ผู้เขียน หัวข้อ: โรคกลุ่มอาการกิลแลง-บาร์เร (Guillain-Barre syndrome)  (อ่าน 225 ครั้ง)

siritidaphon

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 810
    • ดูรายละเอียด
โรคกลุ่มอาการกิลแลง-บาร์เร (Guillain-Barre syndrome)
« เมื่อ: วันที่ 14 มิถุนายน 2024, 15:23:45 น. »
โรคกลุ่มอาการกิลแลง-บาร์เร (Guillain-Barre syndrome)

กลุ่มอาการกิลแลง-บาร์เร (กลุ่มอาการกีแยง-บาร์เร ก็เรียก) เป็นโรคที่มีภาวะผิดปกติของประสาทส่วนปลาย (peripheral nerves) หลายเส้นทั่วร่างกาย ทำให้ผู้ป่วยเกิดอาการแขนขาอ่อนแรง เป็นอัมพาตแบบเฉียบพลัน ซึ่งมักพบหลังเป็นโรคติดเชื้อทางเดินหายใจหรือทางเดินอาหาร โดยไม่ทราบสาเหตุ 

โรคนี้นับว่าเป็นภาวะรุนแรง และอาจมีภาวะแทรกซ้อนเป็นอันตรายได้

พบได้ปีละประมาณ 1.2-3 คน ต่อประชากร 100,000 คน พบได้ในคนทุกวัย แต่จะพบบ่อยในกลุ่มอายุ 15-35 ปี และ 50-75 ปี และพบในผู้ชายมากกว่าผู้หญิงประมาณ 1.5 เท่า

สาเหตุ

เกิดจากปฏิกิริยาภูมิต้านตนเอง (autoimmune reaction) ต่อปลอกหุ้มเส้นประสาท (myelin sheath) ส่วนปลายหลายเส้นทั่วร่างกาย ทำให้เกิดอาการชาและกล้ามเนื้ออ่อนแรงที่แขนขาและส่วนอื่น ๆ ของร่างกาย ซึ่งในปัจจุบันยังไม่ทราบสาเหตุแน่ชัด

ประมาณร้อยละ 60-70 ของผู้ป่วยมักเกิดหลังการติดเชื้อแบคทีเรียหรือไวรัสนับเป็นสัปดาห์ ที่พบบ่อยคือหลังเป็นโรคติดเชื้อของระบบทางเดินหายใจ รองลงมาคือ หลังเป็นโรคติดเชื้อของระบบทางเดินอาหาร 

เชื้อต้นเหตุที่พบบ่อย เช่น แคมไพโรแบกเตอร์เจจูนิ (Campylobacter jejuni)*, ไวรัสไซโตเมกาโล (cytomegalovirus), ไวรัสเอปสไตน์บาร์/อีบีวี (Epstein-Barr virus/EBV), ไวรัสไข้หวัดใหญ่, ไวรัสตับอักเสบ, ไวรัสโควิด19, ไวรัสชิคุนกุนยา, ไวรัสซิกา, เอชไอวี, เชื้อไมโคพลาสมานิวโมเนีย (Mycoplasma pneumonia)** เป็นต้น

นอกจากนี้ ยังมีรายงานการพบผู้ป่วยโรคนี้หลังได้รับวัคซีนบางชนิด (วัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ วัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้า) หรือหลังได้รับการผ่าตัดบางอย่าง


*เชื้อชนิดนี้เป็นแบคทีเรียชนิดหนึ่ง ซึ่งเป็นสาเหตุทำให้เกิดอาการท้องเดินจาก โรคอาหารเป็นพิษจากเชื้อโรค เนื่องจากผู้ป่วยติดเชื้อชนิดนี้จากการกินอาหารที่ไม่ได้ปรุงสุก โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เนื้อสัตว์ เป็ดไก่ 
**เชื้อชนิดนี้เป็นแบคทีเรียชนิดหนึ่ง ซึ่งเป็นสาเหตุของ โรคปอดอักเสบ

