อย่างที่ทุกคนรู้กันดีอยู่แล้วว่า “แท็กซี่” เป็นหนึ่งในอาชีพยอดนิยมตลอดกาล เพราะนอกจากไม่มีข้อจำกัดเรื่องวุฒิการศึกษาแล้ว ยังเป็นอาชีพที่สามารถเลือกเวลาทำงานอย่างอิสระ ตอบโจทย์คนอยากประกอบอาชีพที่เป็นนายตัวเอง ด้วยเหตุนี้จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่หลายคนหันมา
ขับแท็กซี่เป็นอาชีพหลักหรืออาชีพเสริมเพื่อหารายได้ แต่อย่างไรก็ตามเนื่องจากแท็กซี่เป็นรถสาธารณะหากต้องการประกอบอาชีพนี้จำเป็นต้องมี ใบขับขี่สาธารณะ ส่วนใครที่สามารถขอได้ ต้องใช้เอกสารอะไร และมีขั้นตอนอย่างไรบ้างนั้น เรามีคำตอบมาฝาก
คุณสมบัติของผู้ขอใบขับขี่สาธารณะ เพราะรถแท็กซี่เป็นรถรับจ้างสาธารณะที่ทำหน้าที่รับส่งผู้โดยสาร นอกจากต้องมีความชำนาญในการขับขี่และเข้าใจกฎจราจรแล้ว กรมขนส่งยังกำหนดคุณสมบัติในการทำ ใบขับขี่สาธารณะ มากกว่าการทำใบอนุญาตขับรถยนต์ส่วนบุคคลเพื่อความปลอดภัยของผู้โดยสาร ซึ่งมีการกำหนดคุณสมบัติดังนี้
ผู้ขอใบขับขี่ต้องมีอายุตั้งแต่ 22 ปีขึ้นไป
ต้องมีใบขับขี่รถส่วนบุคคลประเภทใดประเภทหนึ่งอย่างน้อย 1 ปี
ร่างกายสมบูรณ์ ไม่พิการเป็นอุปสรรคต่อการขับรถยนต์ ไม่เป็นบุคคลวิกลจริตหรือฟั่นเฟือน
ไม่เคยต้องโทษหรือถูกปรับจากคดีเกี่ยวกับรถยนต์ตั้งแต่ 2 ครั้งขึ้นไป
ไม่เคยต้องโทษจำคุกจากคดีต่าง ๆ หรือหากเคยต้องโทษจะต้องพ้นโทษตามเงื่อนไขของกรมขนส่ง ได้แก่ จำคุกไม่เกิน 3 เดือน ต้องพ้นโทษอย่างน้อย 6 เดือน จำคุกเกิน 3 เดือน ไม่เกิน 3 ปี ต้องพ้นโทษอย่างน้อย 1 ปี 6 เดือน จำคุกมากกว่า 3 ปี ต้องพ้นโทษอย่างน้อย 3 ปี ส่วนกรณีได้รับโทษปรับ อยู่ระหว่างขึ้นศาล หรือรอลงอาญา สามารถนำเอกสารทางคดีมาชี้แจงกับเจ้าหน้าที่ได้
เอกสารประกอบการทำใบขับขี่สาธารณะ การเตรียมเอกสารประกอบการทำใบขับขี่รถสาธารณะแบ่งได้เป็น 3 กรณี ได้แก่ การขอทำใบขับขี่ใหม่ การต่ออายุใบขับขี่ และการขอทำใหม่กรณีทำใบขับขี่หาย โดยแต่ละกรณีให้เตรียมเอกสารดังต่อไปนี้
กรณีขอใบขับขี่ใหม่ ได้แก่ บัตรประชาชนตัวจริง ใบรับรองแพทย์ตามรูปแบบที่แพทยสภากำหนด (อายุไม่เกิน 1 เดือน) และใบขับขี่รถยนต์ส่วนบุคคล
กรณีต่อใบขับขี่ ได้แก่ บัตรประชาชนตัวจริง ใบรับรองแพทย์ตามรูปแบบที่แพทยสภากำหนด (อายุไม่เกิน 1 เดือน) และใบขับขี่รถสาธารณะใบเดิม
กรณีใบขับขี่รถสาธารณะหาย ได้แก่ บัตรประชาชนตัวจริงและใบแจ้งความจากสถานีตำรวจ
ขั้นตอนการทำใบขับขี่สาธารณะสำหรับการยื่นคำขอ ใบขับขี่สาธารณะ สามารถดำเนินการที่สำนักงานขนส่งทั่วประเทศ โดยมีขั้นตอนการทำใบขับขี่ดังนี้
จองคิวทำใบขับขี่ล่วงหน้าผ่านแอปพลิเคชัน DLT Smart Queue หรือเว็บไซต์ของกรมการขนส่งทางบก (
https://www.dlt.go.th/)
เมื่อถึงวันนัดให้เดินทางไปที่กรมขนส่งเพื่อเขียนคำขอและส่งเอกสารต่าง ๆ ให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบ
ขั้นตอนต่อมาผู้ขอใบขับขี่ต้องเข้ารับการตรวจสอบสมรรถภาพของร่างกาย ได้แก่ ทดสอบการมองเห็นสี ทดสอบสายตาทางลึก ทดสอบสายตาทางกว้าง และการทดสอบปฏิกิริยาเท้า
หลังจากผ่านการทดสอบสมรรถภาพของร่างกายแล้วผู้ขอใบขับขี่ต้องเข้าอบรมการขับขี่เป็นเวลา 5 ชั่วโมง
ผู้ขอใบขับขี่ต้องเข้ารับการทดสอบข้อเขียนภาคทฤษฎี โดยข้อสอบมี 30 คะแนน จะต้องสอบได้ไม่น้อยกว่า 28 คะแนน
นำหนังสือจากกรมการขนส่งทางบกไปยื่นขอตรวจสอบประวัติอาชญากรที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ
รอผลการตรวจสอบประวัติอาชญากรประมาณ 15 – 45 วัน โดยผลการตรวจจะถูกส่งทาง SMS มายังเบอร์โทรศัพท์ของผู้ขอใบขับขี่และส่งไปยังกรมขนส่งโดยตรง
ผู้ขอใบขับขี่ตรวจสอบรายชื่อที่เว็บไซต์กรมขนส่งทางบก ถ้ามีรายชื่อสามารถไปทำใบขับขี่ที่สำนักงานขนส่งได้ทั่วประเทศ โดยจะต้องชำระค่าธรรมเนียม 475 บาท และถ่ายภาพเพื่อทำใบขับขี่ด้วย
จะเห็นได้ว่าการทำใบขับขี่รถยนต์สาธารณะนั้นไม่แตกต่างจากการทำรถยนต์ส่วนบุคคล เพียงแค่ใช้เวลานานกว่าเพราะมีขั้นตอนการตรวจสอบประวัติอาชญากรเพิ่มเติม ถ้าใครมีใบขับขี่รถยนต์สาธารณะและ ขับแท็กซี่ อยู่แล้ว แต่หากต้องการเพิ่มรายได้มากขึ้น Grab Taxi เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่น่าสนใจ ด้วยทำง่าย ไม่ยาก ไม่ต้องกังวลกับปัญหา
สมัครแกร็บเสียค่าอะไรบ้าง เพราะฟรีทุกขั้นตอนและยังทำให้ มีงานประจำก็สามารถทำในวันหยุดได้ รับรองรายได้ปังแน่นอน
![](https://sv1.picz.in.th/images/2022/09/07/alDVyI.md.jpg)