แสดงกระทู้

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.


Topics - siritidaphon

หน้า: [1] 2 3 ... 65
1
อาหารแก้ง่วงตอนขับรถ พกติดกระเป๋าไว้คลายหิวยามรถติดก็ดี

อาหารแก้ง่วงที่ควรพกติดตัวไว้ตอนขับรถมีอะไรบ้าง เพื่อป้องกันอาการหลับใน เพราะถ้าต้องขับรถทางไกล เจอทั้งรถติดและความอ่อนเพลียจากการเดินทาง อาจทำให้ง่วงได้ง่าย ๆ

 สำหรับคนที่มีแพลนจะต้องขับรถไกล ๆ ไปไหนสักแห่ง แล้วกลัวจะเจอกับสภาวะง่วง อ่อนเพลีย หรือขับไปเจอรถติด ๆ แล้วเกิดหิวขึ้นมา อยากลองหาอาหารแก้ง่วงตอนขับรถพกติดกระเป๋าไว้บ้างไหมคะ เราจะได้ขับรถทางไกลกันอย่างสบายใจหายห่วง เพราะอาหารต่อไปนี้ไม่ได้ช่วยคลายหิวให้ท้องเราได้เท่านั้น แต่ยังช่วยปลุกให้เราสดชื่น ตื่นจากความง่วงงุนขณะขับรถได้อีกต่างหาก

อาหารแก้ง่วงตอนขับรถ

1. น้ำเปล่า

สำหรับคนที่รู้ตัวว่าต้องขับรถทางไกลและใช้เวลานานแน่ ๆ อยากให้พกน้ำเปล่าติดไว้สักขวดค่ะ เพราะการจิบน้ำเปล่าอยู่เรื่อย ๆ จะช่วยให้ระดับออกซิเจนในเลือดเพิ่มขึ้น ร่างกายเราก็จะรู้สึกตื่นตัวได้ทันที และทางที่ดีควรดื่มน้ำอุณหภูมิห้องนะคะ เพื่อให้ร่างกายดูดซึมไปใช้ในระบบไหลเวียนเลือดได้ทันที ซึ่งจะช่วยเพิ่มความสดชื่น กระปรี้กระเปร่าได้ดีเลยล่ะ


2. กาแฟ

แน่นอนว่าคาเฟอีนเป็นสิ่งที่ช่วยให้ร่างกายตื่นตัวได้อย่างมีประสิทธิภาพ ดังนั้นก่อนออกเดินทางก็ชงกาแฟใส่ขวดเก็บความร้อนแล้วพกติดรถไปด้วยดีกว่า ในระหว่างทางก็จิบกาแฟสลับกับน้ำเปล่าไปเรื่อย ๆ ให้คาเฟอีนซึมเข้าไปในเลือด ป้องกันอาการง่วงงุนที่อาจเกิดขึ้น อีกทั้งการที่เราดื่มน้ำไปขนาดนี้ ก็อาจทำให้เรารู้สึกปวดปัสสาวะบ่อยจนต้องแวะเข้าห้องน้ำเรื่อย ๆ ถือเป็นการพักคน พักรถไปในตัวด้วยเนอะ


3. หมากฝรั่งรสมินต์

ในกรณีที่รู้สึกหนักหนังตามาก ๆ ง่วงไม่ไหวแล้ว เคสนี้หมากฝรั่งรสมินต์ช่วยคุณได้นะคะ เพราะการศึกษาจาก Coventry University พบว่า อาสาสมัครที่เคี้ยวหมากฝรั่งรสมินต์จะรู้สึกง่วงนอนน้อยกว่าตอนที่ยังไม่ได้เคี้ยวหมากฝรั่ง แถวยังรู้สึกสดชื่นมากขึ้นหลังจากเคี้ยวหมากฝรั่งรสมินต์อีกด้วย ทั้งนี้ก็เพราะว่ามินต์เป็นสมุนไพรรสเย็น ที่ช่วยปลุกความสดชื่นให้ร่างกายได้ไม่น้อย อีกทั้งอากัปกิริยาของเราในการเคี้ยวหมากฝรั่งก็ยังจะช่วยให้โลหิตไหลเวียนไปเลี้ยงที่สมองมากขึ้น ช่วยเพิ่มออกซิเจนสู่สมอง ทำให้สมองแล่น เกิดความกระฉับกระเฉงตื่นตัวได้ทันที


4. ช็อกโกแลต

อย่าลืมว่าในช็อกโกแลตจะมีคาเฟอีนผสมอยู่ ในปริมาณที่มากพอจะปลุกให้ร่างกายตื่นได้เลยทีเดียว โดยเฉพาะดาร์กช็อกโกแลตหรือช็อกโกแลตที่มีผงโกโก้ผสมอยู่กว่า 70% ดังนั้นนี่ก็เป็นอีกตัวเลือกหนึ่งที่ควรพกติดกระเป๋าไว้ในยามขับรถ ง่วงเมื่อไรก็หยิบช็อกโกแลตมาเคี้ยวแก้ง่วงได้เลย


5. อัลมอนด์
 
อัลมอนด์เป็นของว่างที่นอกจากจะมีโปรตีนสูงแล้ว ก็ยังมีกรดไขมันชนิดดีต่อร่างกายอีกพอสมควร ซึ่งสองสิ่งนี้นี่ล่ะค่ะที่จะช่วยให้ร่างกายของเรามีพลังงานไปได้ยาว ๆ และก็เช่นเดิม การเคี้ยวถั่วอัลมอนด์เพลิน ๆ ยังช่วยเพิ่มออกซิเจนให้สมอง ทบทวีความตื่นตัวให้ร่างกายคูณสองไปเลย


6. ป๊อปคอร์น

ถ้าไม่ชอบกินถั่วจะเปลี่ยนมาพกป๊อปคอร์นติดรถแทนก็ได้ เพราะป๊อปคอร์นก็มีไฟเบอร์สูง กินเล่น ๆ แต่อิ่มท้องได้จริงในปริมาณแคลอรีที่น่าคบอีกต่างหาก และแน่นอนว่าป๊อปคอร์นจะทำให้เราอิ่มแบบเบา ๆ ท้อง แถมยังให้โปรตีนและวิตามินสำหรับเติมพลังงานให้เราได้อีกด้วย หมดห่วงเรื่องหนังท้องตึงหนังตาหย่อนระหว่างขับรถทางไกลได้เลย


7. ผลไม้รสเปรี้ยว

เตรียมจัดผลไม้รสเปรี้ยวอย่างมะม่วงเปรี้ยว มะขาม สับปะรด มะเฟือง หรือส้มรสเปรี้ยว ติดรถไว้ ผลไม้รสเปรี้ยวเหล่านี้จะกระตุ้นประสาทของเราให้ตื่น และเพิ่มความสดชื่นให้ร่างกายได้


8. ไข่ต้ม

ไข่เป็นอาหารที่เปี่ยมไปด้วยโปรตีน สารสำคัญที่ช่วยให้ร่างกายมีพลังงานในการทำกิจกรรมต่าง ๆ อีกทั้งไข่ยังเปี่ยมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุ โดยเฉพาะโคลีน (Choline) สารที่ช่วยกระตุ้นเซลล์สมองให้ตื่นตัว ฉะนั้นจึงสามารถพูดได้เต็มปากว่า ไข่เป็นอาหารแก้ง่วงตอนขับรถก็ได้ แก้หิวตอนรถติดยิ่งเข้าท่ากันไปใหญ่
       
         
อ้อ ! แต่แนะนำให้ต้มไข่ให้สุกทั่วทั้งลูก เพื่อให้ไข่ต้มอยู่ได้นานขึ้นโดยไม่บูดไม่เสีย และปอกเปลือกให้เรียบร้อยพร้อมรับประทาน แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก่อนกินก็อย่าลืมดมกลิ่นสักหน่อยว่าไข่ต้มเรายังกินได้อย่างปลอดภัย ไร้กังวลนะคะ



9. น้ำแข็ง

สำหรับคนที่เคยขับรถทางไกลแล้วง่วงหนักมาก รอบนี้เราจะแก้ตัวใหม่ด้วยการพกกระติกน้ำแข็งเล็ก ๆ สักใบ หรือแก้วเก็บความเย็นขนาดใหญ่บรรจุน้ำแข็งไปด้วย ถ้าขับรถไปแล้วจู่ ๆ รู้สึกง่วงขึ้นมา แนะนำให้หยิบน้ำแข็งมาอมไว้ในปากสักพัก เพื่อให้ความเย็นกระจายไปปลุกความสดชื่นยังเซลล์ต่าง ๆ ในร่างกาย แก้ง่วงในระหว่างขับรถได้ชะงัด หรือจะพกเครื่องดื่มแช่ในกระติกน้ำแข็งไปด้วย ถ้ารู้สึกง่วงขึ้นมาเมื่อไรก็หยิบขึ้นมาดื่มเติมความสดชื่นได้เหมือนกัน


2
ไม่ต้องถอนฟัน ก็จัดฟันแบบดามอนได้

สำหรับคนที่มีปัญหา เรื่องของฟัน ที่เรียงตัวไม่สวยงาม ขอแนะนำอีกหนึ่งวิธี คือ การจัดฟัน แบบ Damon ด้วยวัสดุติดฟันแบบ Damon System ที่สามารถทำการรักษาโดยการลดปัญหาได้ 3 ประการด้วยกัน คือ

Damon passive self-ligating braces ใช้แบล็คเกตแบบมีบานล๊อคเปิดและปิด แทนการใช้ยางที่เป็นแรงดึงและยึดติดกับลวดเหล็ก ทำให้คนไข้ไม่ต้องทนเจ็บกับการดึงมากเกินไป

Light high-technology shape-memory wires การเคลื่อนที่ของฟันเป็นไปได้อย่างอิสระ จึงรวดเร็วขึ้นโดยที่ทันตแพทย์ไม่จำเป็นต้องปรับแต่งมากจนเกินไป

A new clinically proven treatment approach ทำให้การจัดฟันมีประสิทธิภาพและปรับให้เข้ากับโครงหน้าได้มากขึ้น โดยไม่จำเป็นต้องถอนฟัน หรือใช้เครื่องมือใดๆ เพิ่มเติม


ข้อดีของการมีฟันครบ
ข้อสังเกตอย่างหนึ่ง ของการจัดฟันร่วมกับการถอนฟันก็คือ บางคนยิ้มแล้วฟันจะดูไม่เต็ม เหมือนมีอะไรหายไป ซึ่งก็เป็นข้อจำกัดที่เราต้องยอมรับ เพราะสำหรับบางคน การถอนฟันเป็นเรื่องจำเป็น หากจะแก้ไขการสบฟันที่ผิดปกติ หากไม่ถอนก็แก้ไม่ได้

แต่ถ้ามีฟันครบ จะทำให้ยิ้มแล้วเห็นฟันโค้งแบบเต็มๆ และที่สำคัญ บริเวณรอบปากจะอูมกำลังดี ดูเป็นธรรมชาติ

อีกหนึ่งผลข้างเคียง ของการจัดฟันร่วมกับถอนฟันก็คือ ในบางคน ฟันอาจยุบมากเกินไป ทำให้บริเวณริมฝีปากแบน ดูไม่เป็นธรรมชาติ เมื่อมองจากด้านข้าง ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่ควรเกิดขึ้น

การจัดฟันแบบดามอน (Damon System) ก็เป็นการจัดฟันอีกรูปแบบหนึ่งที่มีจุดเด่นก็คือ การจัดฟันโดยที่เราไม่จำเป็นที่จะต้องถอนฟันของเราออก ซึ่งการจัดฟันแบบดามอนนี้จะมีลักษณะรูปแบบการจัดฟันโดยการใช้กลไกการสไลด์สำหรับการจับลวดดัดฟัน และยังสามารถช่วยลดการเกิดแรงเสียดทานในการยึดติดของอุปกรณ์ดัดฟันกับตัวฟันของเรา ซึ่งมันจะช่วยให้เรามีความรู้สึกสบายและไม่เจ็บปวดมากเหมือนกับการดัดฟันแบบอื่นๆ นอกจากนี้การจัดฟันแบบดามอนยังถูกออกแบบเพื่อใหเหมาะสมกับรูปหน้าของบุคคลแต่ละคนโดยเฉพาะ และยังสามารถทำความสะอาดได้อย่างง่ายดาย เนื่องจากว่าการจัดฟันแบบดามอนนั้นจะไม่มียางที่ใช้ยึดติดกับฟันเพื่อให้อุปกรณ์และลวดคงอยู่กับที่ ฉะนั้นการที่ไม่มียางอยู่ก็จะเกิดคราบหินปูนได้น้อยกว่าารจัดฟันในรูปแบบอื่นๆนั่นเอง