อาการ

อาการมักเกิดหลังเป็นโรคติดเชื้อทางเดินหายใจ (เช่น ไข้หวัด ไข้หวัดใหญ่ ปอดอักเสบ) หรือทางเดินอาหาร (ท้องเดิน อาหารเป็นพิษ) ประมาณ 2-4 สัปดาห์ โดยมีอาการชาที่ปลายนิ้วมือหรือนิ้วเท้า และกล้ามเนื้ออ่อนแรงของแขนหรือขา

ส่วนใหญ่จะเริ่มมีอาการที่ปลายเท้าและขา ทำให้เดินเซ หรือเดินไม่ได้ ขึ้นบันไดไม่ได้ บางรายอาจเริ่มมีอาการที่ใบหน้าหรือแขนก่อน แล้วต่อมา (นับเป็นชั่วโมง ๆ หรือเป็นวัน ๆ) ก็จะลุกลามไปที่ร่างกาย แขนขา และกล้ามเนื้อแทบทุกส่วน ซึ่งอาจกลายเป็นอัมพาตรุนแรงทั่วร่างกายได้

ผู้ป่วยอาจมีอาการกล้ามเนื้อตาและใบหน้าอ่อนแรง มีอาการกลอกตาไม่ได้ มองเห็นภาพซ้อน พูดอ้อแอ้ เคี้ยวและกลืนลำบากร่วมด้วย 

บางรายอาจมีอาการปวดมากตามร่างกาย (เช่น บริเวณไหปลาร้า สะบัก หลัง ก้น ต้นขา) จะปวดมากเวลาเคลื่อนไหวร่างกาย และอาการอาจเป็นมากขึ้นตอนกลางคืน

บางรายอาจมีความผิดปกติของระบบประสาทอัตโนมัติ ทำให้มีอาการชีพจรเต้นเร็วหรือช้ากว่าปกติ หัวใจเต้นผิดจังหวะ ความดันโลหิตสูง หรือความดันตกในท่ายืน (ลุกขึ้นยืนจะมีอาการหน้ามืด เป็นลม) กลั้นปัสสาวะและอุจจาระไม่ได้ เป็นต้น

หากเป็นรุนแรง อาจทำให้กล้ามเนื้อหายใจเป็นอัมพาต หยุดหายใจ หรือหัวใจวาย เป็นอันตรายถึงเสียชีวิตได้

โรคนี้มักมีอาการเปลี่ยนแปลงเร็ว อาการมักทรุดหนักได้ภายในไม่กี่วันหลังเริ่มมีอาการ และมักเป็นอยู่นานประมาณ 2-4 สัปดาห์


ภาวะแทรกซ้อน

ในรายที่เป็นรุนแรง ผู้ป่วยอาจเสียชีวิตด้วยภาวะแทรกซ้อน เช่น ภาวะหายใจลำบาก (เนื่องจากกล้ามเนื้อควบคุมการหายใจเป็นอัมพาต) ภาวะหัวใจวาย โรคติดเชื้อ (ปอดอักเสบ ภาวะโลหิตเป็นพิษ) เป็นต้น

ในรายที่เป็นอัมพาต นอนติดเตียงนาน ๆ นอกจากทำให้เป็นแผลกดทับแล้ว ยังอาจเกิด ภาวะหลอดเลือดดำส่วนลึกมีลิ่มเลือด ทำให้เกิดภาวะสิ่งหลุดอุดตันหลอดเลือดแดงปอดแทรกซ้อนเป็นอันตรายได้               

บางรายอาจกลายเป็นอัมพาตหรือกล้ามเนื้ออ่อนแรงเรื้อรัง หรือมีอาการชาหรือเสียวของแขนขาเรื้อรัง

การวินิจฉัย

แพทย์จะวินิจฉัยเบื้องต้นจากอาการ ประวัติการเจ็บป่วย และการตรวจร่างกาย ซึ่งมักตรวจพบอาการกล้ามเนื้อแขนขาอ่อนแรงหรือเป็นอัมพาต เดินไม่ได้ พูดอ้อแอ้ เคี้ยวลำบาก กลืนลำบาก กลอกตาไม่ได้

