพรรักษาโรคน้ำกัดเท้า เช่น ยาทิงเจอร์ทองพันชั่ง ยาทาสมุนไพรจากสมุนไพรที่มีฤทธิ์ต้านเชื้อรา เช่น ฟ้าทะลายโจร ขมิ้นชัน ว่านหางจระเข้ อย่างไรก็ดี การใช้ยาสมุนไพรควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรก่อนใช้เสมอ
ข้อควรระวังในการใช้ยารักษาโรคน้ำกัดเท้า
ควรทายาให้ทั่วบริเวณที่เป็นรอยโรค
ทายาให้ถูกวิธีตามคำแนะนำของแพทย์หรือเภสัชกร
ไม่ควรใช้ยาทาต่อเนื่องนานเกิน 4 สัปดาห์
หากอาการไม่ดีขึ้นหรือมีผื่นแดง บวม หรือคันมากขึ้น ควรหยุดใช้ยาและปรึกษาแพทย์
สรุป
โรคน้ำกัดเท้ามีสาเหตุเกิดจากการติดเชื้อราที่เท้า การรักษาขึ้นอยู่กับความรุนแรงของโรค หากเป็นไม่มาก สามารถใช้ยาทาต้านเชื้อรารักษาได้ ในกรณีที่เป็นรุนแรงหรือมีการติดเชื้อแบคทีเรียร่วมด้วย อาจต้องรับประทานยาต้านเชื้อราหรือยาปฏิชีวนะร่วมด้วย การป้องกันโรคน้ำกัดเท้าสามารถทำได้โดยใส่รองเท้าที่ระบายอากาศได้ดี หลีกเลี่ยงการใส่รองเท้าคับหรือแน่นเกินไป ล้างเท้าให้สะอาดและเช็ดให้แห้งทุกครั้งหลังอาบน้ำ และหลีกเลี่ยงการเดินเท้าเปล่าในบริเวณที่มีความชื้นสูง