ข้อเสียของการจัดฟันแบบดามอน การจัดฟันแบบดามอนมีข้อเสียเพียงอย่างเดียวก็คือ ค่าใช้จ่ายในการจัดฟันค่อนข้างสูงมากเลยทีเดียว

หากใครที่อยากจัดฟันเพื่อให้ฟันสวยงามและมีรอยยิ้มสวยๆ การจัดฟันแบบดามอนก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่จะช่วยให้ลดความเจ็บปวดในการดัดฟันได้แต่ว่าหากต้องการจัดฟันแบบดามอนเราจะต้องเก็บเงินเพิ่มขึ้นกว่าการจัดฟันแบบอื่นๆ สักหน่อยเพราะการจัดฟันแบบดามอนนั้นมีค่าใช้จ่ายที่สูงพอสมควร แต่เมื่อแลกกับฟันที่สวยและรอยยิ้มหวานๆ แล้วเชื่อว่าหลายคนก็คงยอมที่จะแลกเพื่อให้ได้มา

3
จัดฟันบางนา: วิธีป้องกันเบื้องต้น เพื่อลดอาการเสียวฟัน

หลายๆคนคงทราบกันเป็นอย่างดีแล้วว่า “อาการเสียวฟัน” ส่งผลต่อการใช้ชีวิตประจำวัน รวมถึงเป็นหนึ่งในสัญญาณเตือนว่าฟันของท่านกำลังตกอยู่ในอันตรายอีกด้วย

ซึ่งการเสียวฟันอาจจะเกิดขึ้นได้จากหลายๆ สาเหตุมากมายไม่ว่าจะเป็นพฤติกรรมการรับประทาน หรือพฤติกรรมการใช้ชีวิตต่างๆ รวมถึงอุบัติเหตุหรือฟันเกิดการกระทบกระแทกบางสิ่งรุนแรงก็ถือว่าเป็นสาเหตุหลักๆ ที่ทำให้เกิดการเสียวฟันได้เช่นกัน

ซึ่งในวันนี้ทางด้านของ Clinic จะขอพาท่านผู้อ่านมาทำความรู้จักกับวิธีป้องกันเบื้องต้น เพื่อลดและยับยั้งอาการเสียวฟัน เพื่อให้ท่านสามารถใช้ชีวิตประจำวันได้อย่างไม่มีปัญหาในการดำเนินชีวิตอีกต่อไป

 

วิธีการเบื้องต้นเพื่อป้องกันอาการเสียวฟัน

ต้องขอบอกก่อนว่าการรักษาสุขภาพช่องปาก รวมถึงเหงือกและฟันให้ดีอยู่เสมอก็คือวิธีการเบื้องต้นในการช่วยป้องการการเสียวฟันได้เป็นอย่างดี และเรายังมีวิธีมากมายมานำเสนอให้ท่านผู้อ่านได้ลองนำไปทำตาม ซึ่งมีทั้งหมด 6 วิธี ดังต่อไปนี้

1.    ใช้ยาสีฟันให้ถูกต้อง

หลายๆคนเวลาเลือกซื้อยาสีฟันมักไม่ได้ดูที่ส่วนประกอบสำคัญที่เขาได้ระบุไว้ บางคนเลือกยาสีฟันที่ยี่ห้อ ที่กลิ่นหรือรสชาติ ซึ่งส่วนประกอบต่างๆเหล่านั้นไม่ใช่ส่วนสำคัญเลยในการเลือกซื้อยาสีฟัน

และหากว่าท่านกำลังมีอาการเสียวฟันแนะนำให้ลองเลือกยาสีฟันที่มีสารโปแทสเซียมไนเตรต (potassium nitrate) หรือสตรอนเทียม อะซิเตตผสมอยู่ เพราะว่าสารต่างๆเหล่านี้จะช่วยในการป้องกันไม่ให้เส้นประสาทถูกกระตุ้น ซึ่งก็คือจะช่วยให้ลดอาการเสียวฟันได้ แต่ไม่ใช่ว่าใช้แล้วจะหายเสียวฟันเลย ต้องใช้ติดต่อกันเป็นระยะเวลาหนึ่งก็จะค่อยๆ ลดอาการเสียวฟันของท่านลงได้


2.    ใช้แปรงสีฟันขนนุ่ม และแปรงฟันให้ถูกต้อง

อย่างที่หลายๆ คนทราบกันเป็นอย่างดีว่า แปรงสีฟันที่ดีควรมีขนแปรงที่อ่อนนุ่ม เนื่องจากว่าขนแปรงสีฟันที่มีความแข็งจนเกินไปนั้น บวกกับการแปรงฟันที่ผิดวิธี ยิ่งจะทำให้คอฟันสึก เหงือกร่น ได้ง่าย การแปรงฟันที่ดีควรตั้งฉาก 45 องศา และใช้การปัดขนแปรง ไม่ใช่การถูด้วยน้ำหนักที่รุนแรง ต้องเข้าใจว่าการแปรงฟันคือการกำจัดคราบเศษอาหาร ที่เป็นตัวก่อให้เกิดความสกปรก จึงไม่ควรถูอย่างรุนแรงเพราะหวังว่าจะสะอาดเพราะนั่นคือการทำร้ายฟันและเหงือกทางอ้อมนั่นเอง


3.    หลีกเลี่ยงการเคี้ยวของแข็ง

ข้อนี้ถือว่าสำคัญมากๆ มีหลายๆ คนเกิดการเสียวฟันเนื่องจากต้นเหตุมาจากการรับประทาน หรืออีกอย่างหนึ่งที่จะบอกก็คือ การรับประทานสิ่งต่างๆ นั้นถือว่ามีความเสี่ยงที่ทำให้ฟันเกิดการเสียหายได้ เพราะหน้าที่หลักของฟันคือ การบดเคี้ยวอาหารนั่นเอง ซึ่งควรลดการรับประทานอาหารที่แข็งมากๆ เนื่องจากว่าการกัดของแข็งต่างๆ เหล่านี้อาจจะส่งผลให้ฟันแตก หรือฟันหักเป็นรอยร้าวขนาดเล็กได้ ซึ่งผลที่ตามมาคือการเสียวฟันนั่นเอง


4.    งดเครื่องดื่มที่มีรสเปรี้ยวจัด รวมถึงน้ำอัดลม

หลายๆ คนชื่นชอบน้ำผลไม้ที่มีรสเปรี้ยว รวมถึงน้ำอัดลมที่มีรสหวาน น้ำเหล่านี้อาจจะอร่อยแต่มีฤทธิ์เป็นกรดสูง ที่หากว่ารับประทานบ่อยๆอาจจะส่งผลให้เกิดการกัดเคลือบฟันจนเกิดการละลายตัว และหากว่าท่านมีอาการเสียวฟันอยู่แล้วยิ่งควรหลีกเลี่ยงน้ำเหล่านี้ไปก่อน หรือหากว่าจำเป็นต้องรับประทานหลังรับประทานแล้วควรรีบบ้วนปากทันที


5.    ใช้ไหมขัดฟันเป็นประจำ

มีหลายๆคนมองว่าการใช้ไหมขัดฟันเป็นเรื่องสิ้นเปลือง ขอบอกเลยว่าท่านกำลังคิดผิด เพราะ การใช้ไหมขัดฟันนั้นถือว่าเป็นหนึ่งสิ่งที่ช่วยกำจัดคราบเชื้อโรค รวมถึงกำจัดเศษอาหารที่แปรงสีฟันไม่สามารถทำได้ การใช้ไหมขัดฟันอย่างน้อยวันละครั้งก่อนนอนหลังจากแปรงฟัน จึงเป็นสิ่งสำคัญเพราะจะสามารถกำจัด คราบจุลินทรีย์ได้ ซึ่งเป็นต้นเหตุของโรคต่างๆ ในช่องปากรวมถึงเสียวฟันด้วยนั่นเอง


6.    พบทันตแพทย์เป็นประจำ

ท่านผู้อ่านต้องทราบก่อนว่า อาการเสียวฟัน คือสัญญาณบอกเหตุแรกให้รู้ว่าฟันของท่านกำลังมีปัญหาบางอย่าง เพื่อเป็นการป้องกันที่ต้นเหตุจริงๆ การเข้าพบทันตแพทย์โดยเร็วหากว่าเริ่มมีอาการเสียวฟัน ก็จะทำให้ท่านทราบถึงสาเหตุแท้จริงของอาการเสียวฟันและรักษาอาการเสียวฟันที่ต้นเหตุได้นั่นเอง

4
มือถือใหม่ 2024:  เทคโน โมบาย TECNO Spark20 Pro (8GB/256GB)
4,999 บาท

เทคโน โมบาย TECNO Spark20 Pro (8GB/256GB)
ระดับเสียงที่ดังถึง 400% ลำโพงสเตอริโอคู่
กล้อง Ultra Sensing ความละเอียด 108MP
กล้องเซลฟี่ ความละเอียด 32MP
G99 Ultra Boost Processor
6.78" 120Hz หน้าจอดีไซน์แบบเจาะรู
แบตเตอรี่ขนาด 5,000 mAh + ชาร์จไว 33W

รายละเอียดเบื้องต้น
   ยี่ห้อ-รุ่น                  เทคโน โมบาย TECNO Spark20 Pro (8GB/256GB)
   ราคากลาง            4,999 บาท
   จำนวนซิม             2 ซิม (Nano Sim)
   แบบดีไซน์           จอสัมผัส
   สี                              Black(Moonlit Black), Blue(Sunset Blush), Green(Magic Skin 2.0 Green), Beige(Frosty Ivory)

   ความถี่-เครือข่าย
2G
3G
4G

   ขนาด-น้ำหนัก                              ยาว 168.61 x กว้าง 76.61 x หนา 8.4 มม., น้ำหนัก 0 กรัม
   ความจุข้อมูลภายใน (ROM)  256 GB
   ความจุข้อมูลภายนอกสูงสุด   -
   แบตเตอรี่ และระบบชาร์จ            ความจุแบตเตอรี่ 5,000 mAh

จอแสดงผล
   ชนิดจอ                   จอสัมผัส ()
   ความละเอียด      6.78 นิ้ว, 1,080 x 2,460 px
   รายละเอียดอื่น    กล้องถ่ายรูป
   ขนาด-ความละเอียด        กล้องหลัง (108 Mpx), กล้องหน้า (32 Mpx)
   ความละเอียดของภาพภ่ายสูงสุด
   คุณสมบัติ                                  -

ระบบปฏิบัติการ
   หน่วยประมวลผล (CPU)                    MTK G99
   หน่วยประมวลผลกราฟิก (GPU)    Mali-G57 MC2
   หน่วยความจำ (RAM)                        8.0 GB
   ระบบเชื่อมต่อภายนอก                     USB, Bluetooth(5.2), NFC, Wi-Fi(2.4+5GHz)
   ระบบรับส่งข้อความ                             -
   การเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ต                3G, WiFi, 4G

5
บิ๊กไบค์ ยามาฮ่า Yamaha MT-07 (Standard) ปี 2023
305,000 บาท


ยามาฮ่า Yamaha MT-07 (Standard) ปี 2023
Yamaha MT-07 ปี 2023 กับการอัพเกรดใหม่ เติมหน้าจอแสดงผลขนาด 5 นิ้ว TFT พร้อมเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟน เครื่องยนต์ขนาด 689 ซีซี ปรับปรุงใหม่ รองรับ EU5 ตอบสนองได้ราบลื่นต่อเนื่อง กล่องอีซียู อัพเกรดใหม่รองรับควิกชิฟต์

รายละเอียดเบื้องต้น
   แบรนด์                Yamaha
   รุ่น                     ยามาฮ่า Yamaha MT-07 (Standard) ปี 2023
   ประเภทรถ            รถสปอร์ตขนาดใหญ่, Naked Bigbike, Sport Bike
   ปีที่เปิดตัว            2023
   ราคา                  305,000 บาท


สเปค
   รูปแบบเกียร์                เกียร์ธรรมดา
   ระบบเกียร์                   6 เกียร์
   รายละเอียดเครื่องยนต์    2 สูบ DOHC 4 วาล์ว
   ระบบระบายความร้อน      น้ำ
   ระบบสตาร์ท                สตาร์ทไฟฟ้า (มือ)
   ขนาดเครื่องยนต์ (CC)    689 CC
   แบบเครื่องยนต์            4 จังหวะ
   ระบบจุดระเบิด             TCI Electric
   ประเภทน้ำมันเชื้อเพลิง   เบนซิน 91, แก๊สโซฮอล์ 95 (E10), แก๊สโซฮอล์ 91, เบนซิน 95
   ระบบจ่ายน้ำมัน            หัวฉีด
   ความจุถังน้ำมัน (ลิตร)    14 ลิตร
   ระบบกันสะเทือน          ล้อหน้า Telescopic forks, ล้อหลัง Swingarm, (Link type suspension)
   ระบบเบรค                 ล้อหน้า ดิสก์เบรก (แบบลูกสูบคู่ 298มม.), ล้อหลัง ดิสก์เบรก (แบบลูกสูบเดี่ยว 245 มม.)
   แบบวงล้อ                 แม็ก
   ขนาดยาง                      ล้อหน้า 120/70 ZR 17 M/C 58W, ล้อหลัง 180/55 ZR 17 M/C 73W
   ขนาด (ยาวxกว้างxสูง มม.) 2,085 x 780 x 1,105 มม.
   น้ำหนักตัวรถ                   184.00 กก.