เมื่อใช้ค้อนยางเคาะดูรีเฟลกซ์ของข้อเข่าและข้อเท้าพบว่าลดลงหรือไม่มีเลย

อาจตรวจพบชีพจรเต้นเร็วหรือช้ากว่าปกติ หรือเต้นไม่เป็นจังหวะ ความดันโลหิตสูง หรือพบภาวะความดันตกในท่ายืน

แพทย์จะทำการวินิจฉัยให้แน่ชัด ด้วยการตรวจพิเศษ เช่น การเจาะหลัง (lumbar puncture) การตรวจคลื่นไฟฟ้ากล้ามเนื้อ (electromyography/EMG) การตรวจการชักนำประสาท (nerve conduction study) การตรวจเลือด เอกซเรย์ปอด เป็นต้น


การรักษาโดยแพทย์

แพทย์จะรับผู้ป่วยไว้รักษาในโรงพยาบาลทุกราย แม้บางรายในช่วงแรกอาการจะดูเหมือนไม่หนัก แต่เนื่องจากโรคนี้อาจมีอาการรุนแรงขึ้นในเวลาต่อมาไม่นานได้ จึงต้องเฝ้าสังเกตอาการอย่างใกล้ชิด 

แพทย์จะให้การรักษาตามอาการและแก้ไขภาวะแทรกซ้อน เช่น ให้ยาแก้ปวด ยาปฏิชีวนะรักษาโรคติดเชื้อ (เช่น ปอดอักเสบ ทางเดินปัสสาวะอักเสบ) สารกันเลือดเป็นลิ่ม (anticoagulant สำหรับผู้ที่นอนติดเตียง เพื่อป้องกันการเกิดภาวะหลอดเลือดดำส่วนลึกมีลิ่มเลือด) การทำกายภาพบำบัด เป็นต้น

ในรายที่กล้ามเนื้อหายใจเป็นอัมพาต หายใจลำบาก แพทย์จำเป็นต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ 

บางราย อาจต้องทำการถ่ายพลาสมา (plasmapheresis) หรือฉีดอิมมูนโกลบูลินเข้าหลอดเลือดดำ เพื่อกำจัดสารภูมิต้านทานที่เป็นตัวก่อโรค

ผลการรักษา ขึ้นกับความรุนแรงของโรค สภาพร่างกายของผู้ป่วย การได้รับการรักษาเร็วหรือช้า

ผู้สูงอายุ ผู้ที่มีอาการทรุดลงเร็ว ผู้ที่ได้รับการรักษาช้า และผู้ที่ต้องใช้เครื่องช่วยหายใจนาน มีโอกาสเกิดภาวะแทรกซ้อนร้ายแรงหรือเสียชีวิตสูง   

ผู้ป่วยส่วนใหญ่อาการจะดีขึ้นภายใน 2-4 สัปดาห์ แต่อาจต้องใช้เวลาในการฟื้นฟูร่างกายให้แข็งแรงเป็นปกตินาน 6-12 เดือน บางรายอาจนานเป็นแรมปี

บางรายอาการอาจไม่หายขาด และมีความพิการอย่างถาวร

บางรายหลังจากอาการทุเลาดีนานเป็นแรมเดือนแรมปีแล้ว อาจมีอาการชาและกล้ามเนื้ออ่อนแรงกำเริบซ้ำในเวลาต่อมาได้

สำหรับเด็กและคนอายุน้อย มักจะฟื้นตัวได้ดีกว่าคนอายุมาก


การดูแลตนเอง

หากสงสัย เช่น มีอาการชาที่นิ้วมือหรือนิ้วเท้า แขนหรือขาอ่อนแรง เดินลำบาก พูด เคี้ยวหรือกลืนลำบาก ซึ่งเกิดขึ้นเฉียบพลัน ควรปรึกษาแพทย์โดยเร็ว

เมื่อตรวจพบว่าเป็นกลุ่มอาการกิลแลง-บาร์เร ควรดูแลตนเอง ดังนี้

    รักษา กินยา และปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์ 
    ติดตามรักษากับแพทย์ตามนัด