6
วิตามินบำรุงสมอง อาหารเช้าช่วยปลุกสมอง ลองแล้วตื่นตัว !

ถ้ามื้อเช้าที่เป็นมื้อสำคัญ คุณไม่รู้ว่าจะกินอะไรเพื่อปลุกให้ร่างกายตื่นตัว ช่วยกระตุ้นสมองให้พร้อมทำงาน และเติมท้องให้อิ่มแบบได้คุณค่าทางสารอาหาร วันนี้ขอแนะนำเป็น 10 อาหารเช้าเพื่อสุขภาพ ต่อไปนี้ค่ะ รับรองกินแล้วตาสว่าง สมองตื่น ความง่วงหายไปอย่างไม่รู้ตัวเลย !

1. น้ำเปล่า

          เครื่องดื่มอย่างแรกที่อยากให้ตกถึงท้องทุกคนก่อนใครก็คือน้ำเปล่านี่เองค่ะ เพราะขณะที่ร่างกายเรานอนหลับ 6-8 ชั่วโมง เราจะไม่ได้ดื่มน้ำเลย ดังนั้นเพื่อเติมน้ำให้เซลล์และอวัยวะต่าง ๆ ในร่างกาย น้ำเปล่าก็ควรเป็นสิ่งที่เราเติมเต็มให้ตัวเองเป็นอันดับแรก แล้วเชื่อเถอะค่ะว่า หลังจากดื่มน้ำเข้าไปสักแก้วแล้ว จะรู้สึกสดชื่นตื่นตัวขึ้นมาทันทีเลย


2. น้ำมะนาว

          สำหรับคนที่ตื่นมาแล้วเพลียหนักมาก ดื่มน้ำเปล่าเพียว ๆ อาจไม่พอค่ะ ต้องเป็นน้ำมะนาวอุ่น ๆ สักแก้ว หรือจะบีบมะนาวลงไปในน้ำเปล่าปกติสักครึ่งซีกก็ได้ กลิ่นซิตรัสของมะนาวจะช่วยปลุกความสดชื่นให้สมอง ส่วนน้ำก็จะช่วยขับไล่ความอ่อนเพลียให้หมดไป


3. ไข่

          ไข่เป็นอาหารที่กินมื้อไหนก็อร่อย แต่หากกินไข่เป็นอาหารเช้าก็จะได้ประโยชน์ในแง่ของการบำรุงสมองที่อึน ๆ ให้ตื่นตัวขึ้นด้วย เนื่องจากไข่มีกรดไขมันโอเมก้า-3 และโปรตีน นอกจากนี้ไข่ไก่ 1 ฟอง ยังมีโคลีน (Choline) ซึ่งเป็นส่วนประกอบของเยื่อหุ้มเซลล์ เยื่อหุ้มสมอง อยู่มากถึง 20% ส่งผลให้สมองและระบบประสาทแข็งแรง พร้อมทำกิจกรรมต่าง ๆ อย่างตื่นตัว โดยยืนยันให้มั่นใจอีกทีด้วยผลการศึกษาในวารสาร International Journal of Obesity ที่พบว่า คนกินไข่ไก่เป็นมื้อเช้าจะรู้สึกตื่นตัวและพร้อมทำกิจกรรมต่าง ๆ มากกว่าคนที่กินอาหารชนิดอื่นที่ให้พลังงานเท่ากัน อย่างเช่น ขนมปังเบเกิล เป็นต้น


4. กล้วย

          กล้วยเป็นผลไม้ที่มีคาร์โบไฮเดรตเซิงซ้อน ที่ร่างกายสามารถเปลี่ยนเป็นกลูโคสเพื่อให้พลังงานแก่เซลล์และอวัยวะต่าง ๆ โดยเฉพาะเซลล์สมองได้ทันที อีกทั้งในกล้วย 1 ผล ยังเปี่ยมไปด้วยวิตามินบี 2 บี 3 โพแทสเซียม และแมกนีเซียม ที่ช่วยฟื้นฟูร่างกายจากความเหนื่อยล้าได้อีกต่างหาก ดังนั้น หากมีเวลาจำกัด ต้องรีบเร่ง พกกล้วยน้ำว้าสัก 1-2 ผลไปกินเป็นมื้อเช้าได้เลยค่ะ


5. ข้าวโอ๊ต โฮลเกรน โฮลวีต

          ข้าวและธัญพืชไม่ขัดสีกลุ่มนี้ก็มีคาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อนให้ร่างกายเปลี่ยนแป้งเป็นกลูโคสด้วยเหมือนกัน แต่ที่พีคไปกว่านั้นคือ นอกจากจะเป็นคาร์บเชิงซ้อนให้ร่างกายรู้สึกอิ่มได้นานแล้ว ธัญพืชเหล่านี้ยังอุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุที่เป็นวัตถุดิบหลักของระบบประสาทและสมอง ช่วยให้อวัยวะและเซลล์ในร่างกายตื่นตัว ส่วนคาร์โบไฮเดรตที่เปลี่ยนเป็นน้ำตาลก็ช่วยให้ร่างกายสดชื่นเพิ่มขึ้นด้วย


6. ข้าวกล้อง

          ข้าวกล้องมีกาบ้า สารอาหารสำคัญที่มีประโยชน์ต่อการทำงานของระบบประสาทและสมอง อีกทั้งข้าวกล้องยังมีวิตามินบีสูงมาก จึงช่วยกระตุ้นระบบประสาทและสมองให้ตื่นตัวได้อีกทาง


7. ถั่วชนิดต่าง ๆ

          ถั่วเป็นแหล่งของสารอาหารที่ให้พลังงานแก่ร่างกาย ทั้งโปรตีน ไขมัน และคาร์โบไฮเดรต ดังนั้น การกินถั่วเป็นมื้อเช้าก็ช่วยให้มีพลังกายมากยิ่งขึ้น ที่สำคัญกรดไขมันชนิดดีและธาตุสังกะสีจากถั่วยังจะเข้าไปเป็นพลังงานให้เซลล์สมองพร้อมทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพเพิ่มขึ้นด้วยนะคะ ซึ่งหากใครไม่สะดวกจะกินถั่วเปล่า ๆ ลองกินถั่วกับโยเกิร์ต หรือจะเป็นเมนูขนมปังโฮลวีตทาเนยถั่วแบบนี้ก็ได้


8. องุ่น

          มีการศึกษาพบว่า ไม่ว่าจะกินองุ่นเขียว องุ่นดำ หรือองุ่นแดง ก็จะได้รับสารต้านอนุมูลอิสระจากผลไม้ที่ชื่อว่าองุ่น ในปริมาณที่ใกล้เคียงกัน ซึ่งเจ้าสารต้านอนุมูลอิสระนี่แหละที่มีประโยชน์ต่อการทำงานของสมอง ช่วยป้องกันโรคอัลไซเมอร์ที่มีสาเหตุมาจากความเสื่อมของเซลล์ ในขณะเดียวกันก็เป็นพลังงานสำคัญของเซลล์สมองด้วย ดังนั้น หากเบื่ออาหารเช้าเดิม ๆ ลองหันมากินองุ่นกันบ้างก็ได้นะ


9. บลูเบอร์รี

          ผลไม้ชนิดนี้มีสารต้านอนุมูลอิสระอยู่มากเช่นกัน และยังมีการศึกษาที่พบว่าคนที่รับประทานบลูเบอร์รีเป็นประจำจะมีความจำและทักษะการเคลื่อนไหวที่ดี อันเนื่องมาจากสารแทนนินในบลูเบอร์รีมีส่วนช่วยเชื่อมการทำงานของเซลล์ต่าง ๆ ในสมอง จากที่ตื่นมาด้วยความมึนงง พอได้กินบลูเบอร์รีก็จะช่วยให้เชื่อมต่อข้อมูลได้ดีขึ้น นอกจากนี้บลูเบอร์รียังมีสารพฤกษเคมี (Phytochemicals) ที่เชื่อกันว่าเป็นสารที่ช่วยเติมเต็มความสามารถของสมองในด้านการเรียนรู้ ความคิด และความจำ


10. แอปเปิล

          ผลไม้อย่างแอปเปิล มีน้ำและน้ำตาลที่ร่างกายสามารถดึงไปใช้ได้ทันที ดังนั้น ใครที่รู้สึกเพลีย ๆ หลังตื่นนอนแอปเปิลก็จะช่วยเติมความสดชื่นให้ร่างกายได้อย่างรวดเร็ว แต่ประโยชน์ของแอปเปิลยังไม่จบแค่นั้นค่ะ เพราะการศึกษาจากมหาวิทยาลัย Cornell ยังพบว่า แอปเปิลมีสารพฤกษเคมีที่ชื่อว่า เควอซิทิน (Quercetin) ที่มีคุณสมบัติต้านอนุมูลอิสระ ป้องกันเซลล์สมองและเซลล์ประสาทถูกทำลาย จึงช่วยให้สมองทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพโดยไม่เสื่อมสภาพก่อนวัยอันควร

7
ยาแก้เมาเหล้า: กินเหล้ายังไงให้ไม่เสียสุขภาพ พร้อมทิปส์เลิกเหล้าแบบไม่ลงแดง

สายดื่มต้องอ่านก่อนสุขภาพพัง! ในบทความนี้ สายดื่มมาดูกันหน่อยว่า จะมีวิธีการกินเหล้าอย่างไรไม่ให้สุขภาพเสีย แถมบอกทิปส์เลิกเหล้าแบบทำตามได้ไม่ยาก หรือ หากใครอยากรู้ว่ากินเหล้าอ้วนไหม ตับแข็งจริงหรือเปล่า หรือจะส่งผลต่อสุขภาพร้ายแรงแค่ไหน มาดูบทความนี้กันเลยอย่ารอช้า!


กินเหล้ายังไงไม่ให้เสียสุขภาพ?


1.    รับประทานอาหารที่ดีต่อสุขภาพ

ใครที่ดื่มเหล้าเป็นประจำ อย่าลืมเลือกรับประทานอาหารที่ดีต่อสุขภาพ และหลีกเลี่ยงอาหารที่มีไขมันสูง เพราะการดื่มเหล้านั้นทำให้เรามีความเสี่ยงต่อการเป็นโรคตับอยู่แล้ว เพราะฉะนั้นหากยิ่งทานอาหารที่มีไขมันสูง ก็จะเป็นการเพิ่มความเสี่ยงต่อโรคตับยิ่งขึ้นไปอีกเช่นกัน


2.    ทานอาหารรองท้องก่อนดื่ม

รู้หรือไม่? เวลาที่เรากินเหล้าตอนที่ท้องว่าง แอลกอฮอล์จะซึมผ่านกระเพาะอาหารไปสู่ลำไส้เล็ก และถูกดูดซึมเข้ากระแสเลือดและกระจายไปทั่วร่างกาย ซึ่งหากเราไม่ได้ทานอาหาร ร่างกายจะใช้เวลาดูดซึมเพียง 30 นาที – 2 ชั่วโมง ทำให้ตับทำงานหนักมากขึ้น พังเร็วขึ้น และอาจเกินภาวะตับอักเสบได้เลย ในทางกลับกัน หากเราทานอาหารมาแล้ว ร่างกายจะใช้เวลา 1-6 ชั่วโมง ในการดูดซึมและตับก็จะทำงานหนักน้อยกว่า


3.   เลือกประเภทแอลกอฮอล์ให้เป็น

จริงๆ แล้วการกินเหล้าก็ไม่ใช่เรื่องเลวร้ายซะทีเดียว หากรู้จักเลือกประเภทให้เหมาะสม อย่างการดื่มไวน์แดงก็มีประโยชน์ในเรื่องของการช่วยชะลอความแก่ เพราะมีสาร Resveratrol แถมยังช่วยลดไขมันได้อีกด้วย หรือ จะเป็นวอดก้าที่ดื่มแล้วไม่อ้วน เพราะในปริมาณ 1.5 ออนซ์ มีแคลอรีเพียง 90 แคลอรีเท่านั้น แต่ที่ควรหลีกเลี่ยงที่สุดเลย คือ เบียร์ เนื่องจากมีแคลอรีสูงกว่าแอลกอฮอล์ประเภทอื่น ๆ พอสมควร


4.    หาแรงบันดาลใจ

การหาแรงบันดาลใจและเป้าหมายในการเลิกเหล้า ถือเป็นอีกวิธีเลิกเหล้าที่อาจช่วยให้เลิกเหล้าหรือดื่มสุราน้อยลงได้ ซึ่งคุณอาจใช้ตนเองเป็นแรงบันดาลใจว่า อยากมีสุขภาพที่ดีเพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น หรือหากมีลูกหรือครอบครัว ก็อาจตั้งเป้าหมายว่าอยากเลิกเหล้าเพื่อที่จะได้มีชีวิตยืนยาวและได้ใช้ชีวิตกับคนที่รักได้นาน ๆ


5.    จำกัดปริมาณการดื่ม

หากใครไม่สามารถเลิกเหล้าแบบเด็ดขาดได้ แนะนำให้ลดปริมาณการดื่ม หรือ จำกัดปริมาณการดื่มให้น้อยลง ยิ่งใครที่กินเหล้าทุกวัน ผลเสียตามมาอย่างแน่นอนหากไม่ลดปริมาณลง โดยเริ่มอาจเริ่มต้นจากการลดลงทีละแก้ว เช่น ปกติดื่มวันละ 10 แก้ว ก็อาจลดเหลือ 7-8 แก้ว แล้วค่อยๆ ลดจำนวนลงไปเรื่อยๆ จะได้ไม่ทรมานจนเกินไป

Sunday Tips
“อาการลงแดง” หรือที่มีชื่อเรียกในภาษาทางการแพทย์ว่า “อาการเนื่องจากการขาดสุรา” (Alcohol Withdrawal Syndrome) คืออาการที่เกิดขึ้นเมื่อผู้ดื่มที่ดื่มติดต่อกันมาเป็นระยะเวลานานประมาณ 14-21 วัน หยุดดื่มแบบกะทันหัน โดยจะมีอาการทางกายได้แก่ มือสั่น คลื่นไส้ อาเจียน ท้องร่วง เหงื่อออก หรือเหนื่อยล้า ส่วนอาการทางอารมณ์ได้แก่ อารมณ์แปรปรวน หงุดหงิดง่าย นอนไม่หลับ และบางรายอาจมีอาการประสาทหลอน เพ้อ และคลั่งได้

 
6.   หลีกเลี่ยงสถานการณ์ที่ทำให้เราต้องดื่ม

สาเหตุที่ใครหลายคนยังไม่สามารถเลิกเหล้าได้ หลัก ๆ เลยมาจากการปฏิเสธคนรอบข้างไม่เป็น หรือ เกรงใจ เพราะฉะนั้นหากใครที่ไม่ชอบการปฏิเสธ ก็ควรจะหลีกเลี่ยงสถานการณ์ที่ทำให้เราต้องดื่มเหล้า เช่น ในหนึ่งอาทิตย์เพื่อนชวนออกไปดื่ม 3 วัน เราก็อาจจะลดเหลือ 1-2 วัน หากรู้ตัวว่าไม่สามารถควบคุมตัวเองได้


7.    หากิจกรรมอื่นทำ

หลายคนกินเหล้าเพราะไม่รู้จะทำอะไรหลังเลิกงานหรือในเวลาว่าง หรือบางคนก็อาจจะกำลังพยามเลิกเหล้าแต่ไม่สามารถเลิกได้ เพราะเวลาไม่ได้ดื่มก็จะรู้สึกฟุ้งซ่าน การหากิจกรรมอื่น ๆ ทำก็จะช่วยให้เราลืมเรื่องการดื่มเหล้าไปได้บ้าง
ผลเสียของการดื่มเหล้า

นักดื่มทั้งหลายน่าจะรู้กันดีอยู่แล้วว่า การดื่มสุราบ่อยๆ นั้นก่อให้เกิดโรคต่างๆ มากมาย ว่าแต่จะมีความเสี่ยงต่อการเป็นโรคอะไรบ้าง หรือจะส่งผลเสียต่อสุขภาพอย่างไรบ้างนั้น มาดูกัน


ผลเสียของการดื่มเหล้า

1.    เสี่ยงเป็นโรคตับ

โรคยอดฮิตของนักดื่มเลยก็คือโรคตับ โดยการกินเหล้าเป็นประจำสามารถเพิ่มความเสี่ยงในการเป็นตับแข็งได้ เนื่องจากอวัยวะที่รับบทหนักในการกำจัดแอลกอฮอล์นั้นก็คือตับ โดยเซลล์ตับจะผลิตเอนไซม์เพื่อเปลี่ยนแอลกอฮอล์ไปเป็นอะเซทัลดีไฮด์ และเปลี่ยนเป็นกรดอะซิติก และอะเซทิลโคเอ

อธิบายง่ายๆ คือ ตับต้องทำงานเพื่อย่อยสลายแอลกอฮอล์ออกไป และหากเรายังดื่มไม่หยุดไม่หย่อน ตับก็จะสลายกรดไขมันได้ไม่เต็มที่ รวมถึงสารพิษอื่นๆ ทำให้เกิดไขมันพอกตับ จนอาจทำให้เป็นโรคตับอักเสบ พังผืดที่ตับ และกลายเป็นตับแข็งได้ในที่สุด

 
2.   เสี่ยงเป็นโรคเกาต์

โรคเกาต์ก็เป็นโรคยอดฮิตของนักดื่มไม่แพ้กับโรคตับเลยทีเดียว เพราะแอลกอฮอล์จะทำให้กรดไพรูวิกเปลี่ยนเป็นกรดแลคติก และเมื่อกรดแลคติกคั่งในเลือด เลือดก็จะมีความเป็นกรดสูง และเมื่อร่างกายพยายามขับกรดแลคติกออกมา ก็จะทำให้ร่างกายขับกรดยูริกได้ไม่ดีพอ ผลที่เกิดขึ้นคือเมื่อกรดยูริกคั่งก็จะทำให้มีความเสี่ยงในการเป็นโรคเกาต์ตามมานั่นเอง


3.    ทำให้อ้วน

ใครไม่อยากอ้วน ต้องรีบลด ละ เลิกแอลกอฮอล์ด่วน! เพราะแอลกอฮอล์นั้นเป็นสารอาหารที่ร่างกายแทบจะนำไปใช้ประโยชน์อะไรไม่ได้เลย ดังนั้น เมื่อร่างกายไม่สามารถใช้ประโยชน์ได้ ก็จะกลายเป็นไขมันสะสมไว้ภายในร่างกาย ไม่ว่าจะเป็นแขน ขา หรือพุง สังเกตได้ง่ายๆ เลยว่าคนที่ดื่มเป็นประจำมักจะอ้วนลงพุงหรือมีไขมันสะสมตามร่างกาย


4.    เกิดอาการเมาค้าง

ใครเคยกินเหล้าแล้วปวดหัวบ้าง? สาเหตุนั้นก็เพราะว่าการดื่มแอลกอฮอล์จะทำให้ร่างกายสูญเสียน้ำมากกว่าปกติ ไม่ว่าจะเกิดจากการปัสสาวะ ขับถ่าย หรือแม้แต่อาเจียน และเมื่อร่างกายเกิดภาวะขาดน้ำ ก็จะทำให้เกิดอาการปวดหัว หรือที่หลายๆ คนเรียกว่าอาการแฮงค์หรือเมาค้าง ซึ่งก็อาจส่งผลต่อการใช้ชีวิตประจำวันของเราได้

 
5.   วงจรการนอนสะดุด

นอกจากนี้ การดื่มเหล้ายังกระทบการนอนอีกด้วย บางคนอาจกินเหล้าแล้วนอนไม่หลับ หรืออาจจะหลับๆ ตื่นๆ เพราะแอลกอฮอล์จะเข้าไปยับยั้งการนอนหลับขั้น REM หรือ Rapid Eye Movement คือ การนอนหลับในช่วงหลับฝัน แปลว่าหลับไปแล้วแต่สมองก็ยังทำงานอยู่ ทำให้วงจรการนอนสะดุด และอาจตื่นมากลางดึก ซึ่งเป็นการรบกวนการนอนและการพักผ่อนอย่างมาก

การดื่มสุรานั้นไม่ใช่เรื่องเลวร้ายและก็ไม่ได้ทำให้เราเสียสุขภาพแต่อย่างใด หากเราดื่มในปริมาณที่เหมาะสม ทั้งนี้ทั้งนั้น ก็ต้องยอมรับว่าการไม่ดื่มเลยอาจเป็นเรื่องที่ดีกว่า ส่วนใครที่กำลังอยากเลิกเหล้า ก็ลองทำตามทิปส์ที่เราได้แนะนำไปปรับใช้กันดู ใครสามารถลดละเลิกการดื่มสุราได้แล้ว หรือกำลังมีแพลนจะเลิกเหล้า อย่าลืมเพิ่มความอุ่นใจให้กับการดูแลสุขภาพด้วยการทำประกันสุขภาพออนไลน์กับ Sunday ที่เลือกตัดสิ่งที่ไม่จำเป็นออกไปให้แล้ว ให้คุณจ่ายเบี้ยประกันในราคาที่สมเหตุสมผล และมีแผนประกันให้เลือกมากมาย ตอบโจทย์คนทุกไลฟ์สไตล์แน่นอน

8
“การสร้างแบรนด์
ก็เหมือนกับ
การสร้างพื้นที่ทำธุรกิจของคุณเอง
ถ้าคุณไม่สร้างแบรนด์ เท่ากับว่าวันนี้คุณไม่มีพื้นที่ในการทำธุรกิจ“

ครูแมกซ์
“สอนสร้างแบรนด์
สอนทำธุรกิจออนไลน์”

“การสร้างแบรนด์”
ไม่ใช่แค่การทำให้สินค้าดูสวยงาม หรือการทำโลโก้กับสีสันที่ดึงดูดเท่านั้น แต่มันคือศิลปะในการสร้างเสน่ห์ที่ลูกค้าไม่อาจต้านทานได้ มันเหมือนการทำเวทมนตร์ ซึ่งไม่ต้องการไม้กายสิทธิ์ หรือหมวกวิเศษ แต่ต้องการความเข้าใจในลูกค้าและการสื่อสารที่ตรงจุด
สมมติว่าคุณกำลังขายกาแฟ ลองนึกภาพนี้สิ…
คุณไม่ได้แค่ขายกาแฟ แต่คุณกำลังขายช่วงเวลาแห่งความสุข
บทสนทนาที่ดี และความรู้สึกที่อบอุ่นใจ ทุกครั้งที่ลูกค้าหยิบถ้วยกาแฟของคุณ
พวกเขาไม่ได้แค่ดื่ม แต่พวกเขากำลังดื่มด่ำกับเรื่องราวที่คุณเล่า
.
แบรนด์ที่ดี คือแบรนด์ที่ทำให้ลูกค้าจำได้ ไม่ว่าจะผ่านงานโฆษณาที่มีความคิดสร้างสรรค์ การออกแบบผลิตภัณฑ์ที่โดนใจ หรือแม้กระทั่งการบริการลูกค้าที่เป็นเลิศ ทั้งหมดนี้คือส่วนประกอบในการสร้างแบรนด์ที่สำคัญทั้งนั้น
แบรนด์ที่สามารถเล่าเรื่องราวที่ตรงใจและสร้างความแตกต่าง  จะเป็น แบรนด์ที่มีความมั่นคงและยั่งยืนในตลาด และนั่นคือเหตุผลที่การสร้างแบรนด์ไม่ใช่แค่กลยุทธ์ทางธุรกิจ แต่เป็นศิลปะแห่งการเชื่อมต่อกับใจคนอย่างแท้จริง