ควรกลับไปพบแพทย์ก่อนนัด ถ้ามีลักษณะข้อใดข้อหนึ่ง ดังต่อไปนี้

    สงสัยอาการกำเริบหรือมีภาวะแทรกซ้อนตามมา เช่น มีอาการไข้ ชาตามนิ้วมือหรือนิ้วเท้า แขนขาอ่อนแรง เป็นต้น
    ในรายที่แพทย์ให้ยากลับไปกินต่อที่บ้าน กินยาแล้วสงสัยเกิดผลข้างเคียงจากยา เช่น มีลมพิษ ผื่นคัน ตุ่มพุพอง ตาบวม ปากบวม ปวดท้อง ท้องเดิน คลื่นไส้ อาเจียน จุดแดงจ้ำเขียว หรือมีอาการผิดปกติอื่น ๆ


การป้องกัน

ยังไม่มีวิธีป้องกันที่ได้ผล เนื่องจากยังไม่ทราบสาเหตุของการเกิดโรคนี้

ข้อแนะนำ

1. หลังจากหายจากโรคติดเชื้อทางเดินหายใจ (เช่น ไข้หวัด ไข้หวัดใหญ่ ปอดอักเสบ) หรือทางเดินอาหาร (เช่น ท้องเดิน อาหารเป็นพิษ) หากมีอาการสงสัยว่าจะเป็นโรคนี้ เช่น มีอาการชาที่นิ้วมือหรือนิ้วเท้า แขนหรือขาอ่อนแรง ควรไปพบแพทย์โดยเร็ว เนื่องจากแม้ระยะแรกอาการดูไม่รุนแรง แต่อาการจะทรุดหนักตามมาจนเป็นอัมพาตทั้งตัวได้ภายในไม่กี่วัน และเป็นอันตรายร้ายแรงได้

2. การไปปรึกษาแพทย์และได้รับการรักษาที่ถูกต้องแต่เนิ่น ๆ มีส่วนช่วยให้การรักษาได้ผลดี และลดการเกิดภาวะแทรกซ้อนที่ร้ายแรงได้

3. ผู้ที่เป็นโรคนี้อาจต้องอยู่รักษาที่โรงพยาบาลนาน และเมื่อออกจากโรงพยาบาลแล้วใช้เวลานานเป็นแรมเดือนแรมปีในการฟื้นฟูร่างกายให้หายเป็นปกติ ผู้ป่วยควรเรียนรู้ให้เข้าใจธรรมชาติของโรคและวิธีดูแลรักษา ควรปฏิบัติตัวและติดตามรักษากับแพทย์และทีมงานอย่างจริงจังและต่อเนื่อง


 






















































รวมเว็บลงประกาศฟรี ล่าสุด
รวมเว็บประกาศฟรี
โพสต์ขายของฟรี
ลงโฆษณาสินค้าฟรี
โฆษณาฟรี
ประกาศฟรี
เว็บฟรีไม่จำกัด
ทำ SEO ติด Google
ลงประกาศขาย
เว็บฟรียอดนิยม
โพสโฆษณา
ประกาศขายของ
ประกาศหางาน
บริการ แนะนำเว็บ
ลงประกาศ
รวมเว็บประกาศฟรี
รวมเว็บซื้อขาย ใช้งานง่าย
ลงประกาศฟรี ทุกจังหวัด
ต้องการขาย
ปล่อยเช่า บ้าน คอนโด ที่ดิน
ขายบ้าน คอนโด ที่ดิน
ประกาศฟรี ไม่มี หมดอายุ
เว็บประกาศฟรี ติดอันดับ
ฝากร้านฟรี โพ ส ฟรี
ลงประกาศฟรี กรุงเทพ
ลงประกาศฟรี ทั่วไทย
ลงประกาศโฆษณาฟรี
ลงประกาศฟรี 2023
รวมเว็บลงประกาศฟรี