สนใจติดต่อสอบถามข้อมูล
ไลน์ ID  :  @krumax
Page FB : https://www.facebook.com/Krumax181026
เว็บไซด์ : https://businesssmarttools.com/
เบอร์โทร : 093-962-6545



9
รับผลิตชุดยูนิฟอร์มทุกประเภท
บริการจริงใจ ใส่ใจลูกค้า ราคายุติธรรม
รับผลิตและแนะนำรูปแบบชุดยูนิฟอร์มบริษัท อาทิเช่น เสื้อยืดคอกลม เสื้อยืดโปโล ชุดช็อป เสื้อแจ๊กเก็ต และ ชุดยูนิฟอร์มพนักงานในสำนักงาน โดยสามารถสั่งตัดตามไซส์ของแต่ละบุคคลได้ รวมถึงสินค้าพรีเมี่ยมต่างๆ เช่น ผ้ากันเปื้อน กระเป๋าผ้า หมวก เป็นต้น

ยูนิฟอร์ม ชุดยูนิฟอร์มพนักงาน

ยูนิฟอร์ม ชุดยูนิฟอร์มพนักงาน “ยูนิฟอร์ม” หรือ Uniform ในภาษาอังกฤษคือเสื้อผ้าหรือชุดที่พนักงานหรือกลุ่มคนบางๆ สวมใส่เพื่อแสดงตัวตนหรือตำแหน่งที่มีอยู่ เพื่อความสะดวกในการระบุและการระบายตัวเองในบริบทที่ต่างๆ ชุดยูนิฟอร์มของพนักงานมักจะมีการออกแบบเพื่อสอดคล้องกับลักษณะงานและศิลปะแบรนด์ขององค์กรหรือธุรกิจที่ต่างกันไปได้ เช่น ชุดยูนิฟอร์มของพนักงานโรงแรมจะแตกต่างกับชุดยูนิฟอร์มของพนักงานในโรงงานผลิตสินค้า หรือพนักงานบริการในร้านค้า
การออกแบบชุดยูนิฟอร์มมักเน้นความสะดวกสบายในการใช้งานร่วมกับการสื่อสารและการติดต่อระหว่างพนักงานและลูกค้า การเลือกใช้วัสดุที่เหมาะสมและการออกแบบที่สวยงาม เป็นต้น
การตัดต่อยูนิฟอร์มขึ้นอยู่กับลักษณะของธุรกิจหรือกิจการ การให้ความสำคัญกับความสะอาดและการบำรุงรักษาก็เป็นสิ่งที่สำคัญในการรักษาคุณภาพของยูนิฟอร์มให้ดูดีและสวยงามตลอดเวลาในการใช้งานประจำวันของพนักงานทุกคนในองค์กรหรือธุรกิจนั้นๆ
ยูนิฟอร์ม (Uniform) เป็นชุดเครื่องแบบที่พนักงานสวมใส่เพื่อแสดงตัวตนและตำแหน่งของพวกเขาในองค์กรหรือธุรกิจ เขาแสดงถึงความเป็นเอกลักษณ์และความเชื่อมโยงของพนักงานกับบริษัทหรือองค์กรนั้น ๆ
ชุดยูนิฟอร์มของพนักงานสามารถแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับอุตสาหกรรมและบริษัท ยกตัวอย่างเช่น:
ในโรงแรม พนักงานบริการอาจมีชุดยูนิฟอร์มที่ประกอบไปด้วยเสื้อโปโลและกางเกงขายาวหรือกระโปรง
ในธุรกิจทางการแพทย์ พวกเขาอาจสวมเสื้อคลุมเพื่อป้องกันและอุ่นใจให้กับผู้ป่วยและลูกค้า
ในธุรกิจแห่งการบิน พนักงานสายการบินอาจมีชุดยูนิฟอร์มที่รวมถึงเครื่องแต่งกายสมบูรณ์ รวมถึงเครื่องประดับและเครื่องแต่งกายพิเศษเพื่อเน้นความสวยงามและความเรียบร้อย
ชุดยูนิฟอร์มมักจะถูกออกแบบเพื่อสะท้อนภาพลักษณ์ของบริษัทหรือองค์กร และมักจะมีการกำหนดเอกลักษณ์ที่ชัดเจนเพื่อให้ลูกค้าหรือผู้บริโภคสามารถระบุและรู้จักพนักงานได้ง่ายขึ้นด้วยการมองเห็นชุดยูนิฟอร์มที่สวมใส่และการปฏิสัมพันธ์กับพนักงานในตำแหน่งต่าง ๆ ในองค์กรนั้น ๆ อย่างมั่นใจได้ในการตอบสนองและบริการลูกค้าในทางที่เหมาะสมและมีคุณภาพ

ทางบริษัทจัดนำเสนอข้อมูลให้กับลูกค้าอย่างละเอียด จนลูกค้าเข้าใจและสามารถเลือกใช้วัตถุดิบได้เหมาะสมกับการใช้งานได้อย่างคุ้มค่า คุ้มราคา และพึงพอใจ ตามที่ลูกค้าต้องการ
สนใจ สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
Line ID : uniform
โทร      : 02-583-7598
E-mail  : casuniform@yahoo.com
เว็บไซด์: https://uniformdeluxe.com/


10
ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร “ออน” ตราเอ็มเมด แพ็ค 7 ซอง/กล่อง

เหนื่อย เฉื่อย ชา ล้าสมอง
แฮงก์ มึนตึบ ง่วงนอน

ต้อง เอ็มเมด ออน เลย
แค่ฉีกแล้วเทใส่ปาก ดูดซึมไว หายมึนตึบ

วิตามินที่เป็นผง ละลายในปาก ดูดซึมได้ดีกว่า วิตามินที่เป็นเม็ด
จะเล่นเกมส์หนัก ดูซีรี่ย์ดึก ทำงานกะดึก
ตื่นสายแค่ไหน ก็แค่ ฉีกซอง กรอกปาก แล้วดื่มน้ำตาม
สดชื่นทันที ขับขี่ปลอดภัย พร้อมทุกสถานการณ์
ผลิตภัณฑ์ เอ็มเมด ออน วิตามินผงละลายในปาก
ดูดซึมไว ช่วยให้ร่างกายสดชื่นได้ทันที
ปลอดภัยกว่า ควบคุมโดยเภสัชมหิดล

ส่วนประกอบสำคัญ ใน เอ็มเมด ออน
L-Glutamine (100%) 200 mg.
Coenzyme Q10 (10%) 50 mg.
Goji berry extract 50 mg.
Zinc amino acid chelate (20%) 50 mg.
L-Glutathione (100%) 50 mg.
Blueberry juice powder 50 mg.
Taurine (100%) 20 mg.
Niacinamide (B3) (100%) 20 mg.
Thiamine hydrochloride (B1) 1 mg.

ผลิตภัณฑ์ เอ็มเมด ออน
ผลิตภัณฑ์เพื่อกระตุ้นความตื่นตัวให้กับร่างกาย ด้วยการสารสกัด Goji berry ที่มีวิตามิน C สูง และเสริมสร้างพละกำลังให้ร่างกายด้วย Taurine, Q10, L-Gluamine รวมทั้งวิตามิน B1, B3 และ Zinc ช่วยให้ร่างกายกระปรี้กระเปร่า
แถมท้ายด้วย Blueberry juice ที่ช่วยบำรุงสมองควบคู่ไปด้วย
เลขที่ใบจดแจ้ง อย : 13-1-15859-5-1159
รับประทานวันละ 1 ซอง (3 กรัม)
เทผลิตภัณฑ์กรอกใส่ปาก เคี้ยว ก่อนกลืน ดื่มน้ำตาม

สารกระตุ้น ที่ขายในท้องตลาด
ปลอดภัยกับร่างกายมากน้อยแค่ไหน!!!
ส่งผลเสียต่อสุขภาพหรือไม่!!!
ผลิตภัณฑ์ เอ็มเมด ออน ทางเลือกที่ปลอดภัยกว่า โดยเภสัชมหิดล
สำหรับคนนอนดึก เข้ากะดึก ง่วง หงาว หาว อยากนอน
แค่ ฉีก ซอง ใส่ปาก แล้วดื่มน้ำตาม ก็ช่วยให้ร่างกายรู้สึก สดชื่น ได้ทันที
ราคาโปรโมชั่นเพียง
1 กล่อง      315    บาท
2 กล่อง      599    บาท
3 กล่อง      859     บาท

สนใจสั่งซื้อ ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร “ออน” (ตราเอ็มเมด)

โทร: 064-662-4421
ไลน์ OA  : https://page.line.me/565blcje?openQrModal=true
Page FB : https://web.facebook.com/MMEDBrand/?_rdc=1&_rdr
เว็บไซด์ https://mmed.com/promotions/


11
ผลกระทบที่เกิดขึ้นจากเสียงดัง
ในโรงงานอุตสาหกรรม
โรงงานหรือสถานประกอบกิจการที่มีปัญหาด้านเสียงเกินค่ามาตรฐาน อาจสร้างผลกระทบทั้งด้านอาชีวอนามัยและความปลอดภัยในการทำงานต่อพนักงานในโรงงานเอง หรืออาจก่อให้เกิดมลพิษทางเสียงต่อชุมชนและสภาพแวดล้อมที่อยู่ด้านนอกโรงงาน หากเจ้าของแหล่งกำเนิดเสียงหรือผู้เกี่ยวข้องปล่อยปละละเลย ไม่จัดทำโครงการควบคุมเสียงหรือแก้ไขปัญหาดังกล่าวไม่สำเร็จ จะทำให้มีผลกระทบตามมา เช่น
•   เป็นผู้กระทำผิดกฎหมายด้านเสียง มีทั้งโทษปรับและจำคุก
•   ลูกจ้างอาจเกิดภาวะสูญเสียการได้ยินแบบชั่วคราวหรือแบบถาวร
•   ประสิทธิภาพการทำงานของพนักงานลดลงจากเสียงเกินค่ามาตรฐาน
•   ถูกร้องเรียนจากชุมชนหรือผู้ได้รับผลกระทบทางเสียงที่อยู่นอกโรงงาน
•   โรงงานหรือสถานประกอบกิจการอาจถูกสั่งปิดปรับปรุง จนกว่าจะแก้ไขแล้วเสร็จ

ทำไมต้องใช้บริการจาก
“NEWTECH INSULATION” ในการควบคุมเสียง?
ด้วยประสบการณ์กว่า 15 ปี ในการควบคุมเสียงอุตสาหกรรม เรามีความพร้อมทั้งด้านบุคลากรเฉพาะทางที่มีความรู้ด้านเสียงและความสั่นสะเทือน เครื่องมืออันทันสมัยที่ได้มาตรฐานตามที่กฎหมายกำหนด รวมถึงประสบการณ์ด้านการแก้ไขปัญหาเสียงอุตสาหกรรมที่มีทั้งในและต่างประเทศ ผู้ใช้บริการจึงมั่นใจได้ว่าปัญหาด้านเสียงในโรงงานหรือสถานประกอบกิจการจะได้รับการแก้ไขได้อย่างตรงจุด ด้วยค่าใช้จ่ายที่น้อยที่สุด เพราะเราเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการควบคุมเสียงในอุตสาหกรรม
– บริษัทฯ ขึ้นทะเบียนและได้รับใบอนุญาตเป็นนิติบุคคลผู้ให้บริการตรวจวัดและวิเคราะห์สภาวะการทำงานเกี่ยวกับระดับเสียง โดยกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน
– บุคลากรของบริษัทฯ ได้รับใบอนุญาตเป็นผู้ควบคุมมลพิษเสียงและความสั่นสะเทือน จากสภาวิชาชีพวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
– มีทีมงานที่มากประสบการณ์และความรู้ ได้แก่ วิศวกร นักสิ่งแวดล้อมอุตสาหกรรม เจ้าหน้าที่ความปลอดภัยในการทำงาน ช่างเทคนิค รวมไปถึงช่างประกอบและติดตั้งระบบควบคุมเสียง
– มีเครื่องมือที่ได้มาตรฐานไว้ให้บริการทั้งด้านฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์
– มีสินค้าสำหรับควบคุมเสียงและความสั่นสะเทือนให้เลือกหลากหลายรูปแบบ เช่น ผนังกันเสียง ห้องเก็บเสียง ม่านกันเสียง ตู้ครอบลดเสียง แจ็คเก็ตลดเสียง ไซเลนเซอร์ อคูสติคลูเวอร์ อุปกรณ์แยกความสั่นสะเทือน เป็นต้น
– มีการประเมินหรือทำตัวแบบจำลองระดับเสียง ก่อน-หลัง ปรับปรุงให้ลูกค้าใช้เป็นข้อมูลในการตัดสินใจ ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายและเวลาในการแก้ปัญหาด้านเสียง
– รับประกันระดับเสียงที่ลดลง อยู่ในเกณฑ์ที่กฎหมายกำหนด
– รับประกันคุณภาพสินค้าและฝีมือการติดตั้งทุกงาน

บริษัท นิวเทค อินซูเลชั่น จำกัด
ผู้เชี่ยวชาญด้านการควบคุมเสียงในโรงงานอุตสาหกรรม
จากประสบการณ์ในการแก้ไขปัญหาด้านเสียงมายาวนาน ไม่ว่าจะเป็นเสียงทางอาชีวอนามัยและความปลอดภัยในการทำงาน และเสียงทางสิ่งแวดล้อม
ทางบริษัทฯ ยินดีให้คำแนะนำที่ทำได้จริงสำหรับการแก้ปัญหาด้านมลภาวะทางเสียงที่เกิดขึ้น เพื่อให้ทั้งโรงงาน พนักงาน หรือชุมชนโดยรอบอยู่ร่วมกันได้
“เพราะเรา…เข้าใจเรื่องเสียง”


สนใจสั่งซื้อ
เบอร์โทร:  02-583-8035 , 02-583-8034, 098-995-4650
E-mail: contact@newtechinsulation.com
Line ID: @newtechinsulation
Facebook: newtechthai
Instagram: newtechinsulation
เว็บไซด์: https://www.noisecontrol365.com/



12
ลงประกาศฟรีออนไลน์, โพสประกาศฟรี Seo / วีโว่ vivo X70 Pro 5G
« เมื่อ: วันที่ 16 มิถุนายน 2024, 20:56:24 น. »
วีโว่ vivo X70 Pro 5G
vivo X70 Pro 5G ดีไซน์สวยงามพรีเมี่ยม รองรับสัญญาณ 5G บางเฉียบเพียงแค่ 7.99 มม. มาพร้อมเลนส์ ZEISS T Coating และชิปประมวลผลภาพ V1 ISP

รายละเอียดเบื้องต้น
   ยี่ห้อ-รุ่น             วีโว่ vivo X70 Pro 5G
   ราคากลาง          27,999 บาท
   จำนวนซิม           2 ซิม (Nano Sim)
   แบบดีไซน์          จอสัมผัส
   สี                    Black(Cosmic Black), Aurora Blue(Aurora Dawn)

   ความถี่-เครือข่าย
2G(GSM 850 / 900 / 1800 / 1900)
3G(HSDPA 850 / 900 / 1700(AWS) / 1900 / 2100)
4G(1, 2, 3, 4, 5, 7, 8, 9, 12, 17, 18, 19, 20, 26, 28, 38, 39, 40, 41)
5G(1, 3, 5, 7, 28, 40, 41, 78 SA/NSA)

   ขนาด-น้ำหนัก                    ยาว 0 x กว้าง 0 x หนา 0 มม., น้ำหนัก 183 กรัม
   ความจุข้อมูลภายใน (ROM)    256 GB
   ความจุข้อมูลภายนอกสูงสุด      -
   แบตเตอรี่ และระบบชาร์จ        ความจุแบตเตอรี่ 4,500 mAh

จอแสดงผล
   ชนิดจอ           จอสัมผัส (LTPS AMOLED)
   ความละเอียด    6.56 นิ้ว, 398 ppi, 1,080 x 2,376 px

   รายละเอียดอื่น
ชิปเซต MediaTek Dimensity 1200 5G
มีระบบเซ็นเซอร์ Fingerprint (under display, optical), accelerometer, gyro, proximity, compass, color spectrum
กล้องหลัง 4 เลนส์ ความละเอียด 50MP F1.8, (wide), PDAF, Laser AF, OIS เซนเซอร์ Sony IMX766V + 8MP F3.4, 125 มม. (periscope telephoto), PDAF, OIS, 5x optical zoom, PDAF + 12MP F2.0, 50 มม. (telephoto), PDAF, 2x optical zoom + 12MP F2.2, 16 มม., 116 องศา (ultrawide)
มาพร้อมเลนส์ ZEISS T Coating และชิปประมวลผลภาพ V1 ISP
บันทึกวีดีโอความละเอียด 4K 30/60FPS, 1080P 30/60FPS, gyro-EIS, HDR10+, Slow Motion 1080P 120/240FPS, รองรับระบบกันสั่น Gimbal Stabilization 3.0, VIS 5-Axis Ultra Stable
รองรับชาร์จเร็ว vivo FlashCharge 44W

กล้องถ่ายรูป
   ขนาด-ความละเอียด                    กล้องหลัง (50 Mpx), กล้องหน้า (32 Mpx)
   ความละเอียดของภาพภ่ายสูงสุด

   คุณสมบัติ               
Auto Focus, Flash
ระบบปฏิบัติการ

   หน่วยประมวลผล (CPU)          Octa-core (1x3.0 GHz Cortex-A78 & 3x2.6 GHz Cortex-A78 & 4x2.0 GHz Cortex-A55)
   หน่วยประมวลผลกราฟิก (GPU)  Mali-G77 MC9
   หน่วยความจำ (RAM)            12.0 GB
   ระบบเชื่อมต่อภายนอก             Infrared, USB(Type-C 2.0), Bluetooth(5.2, A2DP, LE, aptX HD), NFC, Wi-Fi(802.11 a/b/g/n/ac/6, dual-band, Wi-Fi Direct, hotspot)

   ระบบรับส่งข้อความ            SMS, MMS, EMAIL, PUSH MAIL
   การเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ต      3G, GPRS, EDGE, WiFi, 4G, 5G
   ระบบ GPS                     A-GPS, GLONASS, BDS, GALILEO, QZSS, NavIC

13
ออล นิว ไทรทัน: Mitsubishi Triton Athlete 2024 มี 2 รุ่นย่อย ราคาเริ่ม 1,125,000 บาท

Mitsubishi Triton Athlete 2024 รถกระบะอเนกประสงค์ สองตอน 4 ประตู เครื่องยนต์ดีเซล 2.4 ลิตร เทอร์โบ 204 แรงม้า แบ่งเป็น 2 รุ่น ขับเคลื่อน 2 ล้อ และ 4 ล้อ ราคาเริ่มต้น 1,125,000 บาท


Mitsubishi Triton Athlete 2024 (มิตซูบิชิ ไทรทัน แอทลีท 2024) รถกระบะ 4 ประตู ที่เน้นไลฟ์สไตล์ ตกแต่งสปอร์ตสำหรับโดยสารและกิจกรรมสันทนาการ ใช้เครื่องยนต์ดีเซลใหม่ Hyper Power ขนาด 2.4 ลิตร เทอร์โบ กำลัง 204 แรงม้า โดยแบ่งเป็น 2 รุ่นย่อย คือ ขับเคลื่อน 2 ล้อ และ 4 ล้อ พร้อมระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ ADAS ส่วนสีตัวถังมีให้เลือก 4 สี


Mitsubishi Triton Athlete 2024 ดีไซน์ภายนอก

สำหรับ Mitsubishi Triton Athlete 2024 จะเป็นไลน์อัพสูงสุดของ Mitsubishi Triton มีเฉพาะตัวถัง 2 ตอน 4 ประตู Double Cab และได้รับการตกแต่งพิเศษกว่าด้วยคิ้วกระจังหน้า คิ้วซุ้มล้อ กระจกมองข้าง มือจับประตู ราวหลังคา สปอร์ตบาร์ กันชนหลัง และล้ออัลลอยสีดำเงา รวมถึงกันชนหน้าออกแบบใหม่ให้แตกต่างจากรุ่นอื่น


Mitsubishi Triton Athlete 2024 ดีไซน์ภายใน

ห้องโดยสารของ Mitsubishi Triton Athlete 2024 ใช้โทนหลักเป็นสีดำ มาตรวัดยังเป็นแอนะล็อกผสมกับจอดิจิทัลแสดงข้อมูลการขับขี่ขนาด 7 นิ้ว พร้อมจอมัลติฟังก์ชันกลางขนาด 9 นิ้ว ระบบแอร์เป็นแบบอัตโนมัติแยกปรับซ้าย-ขวา แต่เบาะนั่งหุ้มด้วยวัสดุสังเคราะห์สีดำคล้ายหนังกลับเย็บลอนลาย Honey Comb ตัดด้วยแถบสีส้ม และในรุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อ คอนโซลกลางมีปุ่มปรับระบบขับเคลื่อนเลือกได้ระหว่าง 2High (2H), 4High (4H), 4High Locking Differential (4HLc) และ 4Low Locking Differential (4LLc) โดยไม่ต้องหยุดรถ   


Mitsubishi Triton Athlete 2024 เครื่องยนต์และสมรรถนะ

 Mitsubishi Triton Athlete 2024 จะใช้เครื่องยนต์ดีเซล 4 สูบ ขนาด 2.4 ลิตร เทอร์โบแปรผัน 2 สเตจ yper Power X2 ให้กำลังสูงสุด 204 แรงม้า และแรงบิด 470 นิวตันเมตร มีเฉพาะเกียร์อัตโนมัติ ส่วนระบบขับเคลื่อนมีทั้ง 2 ล้อ และ 4 ล้อ ซึ่งเลือกรูปแบบการขับขี่ได้ 7 โหมด คือ Normal, Eco, Gravel, Snow, Mud, Sand และ Rock

 
Mitsubishi Triton Athlete 2024 เทคโนโลยีและระบบความปลอดภัย


Mitsubishi Triton Athlete 2024 มาพร้อมระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ ADAS หรือที่ Mitsubishi เรียกว่า Diamond Sense ประกอบด้วย ระบบหลีกเลี่ยงการชนด้านหน้า, ระบบเตือนจุดอับสายตา, ระบบเตือนการเปลี่ยนเลน, ระบบเตือนการจราจรขณะถอย, ระบบปรับไฟสูงอัตโนมัติ, กล้องมองภาพรอบคัน นอกจากนี้ยังมีระบบควบคุมความเร็วแบบแปรผัน, ระบบควบคุมการขับเคลื่อนและความสมดุลขณะเข้าโค้ง (AYC) และถุงลมนิรภัย 7 ตำแหน่ง เป็นต้น

Mitsubishi Triton Athlete 2024 มีกี่สี

Mitsubishi Triton Athlete 2024 มีสีตัวถังให้เลือกทั้งหมด 4 สี ได้แก่

    สีดำ Jet Black Mica

    สีเทา Graphite Grey

    สีขาว White Diamond

    สีส้ม Yamabuki Orange Metallic

Mitsubishi Triton Athlete 2024 ราคาจำหน่าย

Mitsubishi Triton Athlete 2024 วางจำหน่ายสองรุ่นย่อย ราคา ดังนี้

- Mitsubishi Triton Athlete 2.4 Bi-Turbo AT 2WD ราคา 1,125,000 บาท


- Mitsubishi Triton Athlete 2.4 Bi-Turbo AT 4WD ราคา 1,298,000 บาท



14
เช็คลิสต์ 9 สัญญาณโรคเบาหวานถามหา

อาการโรคเบาหวานระยะแรกมักจะไม่แสดงออกมาให้เห็นได้ชัดเท่าไหร่นัก พอรู้ตัวอีกทีก็อาจจะมีอาการที่เกิดภาวะแทรกซ้อนขึ้นมาแล้ว เป็นโรคที่มีเกณฑ์พบมากขึ้นเรื่อยๆ และยังเป็นโรคเรื้อรังที่รักษาได้ไม่หายขาด ทำให้มีโอกาสเสี่ยงต่อการเกิดโรคแทรกซ้อนอื่นๆ ลุกลามจนอาจสูญเสียอวัยวะที่สำคัญของร่างกายไปก็ได้