รวม SMFขายสินค้า
ประกาศฟรีออนไลน์
ลงประกาศ สินค้า
เว็บบอร์ด โพสต์ฟรี
ลงประกาศ ซื้อ-ขาย ฟรี
ชุมชนคนไอทีขายสินค้า
ลงประกาศฟรีใหม่ๆ 2023
โปรโมทธุรกิจฟรี
โปรโมทสินค้าฟรี
แจกฟรี รายชื่อเว็บลงประกาศฟรี
โปรโมท Social
โปรโมท youtube
แจกฟรี รายชื่อเว็บ
แจกฟรีโพสเว็บบอร์ดsmf
เว็บบอร์ดsmfโพสฟรี
รายชื่อเว็บบอร์ดขายสินค้าฟรี
ลงประกาศฟรี เว็บบอร์ด
เว็บบอร์ดขายสินค้าฟรี
ฟรี เว็บบอร์ด แรงๆ
โพสขายสินค้าตรงกลุ่มเป้าหมาย
โฆษณาเลื่อนประกาศได้
ขายของออนไลน์
แนะนำ 6 วิธีขายของออนไลน์
อยากขายของออนไลน์
เริ่มต้นขายของออนไลน์
ขายของออนไลน์ เริ่มยังไง
ชี้ช่องขายของออนไลน์
การขายของออนไลน์
สร้างเว็บฟรีประกาศ

smf โพสฟรี
smf ขายของออนไลน์อะไรดี
smf โพสฟรี
อยากขายของออนไลน์ smf
ขายของออนไลน์ยังไงให้มีคนซื้อ
smf เริ่มต้นขายของออนไลน์
ไอ เดีย การขายของออนไลน์
เว็บขายของออนไลน์
เริ่ม ขายของออนไลน์ โพสฟรี
smf ขายของออนไลน์ที่ไหนดี
เทคนิคการโพสต์ขายของ
smf โพสต์ขายของให้ยอดขายปัง
โพสต์ขายของให้ยอดขายปังโพสฟรี
smf ขายของในกลุ่มซื้อขายสินค้า
โพสขายของยังไงให้มีคนซื้อ
smf โพสขายของแบบไหนดี
โพสฟรีแคปชั่นโพสขายของยังไงให้ปัง
smf แคปชั่นแม่ค้าออนไลน์
แคปชั่นแม่ค้าออนไลน์ โพสฟรี
ขายของให้ออร์เดอร์เข้ารัว ๆ
smf โพสต์เรียกลูกค้า
โพสต์เรียกลูกค้าโพสฟรี
smf ขายของออนไลน์ให้ปัง
smf โพสต์ขายของ
smf เขียนโพสขายของโดนๆ
แคปชั่นเปิดร้าน โพสฟรี
smf วิธีโพสขายของให้น่าสนใจ
วิธีเพิ่มยอดขาย โพสฟรี
smf เทคนิคเพิ่มยอดขาย

เพิ่มยอดขายให้เข้าเป้า
เว็บบอร์ดฟรี
โปรโมทฟรี
มีลูกค้าเพิ่ม - YouTube
ผลักดันยอดขายโปรโมทฟรี
โปรโมทผลักดันยอดขาย
โปรโมทแผนการเพิ่มยอดขายให้ได้ผล
โปรโมทวิธีการวางแผนการเพิ่มยอดขาย
ยอดขายไม่ดีควรทำอย่างไร
ยอดขายตกเกิดจากอะไร
ทำไมต้องเพิ่มยอดขาย
ขายฟรี
ยอดการขาย คืออะไร
กลยุทธ์เพิ่มยอดขาย
โพสฟรีการกระตุ้นยอดขาย
โปรโมทกระตุ้นยอดขาย
โปรโมทฟรีออนไลน์กระตุ้นยอดขาย
ประกาศฟรีเพิ่มยอดขาย
ลงประกาศเพิ่มยอดขาย
ฝากร้านฟรีเพิ่มยอดขาย
ลงประกาศฟรีใหม่ ๆ เพิ่มยอดขาย
เว็บประกาศฟรีเพิ่มยอดขาย
Post ฟรี
ประกาศขายของฟรี
ประกาศฟรี
โพส SEO
ลงโฆษณาฟรี
โปรโมทเพจร้านค้า