ดังนั้นลองมาเช็คลิสต์อาการเบาหวาน กันดูว่าคุณเข้าข่ายที่จะเป็นโรคเบาหวานแล้วหรือยัง จะได้ทำการรักษาและดูแลตัวเองได้อย่างทันท่วงที

อาการโรคเบาหวาน 9 อาการ

    ปัสสาวะบ่อยมากผิดปกติ

    คอแห้งและกระหายน้ำบ่อย

    หิวบ่อย กินจุมากกว่าเดิม

    น้ำหนักตัวลดลงโดยไม่ทราบสาเหตุ

    อ่อนเพลีย ไม่มีแรง

    เวียนหัว ตาพร่า

    ผิวหนังแห้งและคันตามตัว

    รู้สึกชาบริเวณปลายนิ้วมือนิ้วเท้า

    แผลหายช้ากว่าปกติ

สัญญาณเตือนเบาหวาน

 
ปัสสาวะบ่อยมากผิดปกติ

อาการเบาหวานอันดับแรกคือ ปัสสาวะบ่อย มีปริมาณมาก กระบวนการกรองน้ำตาลในเลือดที่สูงมากออกจากปัสสาวะ โดยไตนี้จำเป็นต้องดึงน้ำออกมาด้วย ดังนั้นยิ่งมีระดับน้ำตาลสูงมากก็ยิ่งปัสสาวะบ่อยและมากขึ้น ลองสังเกตได้ว่าต้องดื่นมาเข้าห้องน้ำตอนกลางคืนบ่อยๆ

 
คอแห้งและกระหายน้ำบ่อย

มีอาการคอแห้ง กระหายน้ำ และดื่มน้ำมาก เป็นผลมาจากร่างกายเสียน้ำไปจากการปัสสาวะบ่อยและมากขึ้น ทำให้เกิดภาวะขาดน้ำ และต้องชดเชยด้วยการดื่มน้ำบ่อย ๆ เป็นอาการโรคเบาหวานที่มักพบ


หิวบ่อย กินจุมากกว่าเดิม

หิวบ่อยและกินจุมากกว่าที่เคยกิน เพราะร่างกายขาดพลังงาน จึงทำให้รู้สึกหิวบ่อยและกินจุผิดปกติ

 
น้ำหนักตัวลดลงโดยไม่ทราบสาเหตุ

น้ำหนักลด ผอมลง เนื่องจากในภาวะที่ขาดอินซูลินร่างกายไม่สามารถนำน้ำตาลในเลือดไปใช้เป็นพลังงานได้ ร่วมกับการขาดน้ำจากการปัสสาวะบ่อย ร่างกายจึงจำเป็นต้องนำเอาโปรตีนและไขมันที่เก็บสะสมไว้ในเนื้อเยื่อมาใช้แทน จึงทำให้รู้สึกอ่อนเพลียและน้ำหนักตัวลดลงโดยไม่ทราบสาเหตุ

 
อ่อนเพลีย ไม่มีแรง

เกิดจากการที่อินซูลินไม่สามารถนำน้ำตาลกลูโคสไปส่งให้อวัยวะต่างๆใช้เป้นพลังงานได้ ร่างกายจึงพยายามสลายพลังงานออกมาจากไขมันและกล้ามเนื้อออกมาใช้ จึงทำให้กล้ามเนื้อลีบ ร่างกายจึงอ่อนเพลีย

 
เวียนหัว ตาพร่า

เมื่อร่างกายมีระดับน้ำตาลในเลือดสูงเป็นเวลานาน ทำให้หลอดเลือดในจอประสาทตาเริ่มอักเสบ โป่งพอง มีเลือด และมีน้ำเหลืองซึม หารั่วซึมถึงจุดศูนย์กลางของการรับภาพ อาจทำให้มีอาการตาพร่ามัว

 
ผิวหนังแห้งและคันตามตัว

เพราะน้ำตาลในกระแสเลือด ถ้าตกค้างอยู่นานทำให้เป็นพิษได้ เกิดอาการภูมิแพ้ สามารถกดภูมิคุ้มกันในร่างกายให้ต่ำลงในมิติการต้านทานโรคได้ คนที่แพ้ง่ายอยู่แล้ว พอได้รับน้ำตาลปริมาณมากกว่าปกติก็จะเกิดการคันได้ง่าย เพราะน้ำตาลเป็นสารก่อภูมิแพ้

 
รู้สึกชาบริเวณปลายนิ้วมือนิ้วเท้า

เนื่องจากโรคเบาหวานทำให้หลอดเลือดแดงตีบ จึงทำให้เลือดนำออกซิเจนไปเลี้ยงบริเวณส่วนปลายนิ้วมือนิ้วเท้าไม่ถึง จึงทำให้เกิดอาการชาขึ้นได้

 
แผลหายช้ากว่าปกติ

สาเหตุเดียวกับอาการชานิวมือนิ้วเท้า เนื่องจากหลอดเลือดทำงานผิดปกติด้วยเช่นกัน จึงทำให้แผลหายช้าหรือกลายเป็นแผลเรื้อรังเสี่ยงต่อการติดเชื้อได้

15
โรคกลุ่มอาการกิลแลง-บาร์เร (Guillain-Barre syndrome)

กลุ่มอาการกิลแลง-บาร์เร (กลุ่มอาการกีแยง-บาร์เร ก็เรียก) เป็นโรคที่มีภาวะผิดปกติของประสาทส่วนปลาย (peripheral nerves) หลายเส้นทั่วร่างกาย ทำให้ผู้ป่วยเกิดอาการแขนขาอ่อนแรง เป็นอัมพาตแบบเฉียบพลัน ซึ่งมักพบหลังเป็นโรคติดเชื้อทางเดินหายใจหรือทางเดินอาหาร โดยไม่ทราบสาเหตุ 

โรคนี้นับว่าเป็นภาวะรุนแรง และอาจมีภาวะแทรกซ้อนเป็นอันตรายได้

พบได้ปีละประมาณ 1.2-3 คน ต่อประชากร 100,000 คน พบได้ในคนทุกวัย แต่จะพบบ่อยในกลุ่มอายุ 15-35 ปี และ 50-75 ปี และพบในผู้ชายมากกว่าผู้หญิงประมาณ 1.5 เท่า

สาเหตุ

เกิดจากปฏิกิริยาภูมิต้านตนเอง (autoimmune reaction) ต่อปลอกหุ้มเส้นประสาท (myelin sheath) ส่วนปลายหลายเส้นทั่วร่างกาย ทำให้เกิดอาการชาและกล้ามเนื้ออ่อนแรงที่แขนขาและส่วนอื่น ๆ ของร่างกาย ซึ่งในปัจจุบันยังไม่ทราบสาเหตุแน่ชัด

ประมาณร้อยละ 60-70 ของผู้ป่วยมักเกิดหลังการติดเชื้อแบคทีเรียหรือไวรัสนับเป็นสัปดาห์ ที่พบบ่อยคือหลังเป็นโรคติดเชื้อของระบบทางเดินหายใจ รองลงมาคือ หลังเป็นโรคติดเชื้อของระบบทางเดินอาหาร 

เชื้อต้นเหตุที่พบบ่อย เช่น แคมไพโรแบกเตอร์เจจูนิ (Campylobacter jejuni)*, ไวรัสไซโตเมกาโล (cytomegalovirus), ไวรัสเอปสไตน์บาร์/อีบีวี (Epstein-Barr virus/EBV), ไวรัสไข้หวัดใหญ่, ไวรัสตับอักเสบ, ไวรัสโควิด19, ไวรัสชิคุนกุนยา, ไวรัสซิกา, เอชไอวี, เชื้อไมโคพลาสมานิวโมเนีย (Mycoplasma pneumonia)** เป็นต้น

นอกจากนี้ ยังมีรายงานการพบผู้ป่วยโรคนี้หลังได้รับวัคซีนบางชนิด (วัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ วัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้า) หรือหลังได้รับการผ่าตัดบางอย่าง


*เชื้อชนิดนี้เป็นแบคทีเรียชนิดหนึ่ง ซึ่งเป็นสาเหตุทำให้เกิดอาการท้องเดินจาก โรคอาหารเป็นพิษจากเชื้อโรค เนื่องจากผู้ป่วยติดเชื้อชนิดนี้จากการกินอาหารที่ไม่ได้ปรุงสุก โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เนื้อสัตว์ เป็ดไก่ 
**เชื้อชนิดนี้เป็นแบคทีเรียชนิดหนึ่ง ซึ่งเป็นสาเหตุของ โรคปอดอักเสบ

อาการ

อาการมักเกิดหลังเป็นโรคติดเชื้อทางเดินหายใจ (เช่น ไข้หวัด ไข้หวัดใหญ่ ปอดอักเสบ) หรือทางเดินอาหาร (ท้องเดิน อาหารเป็นพิษ) ประมาณ 2-4 สัปดาห์ โดยมีอาการชาที่ปลายนิ้วมือหรือนิ้วเท้า และกล้ามเนื้ออ่อนแรงของแขนหรือขา

ส่วนใหญ่จะเริ่มมีอาการที่ปลายเท้าและขา ทำให้เดินเซ หรือเดินไม่ได้ ขึ้นบันไดไม่ได้ บางรายอาจเริ่มมีอาการที่ใบหน้าหรือแขนก่อน แล้วต่อมา (นับเป็นชั่วโมง ๆ หรือเป็นวัน ๆ) ก็จะลุกลามไปที่ร่างกาย แขนขา และกล้ามเนื้อแทบทุกส่วน ซึ่งอาจกลายเป็นอัมพาตรุนแรงทั่วร่างกายได้

ผู้ป่วยอาจมีอาการกล้ามเนื้อตาและใบหน้าอ่อนแรง มีอาการกลอกตาไม่ได้ มองเห็นภาพซ้อน พูดอ้อแอ้ เคี้ยวและกลืนลำบากร่วมด้วย 

บางรายอาจมีอาการปวดมากตามร่างกาย (เช่น บริเวณไหปลาร้า สะบัก หลัง ก้น ต้นขา) จะปวดมากเวลาเคลื่อนไหวร่างกาย และอาการอาจเป็นมากขึ้นตอนกลางคืน

บางรายอาจมีความผิดปกติของระบบประสาทอัตโนมัติ ทำให้มีอาการชีพจรเต้นเร็วหรือช้ากว่าปกติ หัวใจเต้นผิดจังหวะ ความดันโลหิตสูง หรือความดันตกในท่ายืน (ลุกขึ้นยืนจะมีอาการหน้ามืด เป็นลม) กลั้นปัสสาวะและอุจจาระไม่ได้ เป็นต้น

หากเป็นรุนแรง อาจทำให้กล้ามเนื้อหายใจเป็นอัมพาต หยุดหายใจ หรือหัวใจวาย เป็นอันตรายถึงเสียชีวิตได้

โรคนี้มักมีอาการเปลี่ยนแปลงเร็ว อาการมักทรุดหนักได้ภายในไม่กี่วันหลังเริ่มมีอาการ และมักเป็นอยู่นานประมาณ 2-4 สัปดาห์


ภาวะแทรกซ้อน

ในรายที่เป็นรุนแรง ผู้ป่วยอาจเสียชีวิตด้วยภาวะแทรกซ้อน เช่น ภาวะหายใจลำบาก (เนื่องจากกล้ามเนื้อควบคุมการหายใจเป็นอัมพาต) ภาวะหัวใจวาย โรคติดเชื้อ (ปอดอักเสบ ภาวะโลหิตเป็นพิษ) เป็นต้น

ในรายที่เป็นอัมพาต นอนติดเตียงนาน ๆ นอกจากทำให้เป็นแผลกดทับแล้ว ยังอาจเกิด ภาวะหลอดเลือดดำส่วนลึกมีลิ่มเลือด ทำให้เกิดภาวะสิ่งหลุดอุดตันหลอดเลือดแดงปอดแทรกซ้อนเป็นอันตรายได้               

บางรายอาจกลายเป็นอัมพาตหรือกล้ามเนื้ออ่อนแรงเรื้อรัง หรือมีอาการชาหรือเสียวของแขนขาเรื้อรัง

การวินิจฉัย

แพทย์จะวินิจฉัยเบื้องต้นจากอาการ ประวัติการเจ็บป่วย และการตรวจร่างกาย ซึ่งมักตรวจพบอาการกล้ามเนื้อแขนขาอ่อนแรงหรือเป็นอัมพาต เดินไม่ได้ พูดอ้อแอ้ เคี้ยวลำบาก กลืนลำบาก กลอกตาไม่ได้

เมื่อใช้ค้อนยางเคาะดูรีเฟลกซ์ของข้อเข่าและข้อเท้าพบว่าลดลงหรือไม่มีเลย

อาจตรวจพบชีพจรเต้นเร็วหรือช้ากว่าปกติ หรือเต้นไม่เป็นจังหวะ ความดันโลหิตสูง หรือพบภาวะความดันตกในท่ายืน

แพทย์จะทำการวินิจฉัยให้แน่ชัด ด้วยการตรวจพิเศษ เช่น การเจาะหลัง (lumbar puncture) การตรวจคลื่นไฟฟ้ากล้ามเนื้อ (electromyography/EMG) การตรวจการชักนำประสาท (nerve conduction study) การตรวจเลือด เอกซเรย์ปอด เป็นต้น


การรักษาโดยแพทย์

แพทย์จะรับผู้ป่วยไว้รักษาในโรงพยาบาลทุกราย แม้บางรายในช่วงแรกอาการจะดูเหมือนไม่หนัก แต่เนื่องจากโรคนี้อาจมีอาการรุนแรงขึ้นในเวลาต่อมาไม่นานได้ จึงต้องเฝ้าสังเกตอาการอย่างใกล้ชิด 

แพทย์จะให้การรักษาตามอาการและแก้ไขภาวะแทรกซ้อน เช่น ให้ยาแก้ปวด ยาปฏิชีวนะรักษาโรคติดเชื้อ (เช่น ปอดอักเสบ ทางเดินปัสสาวะอักเสบ) สารกันเลือดเป็นลิ่ม (anticoagulant สำหรับผู้ที่นอนติดเตียง เพื่อป้องกันการเกิดภาวะหลอดเลือดดำส่วนลึกมีลิ่มเลือด) การทำกายภาพบำบัด เป็นต้น

ในรายที่กล้ามเนื้อหายใจเป็นอัมพาต หายใจลำบาก แพทย์จำเป็นต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ 

บางราย อาจต้องทำการถ่ายพลาสมา (plasmapheresis) หรือฉีดอิมมูนโกลบูลินเข้าหลอดเลือดดำ เพื่อกำจัดสารภูมิต้านทานที่เป็นตัวก่อโรค

ผลการรักษา ขึ้นกับความรุนแรงของโรค สภาพร่างกายของผู้ป่วย การได้รับการรักษาเร็วหรือช้า

ผู้สูงอายุ ผู้ที่มีอาการทรุดลงเร็ว ผู้ที่ได้รับการรักษาช้า และผู้ที่ต้องใช้เครื่องช่วยหายใจนาน มีโอกาสเกิดภาวะแทรกซ้อนร้ายแรงหรือเสียชีวิตสูง   

ผู้ป่วยส่วนใหญ่อาการจะดีขึ้นภายใน 2-4 สัปดาห์ แต่อาจต้องใช้เวลาในการฟื้นฟูร่างกายให้แข็งแรงเป็นปกตินาน 6-12 เดือน บางรายอาจนานเป็นแรมปี

บางรายอาการอาจไม่หายขาด และมีความพิการอย่างถาวร

บางรายหลังจากอาการทุเลาดีนานเป็นแรมเดือนแรมปีแล้ว อาจมีอาการชาและกล้ามเนื้ออ่อนแรงกำเริบซ้ำในเวลาต่อมาได้

สำหรับเด็กและคนอายุน้อย มักจะฟื้นตัวได้ดีกว่าคนอายุมาก


การดูแลตนเอง

หากสงสัย เช่น มีอาการชาที่นิ้วมือหรือนิ้วเท้า แขนหรือขาอ่อนแรง เดินลำบาก พูด เคี้ยวหรือกลืนลำบาก ซึ่งเกิดขึ้นเฉียบพลัน ควรปรึกษาแพทย์โดยเร็ว

เมื่อตรวจพบว่าเป็นกลุ่มอาการกิลแลง-บาร์เร ควรดูแลตนเอง ดังนี้

    รักษา กินยา และปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์ 
    ติดตามรักษากับแพทย์ตามนัด


ควรกลับไปพบแพทย์ก่อนนัด ถ้ามีลักษณะข้อใดข้อหนึ่ง ดังต่อไปนี้

    สงสัยอาการกำเริบหรือมีภาวะแทรกซ้อนตามมา เช่น มีอาการไข้ ชาตามนิ้วมือหรือนิ้วเท้า แขนขาอ่อนแรง เป็นต้น
    ในรายที่แพทย์ให้ยากลับไปกินต่อที่บ้าน กินยาแล้วสงสัยเกิดผลข้างเคียงจากยา เช่น มีลมพิษ ผื่นคัน ตุ่มพุพอง ตาบวม ปากบวม ปวดท้อง ท้องเดิน คลื่นไส้ อาเจียน จุดแดงจ้ำเขียว หรือมีอาการผิดปกติอื่น ๆ


การป้องกัน

ยังไม่มีวิธีป้องกันที่ได้ผล เนื่องจากยังไม่ทราบสาเหตุของการเกิดโรคนี้

ข้อแนะนำ

1. หลังจากหายจากโรคติดเชื้อทางเดินหายใจ (เช่น ไข้หวัด ไข้หวัดใหญ่ ปอดอักเสบ) หรือทางเดินอาหาร (เช่น ท้องเดิน อาหารเป็นพิษ) หากมีอาการสงสัยว่าจะเป็นโรคนี้ เช่น มีอาการชาที่นิ้วมือหรือนิ้วเท้า แขนหรือขาอ่อนแรง ควรไปพบแพทย์โดยเร็ว เนื่องจากแม้ระยะแรกอาการดูไม่รุนแรง แต่อาการจะทรุดหนักตามมาจนเป็นอัมพาตทั้งตัวได้ภายในไม่กี่วัน และเป็นอันตรายร้ายแรงได้

2. การไปปรึกษาแพทย์และได้รับการรักษาที่ถูกต้องแต่เนิ่น ๆ มีส่วนช่วยให้การรักษาได้ผลดี และลดการเกิดภาวะแทรกซ้อนที่ร้ายแรงได้

3. ผู้ที่เป็นโรคนี้อาจต้องอยู่รักษาที่โรงพยาบาลนาน และเมื่อออกจากโรงพยาบาลแล้วใช้เวลานานเป็นแรมเดือนแรมปีในการฟื้นฟูร่างกายให้หายเป็นปกติ ผู้ป่วยควรเรียนรู้ให้เข้าใจธรรมชาติของโรคและวิธีดูแลรักษา ควรปฏิบัติตัวและติดตามรักษากับแพทย์และทีมงานอย่างจริงจังและต่อเนื่อง


หน้า: [1] 2 3 ... 65
















































รวมเว็บลงประกาศฟรี ล่าสุด
รวมเว็บประกาศฟรี
โพสต์ขายของฟรี
ลงโฆษณาสินค้าฟรี
โฆษณาฟรี
ประกาศฟรี
เว็บฟรีไม่จำกัด
ทำ SEO ติด Google
ลงประกาศขาย
เว็บฟรียอดนิยม
โพสโฆษณา
ประกาศขายของ
ประกาศหางาน
บริการ แนะนำเว็บ
ลงประกาศ
รวมเว็บประกาศฟรี
รวมเว็บซื้อขาย ใช้งานง่าย
ลงประกาศฟรี ทุกจังหวัด
ต้องการขาย
ปล่อยเช่า บ้าน คอนโด ที่ดิน
ขายบ้าน คอนโด ที่ดิน
ประกาศฟรี ไม่มี หมดอายุ
เว็บประกาศฟรี ติดอันดับ
ฝากร้านฟรี โพ ส ฟรี
ลงประกาศฟรี กรุงเทพ
ลงประกาศฟรี ทั่วไทย
ลงประกาศโฆษณาฟรี
ลงประกาศฟรี 2023
รวมเว็บลงประกาศฟรี

รวม SMFขายสินค้า
ประกาศฟรีออนไลน์
ลงประกาศ สินค้า
เว็บบอร์ด โพสต์ฟรี
ลงประกาศ ซื้อ-ขาย ฟรี
ชุมชนคนไอทีขายสินค้า
ลงประกาศฟรีใหม่ๆ 2023
โปรโมทธุรกิจฟรี
โปรโมทสินค้าฟรี
แจกฟรี รายชื่อเว็บลงประกาศฟรี
โปรโมท Social
โปรโมท youtube
แจกฟรี รายชื่อเว็บ
แจกฟรีโพสเว็บบอร์ดsmf
เว็บบอร์ดsmfโพสฟรี
รายชื่อเว็บบอร์ดขายสินค้าฟรี
ลงประกาศฟรี เว็บบอร์ด
เว็บบอร์ดขายสินค้าฟรี
ฟรี เว็บบอร์ด แรงๆ
โพสขายสินค้าตรงกลุ่มเป้าหมาย
โฆษณาเลื่อนประกาศได้
ขายของออนไลน์
แนะนำ 6 วิธีขายของออนไลน์
อยากขายของออนไลน์
เริ่มต้นขายของออนไลน์
ขายของออนไลน์ เริ่มยังไง
ชี้ช่องขายของออนไลน์
การขายของออนไลน์
สร้างเว็บฟรีประกาศ

smf โพสฟรี
smf ขายของออนไลน์อะไรดี
smf โพสฟรี
อยากขายของออนไลน์ smf
ขายของออนไลน์ยังไงให้มีคนซื้อ
smf เริ่มต้นขายของออนไลน์
ไอ เดีย การขายของออนไลน์
เว็บขายของออนไลน์
เริ่ม ขายของออนไลน์ โพสฟรี
smf ขายของออนไลน์ที่ไหนดี
เทคนิคการโพสต์ขายของ
smf โพสต์ขายของให้ยอดขายปัง
โพสต์ขายของให้ยอดขายปังโพสฟรี
smf ขายของในกลุ่มซื้อขายสินค้า
โพสขายของยังไงให้มีคนซื้อ
smf โพสขายของแบบไหนดี
โพสฟรีแคปชั่นโพสขายของยังไงให้ปัง
smf แคปชั่นแม่ค้าออนไลน์
แคปชั่นแม่ค้าออนไลน์ โพสฟรี
ขายของให้ออร์เดอร์เข้ารัว ๆ
smf โพสต์เรียกลูกค้า
โพสต์เรียกลูกค้าโพสฟรี
smf ขายของออนไลน์ให้ปัง
smf โพสต์ขายของ
smf เขียนโพสขายของโดนๆ
แคปชั่นเปิดร้าน โพสฟรี
smf วิธีโพสขายของให้น่าสนใจ
วิธีเพิ่มยอดขาย โพสฟรี
smf เทคนิคเพิ่มยอดขาย

เพิ่มยอดขายให้เข้าเป้า
เว็บบอร์ดฟรี
โปรโมทฟรี
มีลูกค้าเพิ่ม - YouTube
ผลักดันยอดขายโปรโมทฟรี
โปรโมทผลักดันยอดขาย
โปรโมทแผนการเพิ่มยอดขายให้ได้ผล
โปรโมทวิธีการวางแผนการเพิ่มยอดขาย
ยอดขายไม่ดีควรทำอย่างไร
ยอดขายตกเกิดจากอะไร
ทำไมต้องเพิ่มยอดขาย
ขายฟรี
ยอดการขาย คืออะไร
กลยุทธ์เพิ่มยอดขาย
โพสฟรีการกระตุ้นยอดขาย
โปรโมทกระตุ้นยอดขาย
โปรโมทฟรีออนไลน์กระตุ้นยอดขาย
ประกาศฟรีเพิ่มยอดขาย
ลงประกาศเพิ่มยอดขาย
ฝากร้านฟรีเพิ่มยอดขาย
ลงประกาศฟรีใหม่ ๆ เพิ่มยอดขาย
เว็บประกาศฟรีเพิ่มยอดขาย
Post ฟรี
ประกาศขายของฟรี
ประกาศฟรี
โพส SEO
ลงโฆษณาฟรี
โปรโมทเพจร้านค้า